เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 31 ม.ค. พ.ต.ท.สกนธ์ ศรีวัฒกพงศ์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.ท่าข้าม รับแจ้งมีผู้ถูกอาวุธมีดแทงเสียชีวิตบริเวณปากซอยบางขุนเทียนชายทะเล 9/1 ถนนบางขุนเทียนชายทะเล แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท ผกก.สน.บางขุนเทียน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่พฐ. และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุบริเวณ อยู่ริมถนนบางขุนเทียนชายทะเลฝั่งขาเข้า ช่องทางซ้ายสุด พบศพนายอำนวย อายุ 54 ปี อาชีพรับเหมาติดตั้งผ้าใบ สภาพศพนอนคว่ำหน้าบนพื้นถนนสวมเสื้อเชิ้ตสีแดง กางเกงขาสั้นสีฟ้า รองเท้าแตะสีดำ มีมีดพกยาวประมาณ 4 นิ้ว ปักคาอยู่บริเวณท้ายทาย นอกจากนี้ยังพบบาดแผลถูกอาวุธมีดแทงเข้าบริเวณหน้าอกซ้ายจำนวน 2 แผล
ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีขาวคาดแดง ทะเบียน ลมน 200 กรุงเทพมหานคร ถูกรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นบริโอ สีขาว ทะเบียน ฆฬ 1815 กรุงเทพมหานคร ชนท้ายเสียหลักล้มคว่ำอยู่ในช่องทางขวาสุด ในที่เกิดเหตุยังพบ นายสุทธิพงศ์ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของผู้เสียชีวิต ยืนรอมอบตัวอยู่โดยที่มือยังมีคราบเลือดเปรอะเปื้อนเบื้องต้นให้แพทย์นิติเวชรพ.ศิริราช และพฐ.เก็บร่องรอยหลักฐานในที่เกิดเหตุก่อนมอบศพมูลนิธินำส่งชันสูตรอย่างละเอียดที่นิติเวช รพ.ศิริราช
สอบสวนนายสุทธิพงศ์ ซึ่งทำงานเป็นพนักงานฝ่ายบริการลูกค้า ธนาคารแห่งหนึ่ง ให้การว่าก่อนเกิดเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์พาผู้ตาย ออกมาจากบ้านญาติที่หมู่บ้านคาซ่าวิว ในซอยวัดท่าข้ามเพื่อไปตกลงพูดจาปัญหาครอบครัวหลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้ตายดื่มสุราฉลองตรุษจีนจนเมา และมีปากเสียงทะเลาะกับมารดา ถึงขนาดลงมือทำร้ายร่างกายมารดาจนได้รับบาดเจ็บ จึงได้ตัดสินใจพามารดาพร้อมภรรยาและบุตรสาว ออกจากบ้านไปพักบ้านญาติที่หมู่บ้านคาซ่าวิวในซอยวัดท่าข้าม
กระทั่งช่วงสายผู้ตายได้ขับรถมาหาที่บ้าน พร้อมจะพาหลานกลับไปด้วย โดยยังมีทีท่าไม่พอใจอยู่ จึงได้ตัดสินใจชวนผู้ตายขี่รถออกมาเพื่อจะมาพูดคุยเคลียร์ปัญหาในครอบครัว แต่ระหว่างที่ขี่รถออกมา ผู้ตายก็ยังไม่หยุดพูดจาด่าทอทั้งตนและมารดา กระทั่งเมื่อรถแล่นมาถึงจุดเกิดเหตุ ตนได้เบรครถกระทันหัน ก่อนที่รถยนต์ฮอนด้าที่ตามหลังมาเบรคไม่ทันชนท้ายจนรถเสียหลักล้ม
เมื่อผู้ตายลุกขึ้นมาได้กระชากคอเสื้อตน พร้อมพูดจาด่าทอตนอย่างรุนแรง ด้วยความโมโหประกอบกับที่เก็บกดเรื่องที่ผู้ตายชอบทำร้ายมารดาเป็นประจำ จึงได้ชักมีดพกซึ่งปกติพกไว้ใช้ตัดสายรัดเงินแบงค์ ออกมาจ้วงแทงผู้ตายไป 1 ครั้ง แต่ผู้ตายก็ยังไม่หยุดพูดจาต่อว่าตน จึงได้ตัดสินใจแทงซ้ำจนผู้ตายล้มฟุบเสียชีวิต กระทั่งเมื่อตั้งสติได้ก็รู้สึกเสียใจต่อความผิดที่กระทำลงไป พร้อมขออโหสิกรรมกับเหตุที่ได้กระทำลงไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาฆ่าบุพการี มาตรา 289 และข้อหาพกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ควบคุมตัวดำเนิคดีตามกฎหมายต่อไป