สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ว่า นักศึกษาสาวชาวออสเตรียรายหนึ่งต้องเผชิญชะตากรรมสลด เมื่อเธอถูกจับกุมฐานมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลที่ไม่ใช่คู่ครอง แต่เจ้าตัวถูกตำรวจสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ บอกให้เธอแต่งงานกับคนร้ายที่ข่มขืนเธอ เพื่อหลีกเลี่่ยงโทษจำคุก

รายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้ หญิงสาวดังกล่าวเสี่ยงจะเผชิญโทษถูกจำคุกเพราะมีเพศสัมพันธ์นอกสมรส และดื่มแอลกฮอลล์ โดยเจ้าตัวมีอาการเมา ก่อนถูกคนร้ายก่อเหตุข่มขืนเธอ และเธอได้แจ้งความตำรวจว่าถูกข่มขืน แต่กลับถูกจับกุมด้วยโทษความผิดดังกล่าว ซึ่งถือเป็นโทษผิดกฎหมายในยูเออี และเหตุการณ์ดังกล่าวได้ลุกลามบานปลาย โดยมีประชาชนกว่า 260,000 หลายเข้าชื่อสนับสนุนให้ทางการยูเออีปล่อยตัวเธอเป็นอิสระ ก่อนที่รัฐบาลออสเตรียได้จัดตั้งทีมฉุกเฉินขึ้นเพื่อเจรจาให้ทางการยูเออีปล่อยตัวเธอด้วย ซึ่งเคราะห์ดีที่เธอได้รับการปล่อยดีในที่สุด

ทั้งนี้ นักศึกษาดังกล่าวซึ่งเป็นชาวมุสลิมเปิดเผยว่า เธอได้ถูกชายเยเมนปลุกปล้ำบริเวณลานจอดรถใต้ดิน หลังเธอไปงานปาร์ตี้และดื่มแอลกฮอลล์ ก่อนที่เธอจะแจ้งความแต่กลับถูกจับกุม และตำรวจบอกว่า ทางเดียวที่เธอจะรอดเป็นอิสระได้ ก็คือ เธอจะต้องยอมแต่งงานกับเหยื่อที่ข่มขืนเธอ ก่อนที่เธอจะเป็นอิสระเพราะทางการออสเตรียเข้าแทรกแซง และมีการเข้าชื่อกดดันทางการยูเออี โดยหลายฝ่ายเชื่อว่า สาเหตุที่นักศึกษาหญิงรายนี้ถูกข้อหาดังกล่าวเพราะเธอเป็นมุสลิม ขณะที่คดีของเธอยังคล้ายกับคดีเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งหญิงนอร์เวียวัย 24 ปี ได้รับการอภัยโทษจากความผิดจำคุก 1 ปี 4 เดือน หลังแจ้งความว่าถูกคนร้ายข่มขืน