จากหมอ ถึงหมอ กรณีเสื้อกาวน์ชัตดาวน์กรุงเทพฯ!?

ที่อยากรู้คือว่า แพทย์กลุ่มนี้ พวกเขาอยู่ไหน? เมื่อเหตุการณ์ เมษา-พฤษภา 53 ที่เกิดกรณี คนเสื้อแดงโดนสลายและตายไปเกือบร้อย เจ็บกว่าสองพัน ทำไม ไม่ออกมาเรียกร้อง หรือ เรียกหา ความรับผิดชอบ ของรัฐบาล ณ เวลานั้น เหมือนที่พวกเขา กำลังทำอยู่วันนี้  


หมายเหตุ:ไทยอีนิวส์ ได้สัมภาษณ์นายแพทย์พงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิ์สกุล แพทย์ที่มีบทบาทเคลื่อวไหวสนับสนุนประชาธิปไตยมาอย่างต่อเนื่องในกรณีที่มีกลุ่มแพทย์ออกมารวมตัวเคลื่อนไหวร่วมกับม็อบกปปส.อย่างเปิดเผยในช่วงเวลานี้ ถึงขั้นจัดแคมเปญสวมเสื้อกาวน์ชัตดาวน์กรุงเทพฯ..

นายแพทย์พงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิ์สกุล

Q:เห็นกลุ่มแพทย์ออกมาเดินขบวนตามสุเทพแล้วคิดเห็นอย่างไร?

นายแพทย์พงษ์ศักดิ์ :คือ แพทย์มาเดินขบวนตามสุเทพ สำหรับผม ไม่แปลกนะครับ ก็เหมือนคนกลุ่มอาชึพต่างๆ ที่เห็นด้วย กับสุเทพก็ออกมา 

แต่ที่แปลกใจและตกใจคือ พวกเขา นัดกัน ใส่เสื้อกาวน์ ใส่ชุดทำงาน บางคนใส่ชุดผ่าตัดด้วย อันนี้ น่าแปลกมาก ที่คนกลุ่มนี้ ใช้ ความเป็นวิชาชีพแพทย์ แสดงจุดยืนทางการเมือง 

พวกเขาคิดอะไร ทำไมต้องแสดงถึงขนาดนี้ หรือพวกเขาคิดว่า ทำแบบนี้แล้ว สิ่งที่ สุเทพ และคณะคิดจะทำ จะได้รับการยอมรับจากสังคมมากขึ้น พวกเขากำลังใช้ความเป็นแพทย์มาเป็นจุดขายความคิดทางการเมืองไหม  

และรวมถึงกลุ่มคณบดีคณะแพทย์ศาสตร์8 สถาบันด้วย ผมเห็นว่า พวกเขากำลังดึง สถาบัน มาสู่สนามความขัดแย้ง ด้วยหลักการเดียวกัน คือใช้สถาบันมาเป็นเครื่องมือ มาเป็นจุดขาย 

แล้วที่อยากรู้คือว่า แพทย์กลุ่มนี้ ทั้งในฐานะส่วนตัว และฐานะสถาบัน พวกเขาอยู่ไหน? เมื่อเหตุการณ์ เมษา-พฤษภา 53 ที่เกิดกรณี คนเสื้อแดงโดนสลายและตายไปเกือบร้อย เจ็บกว่าสองพัน  

เพราะในฐานะแพทย์ ที่ทั้งมีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ และ ทั้งรับรู้และเข้าใจปัญหาต่างๆได้มากมาย  และแสดงออกทางการเมืองมากขนาดนี้ พวกเขาคิดอย่างไร ต่อ ความตาย การบาดเจ็บของคนเสื้อแดง แล้วทำไม ไม่ออกมาเรียกร้อง หรือ เรียกหา ความรับผิดชอบ ของรัฐบาล ณ เวลานั้น เหมือนที่พวกเขา กำลังทำอยู่วันนี้  

มันทำให้ผมทำใจลำบาก ที่จะให้เครดิต ต่ออะไรก็ตาม ที่แพทย์เหล่านี้ จะออกมาเรียกร้อง บนฐานะที่เอา ความเป็นแพทย์ และสถาบันทางการแพทย์มาเสนอ

Q:ทำไมแพทย์จึงเป็นข้าราชการเพียงกระทรวงเดียว(นับจากปลัดกระทรวง)ที่เข้าร่วมมือสุเทพไล่รัฐบาลนายแพทย์พงษ์ศักดิ์: ผมว่า คงมีคำอธิบายได้หลากหลายมุม แต่สำหรับผม ผมขออธิบายว่า มันเป็นภาพสะท้อน ของปัญหาเชิงโครงสร้างได้อย่างดี 

