ข้อมูลใหม่ว่าด้วย "เรือโนอาห์"
เออร์วิง ฟิงเคิล ชายผมยาว หนวดเครายาวเฟิ้ม ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยภัณฑารักษ์ประจำแผนกตะวันออกกลางของพิพิธภัณฑ์สถานแห่ง ชาติอังกฤษมาเป็นเวลานาน เมื่อสามปีก่อน เขาได้รับจารึกดินเหนียวโบราณชิ้นหนึ่ง ขนาดเท่าสมาร์ทโฟนสักเครื่อง (ดูภาพประกอบ) สลักตัวอักษร คูนีฟอร์ม (อักษรรูปลิ่ม) จากผู้เป็นบิดา ซึ่งได้จารึกดังกล่าวมาอยู่ในครอบครองไม่นานหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง จากการตรวจสอบพบว่าจารึกดังกล่าวอายุเก่าแก่ถึง 4,000 ปี มาจากอารยธรรมบาบิโลเนียในดินแดนที่เรียกกันว่า เมโสโปเตเมีย (ปัจจุบันคือพื้นที่ในประเทศอิรัก)
ฟิงเคิลใช้เวลาว่างพยายามถ่ายทอดจารึกภาษาโบราณดังกล่าวออกมาเพื่อทำความ เข้าใจเนื้อหา แล้วในที่สุดก็พบว่า สิ่งที่เขาได้สืบทอดการครอบครองมาก็คือ ข้อมูล หรือความลับใหม่ว่าด้วยเรื่อง "เรือกู้โลก" ชนิดละเอียดยิบมากกว่าที่เคยมีการค้นพบกันมาก่อนหน้านี้
ทำให้เขาเชื่อว่า นี่กลายเป็นการค้นพบ "เอกสาร" สำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งของมนุษยชาติด้วย
ข้อมูลจากจารึกดังกล่าว ถูกนำมาเรียบเรียง อธิบายขยายความเป็นหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งเผยแพร่ในประเทศอังกฤษแล้วในชื่อ "เรือกู้โลกก่อนโนอาห์" แต่เรื่องราวในวันแถลงข่าวเพื่อเปิดตัวหนังสือเล่มนั้นชวนให้คิดมากกว่า เรื่องของการโปรโมตหนังสือสักเล่มหนึ่งแน่นอน
ที่น่าสนใจก็คือ ข้อมูลที่มีอยู่ในจารึกดังกล่าว อธิบายไว้โดยละเอียดถึงเรื่องความเชื่อว่าด้วยน้ำท่วมโลกครั้งใหญ่จากความ "ผิดบาป" แบบเดียวกันปรากฏอยู่ในพระคัมภีร์เก่า (โอลด์ เทสตาเมนท์) เป๊ะ แต่มีความครบถ้วนสมบูรณ์มากกว่าตรงที่ ให้รายละเอียดในเรื่องของวิธีการจัดสร้าง "เรือทรงกลมขนาดยักษ์" สำหรับใช้เป็นเรือในภารกิจ "กู้โลก" จากน้ำท่วมใหญ่ดังกล่าวนั้น เช่นเดียวกับที่มีคำสั่งให้นำสัตว์ชนิดต่างๆ ขึ้นเรือ "เป็นคู่ๆ"
ฟิงเคิลบอกว่า มีประเด็นให้ถกกันในเบื้องต้น 2 เรื่อง หนึ่งคือ ทำไมเรือถึงกลม เรือทรงกลมนั้นในทางวิศวกรแล้ว ลอยน้ำได้หรือไม่? กับอีกเรื่องก็คือ คำสั่งสร้างเรือดังกล่าวนี้
ใช่บ่งชี้ว่ามี "เรือของโนอาห์" จริงหรือไม่?
ฟิงเคิลบอกว่า เรือทรงกลมอาจแปลกประหลาดในเวลานี้ แต่ในยุคอารยธรรมโบราณปรากฏเรือทรงกลมนี้ใช้งานกันอยู่ดกดื่น เรียกกันว่า "คอราเคิล" ส่วนใหญ่มักทำจากหนังของสัตว์หุ้มทับโครงไม้ ข้อดีของความกลมของมันก็คือ เรือลำนี้ไม่มีวันล่ม นอกจากนั้นยังมีน้ำหนักเบา หิ้วไปไหนมาไหนได้สะดวก
คำสั่งให้มีการสร้างเรือทรงกลมขนาดใหญ่สำหรับใช้ "กู้โลก" จากน้ำท่วมใหญ่จึงมีเหตุมีผลอยู่ในตัว สำหรับยุคเวลานั้น และเพื่อพิสูจน์ให้เห็นกันว่ามัน "ใช้งาน" ได้หรือไม่ วิศวกรจำนวนหนึ่งจึงตัดสินใจร่วมมือกัน ทำตามคำสั่งในจารึกทุกอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อดูว่าถึงที่สุดเมื่อแล้ว เสร็จแล้ว เรือลำนี้จะลอยน้ำได้หรือไม่
ในความเห็นของฟิงเคิล การที่มีจารึกบอกถึงคำสั่งสร้างเรือ นำสัตว์เป็นคู่ๆ ขึ้นไปเก็บรักษาไว้ ฯลฯ นั้น ไม่ได้เป็นหลักฐานบ่งชี้ว่า มีเรือของโนอาห์ที่ทุกคนเสาะหากันอยู่นานนับศตวรรษแล้วจริงๆ บนโลกใบนี้แต่อย่างใด
แต่กลับเชื่อไปอีกทางว่า บาบิโลเนียคงเคยเกิดน้ำท่วมระดับ "มหึมา" ขึ้นมาจริงๆ แล้วมันก็ถูกจารึกไว้ เป็นทั้งคำเตือน คำสอนเชิงกุศโลบายและเป็นยุทธวิธีการป้องกันที่ยืนยาวต่อมาจนถึงเวลานี้
ฟิงเคิลบอกว่า ตัวเองไม่เชื่อว่าเรือของโนอาห์น่ะมีจริงๆ แต่มีหลายคนมากที่เชื่อในทางตรงกันข้ามซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดานั่นเอง