เมื่อ 27 ม.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 10 ศาลจังหวัดชลบุรี อ.เมือง จ.ชลบุรี ศาลจังหวัดชลบุรีได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีกรณีนายยศพล แหกล้า อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/2 ม.6 ต.ห้วยกะปิ อ.เมือง จ.ชลบุรี ใช้อาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. ยิงน.ส.เกวลิน หงษ์ทอง แฟนสาว และนางวิมล หงษ์ทอง ว่าที่แม่ยายเสียชีวิตที่ร้านประดับยนต์พีเอสโมดิฟายด์ ต.ห้วยกะปิ อ.เมือง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 8 ส.ค.2556 ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพได้อย่างชัดเจนว่า หลังก่อเหตุนายยศพลได้เดินส่ายก้นแสดงอาการเย้ยหยันและสะใจจนกลายเป็นข่าวครึกโครมนั้น

ศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาคดีดำเลขที่อ.5801/56 โดยมีพนักงานอัยการจังหวัดชลบุรีร่วมกับนายณรงค์ หงษ์ทอง บิดาของน.ส.เกวลิน เป็นโจทย์ร่วมฟ้อง ฐานความผิดฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวและไม่ใช่เป็นกรณีที่ต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์โดยเปิดเผยและโดยไม่มีเหตุสมควร, ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต

โดยศาลใช้เวลาในการอ่านคำพิพากษาเพียง 2 ชั่วโมง ตัดสินโทษนายยศพลกรณีอาวุธปืนจำคุก 6 เดือน ส่วนข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ที่นายยศพลภาคเสธว่ากระทำไปเพราะบันดาลโทสะนั้นศาลสืบพยานหลักฐานเห็นว่าไม่มีมูล แต่นายยศพลกระทำไปด้วยเจตนาและมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนขณะก่อเหตุ ประกอบกับทำการหลบหนีจนต้องออกหมายจับ และกระทำการเย้ยหยันกฎหมายไม่มีความสะทกสะท้านในความผิดด้วยการเดินเต้นส่ายก้นหลังก่อเหตุ ตัดสินให้มีโทษประหารชีวิตสถานเดียว

แบ่งเป็น 2 กรรม ทั้งกรณีฆ่าน.ส.เกวลิน และฆ่านางวิมล พร้อมให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทย์เป็นจำนวนเงิน 1 ล้าน 2 แสนบาท และจ่ายค่าสินไหมให้แก่บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของนางวิมลอีก 2 คน เป็นจำนวนเงิน 1 ล้าน 4 แสน 1 หมื่นบาท