หมายถึงว่า เราต่างรู้กันอยู่ว่า ปัญหาและความขัดแย้งที่เกิดขึ้นตอนนี้ พื้นฐานเป็นความขัดแย้งเชิงโครงสร้าง ระหว่างกลุ่มพลังต่างๆ 

พวกแพทย์นี่ ที่จริงก็คือตัวแทนของกลุ่มผู้ได้เปรียบ เป็นชนชั้นนำ เป็นเครือข่ายระบบอำมาตย์ จึงอธิบายได้ว่า แพทย์ส่วนหนึ่ง คิดเห็นทางการเมืองแบบไหน แต่ที่แพทย์พวกนี้ กล้าออกมาเปิดหน้าชัดๆขนาดนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะความเป็นลักษณะเฉพาะของวิชาชีพนะครับ ที่พวกหมอๆมักคิดว่าตัวเองเก่ง มีอัตตาสูง และเป็นอิสระในการทำงานมากระดับหนึ่ง แม้อยู่ในระบบราชการก็ตาม และพวกเขา โดยเฉพาะระดับนำ คงคิดและสรุปกันแล้วว่า ต้องทุ่ม ต้องทำให้เต็มที่ ที่จะหยุดการเมืองให้ได้

ส่วนตัวแล้ว ผมยินดีเลยนะครับ ที่หมอกล้าแสดงออกทางการเมือง แต่ต้องไม่พ่วงความเป็นแพทย์ออกมาเป็นจุดขาย อย่างที่เขาทำๆกัน 

และสำหรับเรื่อง ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่ออกมานี่ ผมเห็นว่า แกน่าจะแมนๆกว่านี้นะครับ คือกระโดดออกมาเลยตั้งแต่ พรรคประชาธิปัตย์ทำม็อบที่สามเสน หรือ ตอนนี้ ก็น่าจะแสดงสปิริต ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งปลัดกระทรวง ให้เป็นตัวอย่างไปเลย 

Q:แพทย์ควรมีจุดยืนทางการเมืองอย่างไรนายแพทย์พงษ์ศักดิ์:วิชาชีพแพทย์ ถูกสอน ถูกฝึก ให้คิดและทำงาน แบบวิทยาศาสตร์ มีเหตุ มีผล มีงานวิชาการ รองรับ และการทำงาน ให้ยึดผู้ป่วยเป็นหลัก 

และที่สำคัญ ที่ผมยึดถือคือ ให้รักษาผู้ป่วยแบบเสมือนเป็นญาติเราเอง ถามตัวเองว่า ถ้าคนไข้คนนี้ เป็นพี่ เป็นน้อง เป็นลูกเรา เราจะรักษาเขาแบบนี้ไหม ถ้าทำ ก็แสดงว่า จุดยืนและการทำงาน เรายังเดินต่อไปได้

พอมาเรื่องการเมือง แพทย์จะมีความรัก ความเกลียดใคร ไม่ใช่ปัญหา ตราบใดที่ข้อสรุปของตนเอง อธิบายได้แบบหลักการที่ตนเองใช้ทำงานในวิชาชีพแพทย์ คือเป็นเหตุผล เป็นวิทยาศาสตร์ และที่สำคัญ คือยึดถือ ผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นหลัก 

ผมคงไม่อาจเอื้อม ไปบอกว่า แพทย์ควรมีจุดยืนทางการเมืองอย่างไร แต่สำหรับผม ผมใช้หลักการข้างต้นครับ และดูว่า จุดยืนทางการเมืองผม ต้องสอดคล้องและเอื้อประโยชน์แก่คนยากคนจนผู้ด้อยโอกาสในสังคม และเป็นไปตามทิศทางที่เป็นประชาธิปไตย เห็นคุณค่าของทุกคน เท่าเทียมกันในทางการเมือง ง่ายๆแค่นี้ครับ

Q:แพทย์ในอดีตได้ชื่อว่ามีอุดมการณ์ข้างประชาชนผู้ยากไร้ 

นายแพทย์พงษ์ศักดิ์: ครับ ผมเองโดยส่วนตัว มีความภาคภูมิใจในวิชาชีพแพทย์มากที่สุด ก็คือช่วงการออกไปทำงาน รพ.อำเภอ และทำให้ผมซาบซึ้ง กับคำว่า "รับใช้ประชา คือปลายทางเรา ที่เล่าเรียน" 

และช่วงเวลานั้น "แพทย์ชนบท" ถือได้ว่า ได้สร้างคุณูปการต่อการพัฒนาชนบทอย่างมาก และดูเหมือน 
จะเป็นกลุ่มที่ มีแนวคิด สาย เสรีนิยมมาก
 
