หนุ่มปริศนาซิ่งเบนซ์แหกด่านหนี ตร. แต่ไปไม่รอดถูกจับได้เพราะพุ่งชนเสา ตร.พบเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับหลายคดี แถมใช้เอกสารปลอมเพียบ
เมื่อวันที่ 30 ม.ค.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบุรี ได้แจ้งวิทยุไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจตามด่านตรวจต่างๆให้ช่วยกันสกัดจับรถเบนซ์สีเทา-ดำหมายเลขทะเบียน กก-1737นครนายก หลังจากได้รับแจ้งว่ารถคันดังกล่าวได้ขับหนีการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี โดยขับหนีไปตามเส้นทางถนนเพชรเกษมและขับเข้ามาในตัวเมืองเพชรบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เขาย้อยขับรถติดตามมาติดๆจนกระทั่งรถคันดังกล่าว ได้พุ่งชนเสยท้ายรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 110สีแดงดำ หมายเลขทะเบียนป้ายแดงของบริษัท สินพล หมายเลข 154จนล้ม 1 คันทำให้มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย คือนายอเนก เลิศรัก อยู่บ้านเลขที่236/2 หมู่ 9 ต.ธงชัย อ.เมือง จ.เพชรบุรี และแฟนสาวที่ไม่ทราบชื่อ
นอกจากนี้ยังมีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้าวีออสสีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียนกค 8747 เพชรบุรี ที่ขับตามหลังรถจักรยานยนต์มาได้หักหลบรถจักรยานยนต์ที่ล้มอยู่ทำให้รถเสียหลักปีนขึ้นไหล่ทางจนรถได้รับความเสียหายอีก1 คันโดยบริเวณบังโคลนหน้าหลุดได้รับความเสียหายและยังถูกชนเข้าที่บริเวณส่วนท้ายด้วย ทราบชื่อคนขับต่อมาคือนางบุญมณี นิลงาม อายุ 56ปีที่ถูกชนบริเวณส่วนท้ายและบริเวณบังโคลนหน้าหลุดได้รับความเสียหาย
ขณะที่รถเบนซ์ของผู้ต้องสงสัยที่ขับหนีตำรวจมาได้เกิดเสียหลักขับพุ่งชนเข้ากับเสาป้ายบอกเส้นทาง จนได้รับความเสียหายโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเอาไว้ได้ จากการตรวจค้นภายในรถพบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค 1 เครื่อง กระเป๋าสตางค์ บัตรประจำตัวประชาชนใบขับขี่ที่ระบุชื่อ นายสรวิช พูลศรี บ้านเลขที่ 87ถนนเลี่ยงเมือง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร และกระเป๋าเดินทางและสิ่งของจำนวนมากที่อยู่ด้านท้ายรถแต่ไม่พบยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมายใด
นอกจากนี้ยังพบภาพถ่ายในชุดข้าราชการจำนวน1 รูปหมวกแก๊ปปักอักษรกรมราชองค์รักษ์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายสรวิชไปทำการสอบสวนที่ สภ.เมืองเพชรบุรีและนำรถยนต์คันดังกล่าวไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่ามีสิ่งของผิดกฎหมายใดซุกซ่อนอยู่ในรถหรือไม่
เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่านายสรวิชได้ทำการยักยอกทรัพย์มาจากอู่ไชยวัฒน์หน้าโรงแรมแฮปปี้อินน์พื้นที่ อ.เมืองจ.เพชรบุรี ก่อนที่จะขับรถหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนมาเกิดอุบัติเหตุชนรถจักรยานยนต์และรถยนต์เก๋งจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำเพิ่มเติมและรอเจ้าทรัพย์มาชี้ตัวแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบเอกสารพบว่าเป็นเอกสารที่พบในรถนั้นเป็นเอกสารปลอมทั้งหมด ซึ่งจากการเช็คข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าชื่อจริงคือนายชนะพล วงศ์สว่าง อายุ 56ปี อยู่บ้านเลขที่ 117 หมู่บ้านเศรษฐกิจ 31ต.บางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร รวมถึงทะเบียนรถที่ใช้และป้ายภาษีก็ปลอมเช่นกันนอกจากนี้ยังพบว่ามีหมายจับอีก3 คดีและหมดอายุความไปแล้ว 2คดี โดยตำรวจอยู่ระหว่างการขยายผลว่านายชนะพลเคยก่อคดีอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่