เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า นายสมาน ลิประพันธ์ รองประธานคณะกรรมอิสลามประจำจังหวัดตรัง กล่าวว่า ขณะนี้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ และมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง กรณีมีกลุ่มมวลชนประมาณ 200 คน ไปเป่านกหวีด ขณะที่นายเจ๊ะอัมดะ สง่าบ้านโคก อิหม่ามประจำมัสยิดบ้านสุโสะ หมู่ที่ 1 ต.สุโสะ อ.ปะเหลียน กำลังทำละหมาดร่วมกับพี่น้องชาวมุสลิม ประมาณ 50 คน เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสม และกระทำในเขตศาสนสถานอันเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา โดยที่ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ ต่อสถานการณ์การเมืองขณะนี้เลย
นายสมาน กล่าวอีกว่า ถึงแม้เป้าประสงค์ของกลุ่มมวลชนในวันนั้น คือการตระเวนปิดล้อมสถานที่ราชการ มิให้เปิดทำการ หรือปิดล้อมสถานศึกษา มิให้เปิดเรียนตามคำสั่งของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. จึงได้รวมตัวเพื่อจะเข้าไปปิดล้อมโรงเรียนสอนศาสนาที่ตั้งอยู่หลังมัสยิดสุโสะ ซึ่งเปิดสอนทั้งในสายสามัญและสายศาสนา ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 1 ไปจนถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และมีนักเรียนอยู่ประมาณ 500 คน แต่การดำเนินการดังกล่าวกลับไปสร้างความรบกวนต่อศาสนสถานที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวัด โบสถ์ หรือมัสยิด ซึ่งทุกคนเคารพนับถือ
"ดังนั้น ผมจึงเตรียมนำเรื่องนี้เข้าเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดตรัง ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ เพื่อพิจารณาดำเนินการ และนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ซึ่งมีนายยอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี เป็นประธาน เพื่อให้เรียกผู้เกี่ยวข้องต่อเหตุการณ์ในครั้งนั้นมาชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น รวมทั้งให้จุฬาราชมนตรีออกคำสั่งว่า ในช่วงที่การเมืองของไทยกำลังเกิดความรุนแรง หรือแบ่งแยกออกเป็น 2 ฝ่ายอย่างชัดเจนในขณะนี้ ขออย่าให้พี่น้องชาวมุสลิมตกเป็นเครื่องมือ หรือเหยื่อของฝ่ายการเมืองใด" รองประธานคณะกรรมอิสลามประจำจังหวัดตรัง กล่าว
ด้านนายสถาพร ประทุมทอง นายอำเภอปะเหลียน เปิดเผยกับ "ข่าวสด" ว่า หลังเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น ตนได้เชิญอิหม่ามประจำมัสยิดบ้านสุโสะ ผู้จัดการโรงเรียนสอนศาสนา และกรรมการโรงเรียน มาประชุมหารือและสอบถามข้อเท็จจริง สรุปว่า เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา มีกลุ่มมวลชนจะเข้ามาปิดล้อมโรงเรียนสอนศาสนา แต่บังเอิญว่าประตูทางเข้าโรงเรียนต้องผ่านมัสยิดสุโสะด้วย อย่างไรก็ตามหลังจากแกนนำมวลชนพูดคุยหารือกับผู้จัดการโรงเรียน จึงยอมตกลงที่จะปิดเรียน 1 วัน คือวันที่ 21 ม.ค. ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้กลับมาเปิดเรียนตามปกติแล้ว โดยมิได้มีปัญหาอะไรต่อกัน
