วันที่ 24 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะร.ต.ท.ประสงค์ มีแวว และร.ต.ต.บงการ อนันตภัทร ร่วมปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าสายตรวจ สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ตั้งด่านความมั่นคงบริเวณปากซอยสุขสวัสดิ์ ริมถนนรังสิต-นครนายก คลอง 4-5 หมู่ 2 ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี พบรถเก๋งฮอนด้าซีวิค สีเขียว ทะเบียน กต 7253 ลพบุรี มีลักษณะต้องสงสัย ติดฟิล์มดำมืดผิดปกติขับผ่านเข้ามาที่ด่านจึงเรียกตรวจ พบคนขับชื่อนายชินรัตน์ กาญจนะวิเชียร อายุ 45 ปี สวมเสื้อยืดสีเขียว สกรีนหน้าอกว่า กองทัพบก แสดงอาการมีพิรุธ ทั้งพยายามยัดเงินติดสินบนเจ้าหน้าที่ 100 บาทขอให้ปล่อยไป
ผลการตรวจค้นรถเก๋งฮอนด้าซีวิค ตรงเบาะหลังพบผ้าวางคลุมอยู่ เมื่อเปิดออกดูเจออาวุธปืนสงครามอาก้า 1 กระบอก กระสุนปืนอาก้า 60 นัด เครื่องยิงอาร์พีจีพร้อมกระสุน 1 ลูก ระเบิดสังหารเอ็ม-61 จำนวน 1 ลูก ตะปูเรือใบจำนวนมาก เสื้อผ้าชุดดำ หมวกไอ้โม่ง มีดพับ และโซ่ ต่อมานำตัวสอบสวนขยายผลที่สภ.ธัญบุรี โดยมีพล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 พร้อมพล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวส รองผบช.ภ.1 พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง รองผบช.ภ.1 และพล.ต.ต.สมิทธ มุกดาสนิท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ปทุมธานี ร่วมสอบปากคำนายชินรัตน์ ผู้ต้องหา
เบื้องต้น นายชินรัตน์ให้การอ้างว่า ก่อนถูกจับกุม ตนนั่งรถตู้มาจากจ.ลพบุรี และมารับรถฮอนด้าดังกล่าวซึ่งจอดไว้ใกล้ๆ กับวัดกลางคลอง ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยมีผู้ว่าจ้างในราคา 5 พันบาทให้ขับรถคันนี้ไปจอดทิ้งไว้ริมถนนรังสิต-นครนายกฯ หน้าสวนสนุกดรีมเวิลด์ เพื่อให้บุคคลอื่นมารับรถขับเข้ากรุงเทพฯ ต่อไป แต่มาถูกเรียกตรวจค้นจับกุมเสียก่อน ส่วนเหตุที่สวมเสื้อยืดกองทัพบก เพราะคิดว่าจะใช้เป็นใบเบิกทางเวลาถูกเรียกตรวจ ตนไม่ได้เป็นทหาร
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ พร้อมกับแกะรอยโทรศัพท์มือถือที่ผู้ต้องหารายนี้ใช้ติดต่อกับผู้ว่าจ้างเพื่อสาวไปถึงบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้ว่าจ้างที่คาดว่าน่าจะอยู่ในหน่วยราชการหนึ่งใน จ.ลพบุรี
รายงานข่าวเปิดเผยว่า จากการสอบเค้นเพิ่มเติม นายชินรัตน์สารภาพด้วยว่า ผู้ที่จะมารับอาวุธดังกล่าวต่อไปนั้นมีเป้าหมายเกี่ยวกับการนำไปสร้างสถานการณ์ทางการเมือง นอกจากนั้น ชุดสืบสวนจะสืบประวัติผู้ต้องหาโดยละเอียดต่อไป