เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 24 ม.ค. ที่ห้องกรกมล โรงแรมเดอะสุโกศล กลุ่มผู้สมัครส.ส.พรรคภูมิใจไทย ประกอบด้วย นายโสภณ ซารัมย์ ผู้สมัครส.ส.บุรีรัมย์ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ผู้สมัครส.ส.นครราชสีมา นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ผู้สมัครส.ส.ขอนแก่น นายสนอง เทพอักษรณรงค์ ผู้สมัครส.ส.บุรีรัมย์ นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร ผู้สมัครส.ส.มหาสารคาม นายมนต์ไชย ชาติวัฒนศิริ ผู้สมัครส.ส.บุรีรัมย์ นางฟาลิดา สุไลมาน ผู้สมัครส.ส.สุรินทร์ นายเกียรติ เหลืองขจรวิทย์ ผู้สมัครส.ส.ลพบุรี นายกิตติศักดิ์ รุ่งธนเกียรติ ผู้สมัครส.ส.สุรินทร์ นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ผู้สมัครส.ส.สุรินทร์ นายปัญญา ศรีปัญญา ผู้สมัครส.ส.ขอนแก่น และนายรังสิกร ทิมาตฤกะ ผู้สมัครส.ส.บุรีรัมย์ ร่วมกันออกแถลงการณ์เรียกร้องขอให้รัฐบาลเลื่อนการเลือกตั้ง
โดยนายโสภณ กล่าวว่า ตามที่มีการยุบสภาผู้แทนราษฎร และจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 2 ก.พ.นี้ เป็นการยุบสภาท่ามกลางปัญหาวิกฤตความขัดแย้งอย่างรุนแรง ของประชาชนในชาติอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน ซึ่งพรรคภูมิใจไทยเคยแสดงจุดยืนทางการเมืองมาแล้ว 3 ข้อ คือ 1.เมื่อมีการยุบสภาพรรคก็ต้องส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย 2.พรรคภูมิใจไทย ไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้งบนสถานการณ์วิกฤตความขัดแย้งอย่างรุนแรง และ3.พรรคเห็นว่าควรสร้างกติกาให้ทุกฝ่ายยอมรับการเลือกตั้ง
ปรากฎว่าวันนี้ความขัดแย้งกลับทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งมีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากเหตุการณ์ต่างๆ จะส่งผลให้เกิดความยุ่งยากในกระบวนการจัดการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการขัดขวางการเลือกตั้ง การหากรรมการดำเนินการไม่ได้ หาสถานที่ลงคะแนนไม่ได้ การร้องเรียนให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือการได้ส.ส.ไม่ครบจำนวนไม่สามารถเปิดสภาได้ แม้แต่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ก็ให้ความเห็นต่อคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าการใช่งบประมาณในการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้จะไม่เกิดประโยชน์ และกกต.พยายามติดต่อรัฐบาลให้เลื่อนการเลือกตั้งหลายครั้งแต่ไม่ได้รับการตอบรับ จนเป็นเหตุให้กกต.ต้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญกรณีการเลื่อนการเลือกตั้ง
อีกประเด็นที่สำคัญ คือ การที่รัฐบาลประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งถือว่าเป็นอุปสรรค และขัดขวางการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นในฐานะที่เราเป็นผู้สมัครส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย จึงขอออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลเลื่อนการเลือกตั้งออกไปจนกว่าบ้านเมืองจะเข้าสู่สภาวะปกติ แล้วค่อยจัดการเลือกตั้ง และเพื่อเป็นการแสดงเจตนา และความจริงใจต่อการเรียกร้องครั้งนี้ พวกเราจึงขอยุติการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง
