ปิดห้องสอบหลายชั่วโมง หนุ่มขนอาวุธสงคราม เข้ากรุงเทพฯ ยังให้การวกวน อ้างได้รับจ้างจากทหารคนหนึ่ง
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 25 มกราคม พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง.ผบ.ตร. พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง รอง.ผบช.ภ.1. พล.ต.ต.กรเอก เพร็ชรไชยเวส รอง.ผบช.ภ.1. พล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.วิสูตร ฉัตรชัยเดช รอง.ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายชินรัตน์ กาญจนะวิเชียร อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ 2 ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.ลพบุรี โดยสามารถจับกุมได้ที่ปากซอยสุดสวาทคลอง หมู่ที่ 3 ตำบลบึงยี่โถ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี
ทั้งนี้ได้ตรวจยึดของกลางหลายรายการ ได้แก่ 1.อาวุธปืนอาร์ก้าแบบพับฐานจำนวน 1 กระบอก 2. กระสุนปืนอาร์ก้าจำนวน 60 นัด 3.แม็กกาซีนจำนวน 2 อัน 4. วัตถุระเบิดเอ็ม 61 จำนวน 1 ลูก 5.เครื่องยิงลูกระเบิดอาร์พีจีจำนวน 1 กระบอก 6.ลูกระเบิดอาร์พีจีจำนวน 1 ลูก 7.แท่งดินส่งลูกระเบิดอาร์พีจีจำนวน 1 แท่ง 8.มีดพับจำนวน 2 เล่ม 9.ไม้ขีดไฟมัดรวมกับก้านธูปจำนวน 2 นัด 10.โทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง 11.หมวกนิรภัยจำนวน 2 ใบ 12.ตะปูเรือใบจำนวน 22 อัน ไฟฉายจำนวน 1 กระบอกเสื้อลายพรางทหาร หมวกไหมพรม หมวกลายพรางทหาร แผ่นป้ายทะเบียน หมายเลข ณฐ 6140 กรุงเทพมหานคร จำนวน 2 แผ่นโซ่สีเงิน ยาว 50 ซม.จำนวน 1 เส้น รถยนต์ส่วนบุคคล ยี่ห้อฮอนด้า สีเขียว ทะเบียน กต 7253 ลพบุรี จำนวน 1 คัน โดยแจ้งข้อกล่าวหามีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตได้ไว้ในความครอบครอง โดยผิดกฎหมาย มาตรา 17,38,55,78 วรรคหนึ่ง มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปีถึงจำคุกตลอดชีวิต พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490
พล.ต.อ.เอก เปิดเผยว่า ขณะที่ พ.ต.ต.สุทธิพงษ์ ไชยบำรุง สวป. ร.ต.ท.ประสงค์ มีแวว รอง สวป. พร้อมกำลังตำรวจ สภ.ธัญบุรีตั้งจุดตรวจค้นอยู่ภายในซอยสุดสวาท คลอง 4 ที่เกิดเหตุ ได้มีผู้ต้องหาขับขี่รถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียน กต 7253 ลพบุรี ผ่านมาถึงจุดตรวจค้น มีลักษณะเป็นพิรุธ จึงได้เรียกให้หยุดและขอเข้าทำการตรวจค้น จากการตรวจค้นภายในรถพบอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน เครื่องยิงลูกระเบิดอาร์พีจี ลูกระเบิดอาร์พีจี ละวัตถุระเบิดตามรายการของกลางลำดับที่ 1-7 ห่อด้วยถุงพลาสติกสีดำวางอยู่ที่วางเท้าบริเวณเบาะด้านหลัง และมีเสื้อผ้าลายพรางทหารวางปิดทับอีกชั้นหนึ่ง
จากการสอบถามเบื้องต้นได้ความว่า ผู้ต้องหาอ้างว่ารับจ้างจากทหารคนหนึ่ง เบื้องต้นยังไม่ทราบชื่อและที่อยู่ให้ขับรถคันดังกล่าว ซึ่งจอดอยู่ในวัดกลางคลอง 4 เขตพื้นที่ลำลูกกาให้ไปส่งที่ถนนรังสิต-นครนายก ช่วงคลอง 4 จึงได้แจ้งข้อหาและนำตัวผู้ต้องหา พร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ธัญบุรี ดำเนินคดี
พล.ต.ต.เมธี กล่าวว่า ได้รับมอบหมายให้ลงมาคุมคดีด้วยตนเอง จึงได้นำกำลังชุดสืบสวนภาค 1 สืบสวนจังหวัดปทุมธานี ลงพื้นที่บริเวณจุดที่นายชินรัตน์ได้เดินทางไปรับรถเก๋งบริเวณซอย 4 ใกล้เคียงวัดกลางคลอง 4 ตำบลบึงคำพร้อย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานีตามที่ผู้ต้องหาได้กล่าวอ้างว่า ขับรถบรรทุกอาวุธสงครามออกมา เพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดว่ามีใครนำรถคันดังกล่าวมาจอดไว้หรือไม่ และจากการสอบสวนพยานให้การว่า ก่อนหน้าที่นายชินรัตน์มารับรถ มีผู้ใดนำรถคันนี้มาจอดไว้หรือไม่
ส่วนทางด้านการสอบปากคำผู้ต้องหาตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ผู้ต้องหายังให้การวกวน ไม่ยอมให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่ก็ไม่เกินความสามารถของตำรวจที่จะนำไปสู่การติดตามจับกุมเจ้าของอาวุธสงคราม ด้านการตรวจสอบทะเบียนรถคันดังกล่าว พบว่าก่อนหน้านี้มีผู้ครอบครองรถคันดังกล่าวจำนวน 3 ราย รายแรกเป็นผู้หญิงอยู่ที่จังหวัดราชบุรี ได้ขายโอนลอยให้กับผู้ชายที่จังหวัดสระบุรีและขายต่ออีกทอดให้กับชายคนหนึ่งในจังหวัดลพบุรี ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่