เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 30 ม.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า ร.ต.อ.ธนสิทธิ์ แก่นลืม รอง สวป.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจาก น.ส.นุสรา ไพจินดา อายุ 29 ปี ว่า ขณะที่ตนนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์รับจ้างมาทางแยกไฟแดงตลาดโสภณ พัทยาใต้ ก่อนขึ้นสะพานต่างระดับแหลมบาลีฮาย ได้ถูกคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นจำนวน 2 คนขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ สีส้ม-เทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน กระชากกระเป๋าถือสีน้ำตาลซึ่งมีทรัพย์สินมีค่า โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เงินสดประมาณ 700 บาท หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับรถจักรยายนต์หลบหนีไป
หลังได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย ตำรวจจึงกระจายกำลังออกสกัดจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ กระทั่งพบคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ตามที่ผู้เสียหายแจ้ง หลบหนีไปถนนสาย 7 ตอน 5 แล้วเข้าไปในซอยหลังวัดหนองใหญ่และถูกสกัดจับกุมตัวได้ได้บริเวณปากซอยหนองใหญ่ 15 ทราบชื่อต่อมา คือ นายนพพร แก้วทอง อายุ 19 ปี คนขับรถ อยู่ม.4 ต.ผาจุก อ.เมืองอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์ และ นายโจ๊ก (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นั่งซ้อนท้าย อยู่ม.4 ต.ผาจุก อ.เมืองอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์ เป็นนักศึกษาเทคนิคใน จ.ระยอง
ตรวจค้นในตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน พบของกลางซึ่งเป็นทรัพย์สินของผู้เสียหาย เป็นกระเป๋าถือแบบหญิงสีน้ำตาลภายในมีเงินสดจำนวน 700 บาท มือถือ 1 เครื่อง โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริงและอ้างว่าทำเป็นครั้งแรก
โดยนายนพพร แก้วทอง เป็นคนขับรถส่วนนายโจ๊ก เพื่อนที่นั่งซ้อนท้ายก่อเหตุกระชากกระเป๋าของผู้เสียหาย ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุอ้างว่าจะเอาเงินไปเติมน้ำมันรถจักรยานยนต์ เพื่อขับกลับบ้านที่ จ.ระยอง หลังพากันมาเที่ยวที่พัทยาแล้วเงินหมด ภายหลังก่อเหตุได้ขับรถหลบหนี นอกจากนี้ผู้ต้องหาทั้งสองคนยังรับสารภาพเคยก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ในพื้นที่ จ.ระยองมาแล้ว พอมาเที่ยวพัทยาแล้วเงินหมดก็เลยก่อเหตุที่พัทยา
เมื่อ น.ส.นุสรา ผู้เสียหายดูตัวคนร้ายก็ชี้ตัวยืนยัน พร้อมกับตรวจทรัพย์สินยืนยันว่าเป็นของตนเอง ในเบื้องต้นตำรวจได้จับกุมตัวคนร้ายทั้ง 2 คนโดยตั้งข้อหา “ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหะนะในการก่อเหตุ” และจะสอบสวนว่าเคยก่อเหตุมาก่อนหน้านี้อีกหรือไม่ ก่อนส่งตัวดำเนินคดีต่อไป