วันที่ 26 ม.ค. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า
ระบบเลือกตั้งตายแล้ว
วันนี้เราได้เห็นแล้วว่า การเลือกตั้งล่วงหน้าเกิดขึ้นไม่ได้ หลายเขตเลือกตั้งได้ประกาศยุติการลงคะแนน เนื่องจากมีม็อบ กปปส. ไปปิดล้อม นำกุญแจคล้องประตูรั้ว ไม่ให้เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเข้าไปเตรียมการเลือกตั้ง ประชาชนห้ามเข้าไปใช้สิทธิ์
เรียกว่า “กูไม่ได้ลง มึงอย่าหวังว่าจะได้เลือกตั้ง”
พื้นฐานของประชาธิปไตยในประเทศนี้ ถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวนของผู้ที่ต้องการเอาคำว่าปฏิรูปมาเป็นเงื่อนไข ป้อมปราการของอุดมการณ์ที่แตกต่างได้พังทะลายระบบเลือกตั้งให้สูญเสียย่อยยับอย่างเหลือคณานับ
แทนที่จะใช้ระบบเลือกตั้งแก้ไขปัญหาเมื่อเกิดความขัดแย้ง ในเมื่อเห็นว่ารัฐบาลทำไม่ถูกต้อง ระบอบทักษิณเลวร้าย ก็ต้องรณรงค์ให้โหวตโน เป็นแรงต่อต้านในการต่อสู้ตามระบอบประชาธิไตย
ในเมื่อระบอบทักษิณจะต้องถูกกำจัด แต่เป็นเพราะมีประชาชนจำนวนมากยังลุ่มหลง งมงาย ตะบี้ตะบันเลือกอยู่ จึงกลายเป็นหน้าที่ของคุณที่จะต้องหยุดระบอบนี้ด้วยการ “ไม่ให้ประชาชนทั้งหมดไปเลือกตั้ง” อย่างนั้นหรือ?
กกต. ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรมภายใต้ภาวะสถานการณ์แบบนี้ได้ แล้วใครล่ะครับที่ทำให้ประชาชนไม่สามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวของเขาเอง? กำนันสุเทพ พรรคประชาธิปัตย์ หรือมวลมหาประชาชน? ที่ไปตัดสินใจแทนพวกเขาทั้งหมด
น่าสงสารประเทศไทย แม้แต่จะไปเลือกตั้งตามสิทธิขั้นพื้นฐานยังถูกห้าม ต้องมีคนมาคอยบอกว่าทางไหนที่ควรจะเดิน
ที่สำคัญคนที่เอาแต่บอกเรา ล้วนเป็นนักการเมืองที่เคยอยู่ในระบอบประชาธิปไตยมาทั้งชีวิต ครั้งก่อนโหวตโนไม่ชนะ ครั้งนี้ก็ไม่ต้องให้ใครได้เลือกตั้งแม่_ซะเลย