นายอำเภอปะเหลียน กล่าวอีกว่า การที่มีกลุ่มมวลชนจำนวนมากเข้าไปยังโรงเรียนสอนศาสนาในวันดังกล่าว มิได้มีเจตนาไปห้ามมัสยิดสุโสะประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และกรณีนี้ตนทราบข่าวมาว่าทางแกนนำ กปปส.ได้เตรียมทำหนังสือขอโทษ อันเนื่องมาจากความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้น อันเนื่องมาจากการเผยแพร่ข่าวที่ออกไปเกินข้อเท็จจริง เช่น มีการระบุว่ามีการปิดล้อมมัสยิด หรือมีการเป่านกหวีดไล่ จนอาจก่อให้เกิดความไม่สบายใจกันขึ้น อย่างไรก็ตามจากการประชุมหารือกับทางอำเภอ ทั้งอิหม่าม ผู้จัดการโรงเรียน และกรรมการโรงเรียน ล่าสุดต่างก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น และอยากให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี
นายสมพงษ์ คงเกลี้ยง นายก อบต.ปะเหลียน หนึ่งในแกนนำกปปส.ตรัง กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นทราบว่าเป็นกลุ่มมวลชนที่เดินทางไปจากตำบลทุ่งยาว อำเภอปะเหลียน เพื่อปิดล้อมหน่วยงานราชการและสถานศึกษาในพื้นที่ตำบลสุโสะเท่านั้น แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดชัดเจน ต้องรอการตรวจสอบกับแกนนำอีกครั้ง และอยากให้มีการพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจร่วมกัน
ผูุ้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์ข่าวมุสลิมไทยโพสต์สื่อเผยแพร่ข่าวสารชื่อดังในหมู่ชาวมุสลิมในประเทศไทยรายงานว่า ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานสำนักจุฬาประจำภาคใต้ เผยผ่านเฟซบุ๊ก facebook.com/wisoot.binlateh ว่า ด่วน !!! มัสยิดสำคัญใน จ.ตรัง ถูกข่มขู่คุกคามโดยม็อบอันธพาล
เมื่อเวลา 14.45 น. ของวันที่ 22 ม.ค. มีการโพสต์ข้อความว่า “เมื่อครู่นี้ ได้คุยกับ ผญบ.สุโส๊ะ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ทราบว่าเมื่อ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่เด็ก นร.โรงเรียนประถมภายใต้การกำกับชองมัสยิดสุโสะ ซึ่งเป็นมัสยิดใหญ่สุดของ อ.ปะเหลียน กำลังละหมาดซุฮฺนิกันอยู่ และกลุ่มญะมาอะฮฺตับลีฆกำลังมีการตะลีมกันอยู่นั้น มีกลุ่มคนประมาณ 300 คนได้ไปปิดประตูมัสยิดไว้ พร้อมเป่านกหวีดสะเทือนเลื่อนลั่น บังคับข่มขู่ให้หยุดกิจกรรมต่างๆ และให้ รร.ของมัสยิดปิดการเรียนการสอน จนเด็กนร.พากันแตกตื่น ยกเลิกละหมาดกลางคัน และกิจกรรมการตะลีมก็ถูกยกเลิกไปโดยปริยาย
แม้จะมีความพยายามอธิบายว่านี่เป็นกิจกรรมทางศาสนาที่มัสยิดหยุดไม่ได้ แต่ม็อบซึ่งหลายคนมีอาการมึนเมาก็ไม่ยอมรับฟัง จนผู้ใหญ่บ้านต้องให้คนเรียกชาวบ้านมาช่วย แกนนำม็อบก็ท้าว่าเรียกมาเลย ตนก็จะเรียกคนมาเพิ่มอีก ก่อนกลับยังยิงปืนขู่หน้ามัสยิดหนึ่งนัดด้วย
การคุกคามมัสยิดมิให้ปฏิบัติสิ่งที่เป็นวาญิบ ถือเป็นภัยร้ายต่อมุสลิม หากรัฐดำเนินการเอง มุสลิมก็ต้องขบถต่อรัฐนั้น แต่นี่เป็นม็อบผู้ดีทำ พี่น้องจะว่าอย่างไร ?”
นอกจากนั้น ดร.วิสุทธิ์ ยังเผยด้วยว่า ผญบ.สุโสะ กล่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ว่า "ผมรู้สึกถูกหมิ่นหยามอย่างรุนแรง และเจ็บปวดมากที่มัสยิดถูกคุกคามเช่นนี้"