แหลมฉบังเซ็งการเมืองยุ่ง ทำรถยนต์ญี่ปุ่นหนีไปลงทุนผลิตที่อินโดแล้ว 1 รุ่น ผวาหนีไปเพิ่ม ทำยอดส่งออก-นำเข้า ผ่านท่าเรือโตเหลือแค่ 3% จากเป้าหมาย 8%
เรือเอกสุทธินันท์ หัตถวงษ์ ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง การท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีแนวโน้มนักลงทุนญี่ปุ่นย้ายฐานการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่จากประเทศไทยไปประเทศอินโดนีเซีย แล้ว 1 รุ่น เนื่องจากไม่มั่นใจสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันยังมีนักลงทุนจากญี่ปุ่นอีกหลายรายที่อยู่ระหว่างการจับตามองอย่างใกล้ชิด เพื่อพิจารณาตัดสินใจว่าจะย้ายไปเพิ่มเติมหรือไม่
“เมื่อปลายปีที่แล้วได้เดินทางไปร่วมหารือกับนักลงทุนญี่ปุ่นเพื่อเชิญชวนให้มาลงทุนในไทย โดยเน้นถึงความพร้อมในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นแรงงาน และโครงสร้างพื้นฐาน จึงถือว่ามีการตอบรับดี แต่ล่าสุดพบว่ามีนักลงทุนบางรายที่ตัดสินใจย้ายโปรเจคใหม่ไปที่อินโดนีเซียแล้ว”
ทั้งนี้ยอมรับว่าอุตสาหกรรมที่น่าเป็นห่วงมากสุดในขณะนี้ คือ ยานยนต์เพราะตามปกติรถยนต์รุ่นใหม่จะต้องมาผลิตที่ประเทศไทย แต่ขณะนี้ได้เริ่มย้ายไปประเทศอื่นแทน ซึ่งการลดลงของการลงทุนจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของท่าเรือแหลมฉบังโดยตรง เพราะหากมีการเติบโตทางเศรษฐกิจมาก การนำเข้าและส่งออกสินค้าก็จะมากขึ้นตามไปด้วย แต่หากการลงทุนลดลง เศรษฐกิจเติบโตน้อย ก็จะส่งผลให้การส่งออกสินค้าลดลงด้วย
เรือเอกสุทธินันท์ กล่าวว่า การดำเนินงานในปีนี้ตั้งเป้าหมายนำเข้าและส่งออกสินค้าผ่านทางท่าเรือแหลมฉบังเติบโตกว่าปีที่แล้วประมาณ 3% หรือหากได้ 5% จะดีมาก ถึงแม้จะเป็นตัวเลขการเติบโตที่ต่ำกว่าปกติที่จะมีการเติบโตประมาณ 8% ต่อปีก็ตาม เนื่องจากมีผลกระทบจากความวุ่นวายทางการเมือง ส่วนปีที่แล้วมีการเติบโตประมาณ 2.5% เท่านั้น เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกตกต่ำ