“เราไม่ได้ขัดขวางการเลือกตั้งแน่นอน เพียงแต่วันนี้เรามาเรียกร้องให้มีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปก่อน ให้รัฐบาลทำกติกาที่ทุกฝ่ายยอมรับแล้วให้บ้านเมืองสงบสุข เราจึงเรียกร้องให้นักการเมืองถอยคนละก้าว เข้าสู่อำนาจช้าหน่อยเท่านั้น ถ้านักการเมืองถอยประเทศสงบ ประชาชนกลับบ้าน มีการเลือกตั้งก็จบ” นายโสภณ กล่าว
เมื่อถามว่าหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยรับทราบแล้วหรือไม่ นายโสภณ กล่าวว่า ในภาวะแบบนี้เราได้แจ้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยแล้ว ซึ่งพรรคไม่จำกัดสิทธิ์สมาชิกในการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง วันนี้เราเพียงแสดงจุดยืนว่าถ้ายังเดินหน้าต่อจะเสียเปล่า ทั้งในส่วนของงบประมาณ และการไม่บรรลุวัตถุประสงค์ของการเลือกตั้งครั้งนี้ที่จะหาส.ส.ได้ครบ หรือไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้
ขณะที่ นายบุญจง กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ถ้าเดินต่อ จะไม่เกิดประโยชน์กับประเทศ แม้แต่กกต.ยังออกมาบอกว่าควรเลื่อนการเลื่อนตั้งออกไป โดยมีเหตุผลหลายประการอย่างที่ทราบกัน ดังนั้นวิกฤติบ้านเมืองที่เกิดขึ้นเราจึงเห็นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ควรเลื่อนออกไปก่อน ในภาวะที่ประเทศประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จะเลือกตั้งได้อย่างไร ในพื้นที่ที่ประกาศถูกจำกัดสิทธิ์ห้ามชุมนุมทางการเมือง เป็นต้น
วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่กลุ่ม นายโสภณ ซารัมย์ และส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน ออกแถลงการณ์ให้รัฐบาลเลื่อนการเลือกตั้ง ว่า ได้มีการมาแจ้งตนแล้ว ซึ่งตนก็ไม่ได้ซีเรียสนำมาเป็นประเด็น และเห็นว่าเป็นเอกสิทธิ์ส่วนตัวของแต่ละคน ที่ถ่ายทอดความรู้สึกของปัญหาในพื้นที่ต่อการหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา ซึ่งสามารถทำได้ อย่างไรก็ตามจุดยืนของพรรคจะเป็นอย่างไรขอให้ดูหัวหน้าพรรคและนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค ในฐานะผอ.เลือกตั้งของพรรคเป็นหลัก ที่กำลังมุ่งมั่นนำพรรคไปสู่การเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. และนำเสนอนโยบายที่ทำได้จริง และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ตามกรอบที่กฎหมายกำหนดจนกว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง
“ส่วนที้มีการมองว่าพรรคภูมิใจไทยเล่น 2 หน้า เข้าข้างทั้งฝ่ายรัฐบาลและกปปส.นั้น ไม่เป็นความจริง พรรคเราเล่นหน้าเดียว คือ หน้าของพรรคภูมิใจไทย อยู่ฝ่ายประชาชนและชาติบ้านเมือง ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าว
นายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวยืนยันว่า การแสดงออกของผู้สมัครนำโดยนายโสภณ ไม่มีความขัดแย้งใดๆ กับพรรค เพราะเป็นการแสดงออกในฐานะผู้สมัครที่ประสบปัญหาในการเลือกตั้งในแต่ละพื้นที่ ซึ่งไม่สามารถหาเสียงเลือกตั้งได้ รวมถึงปัญหาความวุ่นวายต่างๆ อาทิ ชาวบ้านไม่ได้เงินจากโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งเป็นอุปสรรคหาเสียงทั้งสิ้น จึงได้ออกมาแสดงความคิดเห็นดังกล่าว และกรณีที่ไปแถลงที่อื่นเพราะไม่ต้องการให้กระทบกับพรรค ขณะที่จุดยืนของพรรคภูมิใจไทยก็ยังมุ่งหน้าสู่การเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 2 ก.พ. เช่นเดิม อย่างเช่นในพื้นที่ภาคใต้แม้จะไม่สามารถจัดการสมัครเลือกตั้ง 28 เขต แต่พรรคภูมิใจไทยก็หาเสียงเพื่อหาเสียงคะแนนบัญชีรายชื่อต่อไป