ผมจึงถือว่า อุดมการณ์ " หมอชนบท" ที่ผมมีส่วนร่วมเล็กๆ นั้นยิ่งใหญ่มาก 
 
จนมาถึงช่วงความขัดแย้งทางการเมือง ที่องค์กรอย่าง " ชมรมแพทย์ชนบท" จะด้วยเหตุใดก็ตาม ได้ลากเอา "แพทย์ชนบท"มามีบทบาทที่ชัดเจนว่า ยืนอยู่ฝ่ายอนุรักษ์นิยม  ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจมาก ในความคิดผม 
 
เพราะคนที่เป็นแพทย์ ทำงานที่รพ.อำเภอ กลับถูกองค์กรนำ ที่ชื่อ "ชมรมแพทย์ชนบท" ลากเข้าไป ยืนคนละข้างกับ ความคิด ความคาดหวัง ของคนส่วนใหญ่ของประเทศ
 
แต่ทั้งนี้ ผมยังเชื่อว่า ต่อให้ "แพทย์ชนบท" วันนี้ จะถูกกระทำโดยผู้นำ ของ "ชมรมแพทย์ชนบท"ทำให้ดูเป็นอย่างไรก็ตาม แต่ อุดมการณ์ของแพทย์ที่เป็น หมอชนบท จริงๆ นั้นมีอยู่มากมาย 
 
หมอชนบท ที่มองเห็น ชาวบ้าน ว่าเป็นคน มีสิทธิ มีเสียงเท่าเทียมกัน ยังมีอยู่มากมาย เพราะถ้า ไม่เป็นแบบนี้ เราก็คงสิ้นหวัง ครับ

Q:ในฐานะแพทย์ด้วยกัน อยากฝากอะไรถึงวงการแพทย์บ้าง

นายแพทย์พงษ์ศักดิ์:ผมไม่มีไรมาก ครับ แค่อยากฝากถึงแพทย์ ด้วยกันว่า 
 
1. แพทย์ที่ออกมาเคลื่อนไหว ขอปฎิรูป ก่อนเลือกตั้ง ด้วยเหตุผลว่า การเมืองไทยแย่มากๆ นักการเมืองโกงกิน ผมมีคำถามถึง ท่านๆ สองข้อนะครับ
 
ข้อแรก สำหรับหมอที่เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลรัฐบาลทั้งหลาย รพ.รร.แพทย์และรพ.ต่างจังหวัด ทั่วประเทศ ผมขอถาม ท่านผอก.ว่า รพ.ที่ท่านบริหารอยู่ ได้รับเงินพิเศษ จากบริษัทยา  บริษัทขายเครื่องมือและวัสดุการแพทย์ ที่เราเรียกติดปากกันว่า " เงินสวัสดิการ" เป็นกี่เปอร์เซนต์ของยอดการสั่งซื้อ ปีละกี่ล้าน เงินก้อนนี้แน่นอน ไม่เข้าบัญชีปกติ แล้วเงินไปไหน ไปใช้อะไร เกิดประโยชน์กับประชาชนไหม เข้ากระเป๋าผอก.เท่าไร?? 
 
ข้อสอง ขอถาม แพทย์ทุกท่าน ในทุกตำแหน่งของรพ.รัฐบาล ทั้ง ผอก. และแพทย์ประจำ ที่ออกมาไล่รัฐบาล ว่า ในรอบห้าปี ที่ผ่านมา ที่ท่านเดินทางไปเที่ยว ทั้งในประเทศและต่างประเทศ  ขอถามว่า ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าโรงแรมหรูๆ ค่าอาหารดีๆ บริษัทยาหรือเครื่องมือแพทย์ ออกค่าใช้จ่ายให้ท่านกี่ครั้ง หรือ ถ้าให้ผมเดา คงทุกครั้งที่ไป ถูกต้องหรือไม่
 
สุดท้ายจริงๆคือ อยากบอกว่า การทำงานของแพทย์ ต้องได้รับความไว้วางใจ จากผู้ป่วย เป็นสำคัญที่สุด การที่แพทย์ ตัดสินใจ ออกมาแสดงจุดยืนทางการเมือง โดยเอา ความเป็นแพทย์ มาผูกติด ผมเห็นว่า แพทย์กำลัง ทำลาย ศรัทธา ความเชื่อถือ ที่คนไข้และสังคม มีให้ต่อแพทย์ 
 
และเรื่องนี้ จะส่งผลเสียหายระยะยาว อยากให้ แพทย์พิจารณา 

ที่มา ไทยอีนิวส์ 

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...