เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 ม.ค. นพ.ระวี มาศฉนาดล ผู้ชุมนุมต่อต้านระบอบทักษิณบริเวณหน้ากระทรวงพลังงาน นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายสมบูรณ์ ทองบุราณ แนวร่วม กปปส. นำกลุ่มผู้ชุมนุมนับร้อยคน พร้อมรถบรรทุก 6 ล้อติดเครื่องขยายเสียง เคลื่อนขบวนมาชุมนุมบริเวณรอบนอกอาคารสำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภเษก
เพื่อเรียกร้องให้ข้าราชการหยุดทำงานรับใช้ระบอบทักษิณ และให้ความร่วมมือกับประชาชนในการปฏิรูปประเทศไทยกับ กปปส. โดยระหว่างนี้เหล่าแกนนำได้ปราศรัยโจมตีการทำงานของอัยการสูงสุดช่วงที่ที่ผ่านมา โดยเฉพาะการทำงานของนายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม สมัยเป็น อัยการสูงสุด หลังจากนั้นแกนนำ 3 คน ได้เข้าไปพูดคุย หารือกับนายนันทศักดิ์ พูลสุข อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด นายกมล ธรรมเสรีกุล อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากว่า 30 นาที
ภายหลัง นพ.ระวี เปิดเผยว่า แกนนำได้ขอให้ข้าราชการอัยการ และลูกจ้างหยุดการทำงาน 1 วัน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้ พนักงานอัยการและเจ้าหน้าที่ได้เล็งเห็นว่าการทำงานหลังจากนี้ขอให้พิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับประชาชนด้วยความเป็นธรรม เพราะที่ผ่านมายังมีหลายคดีที่ประชาชนคลางแคลงสงสัย ในการพิจารณาสั่งคดีของอัยการ
โดยเฉพาะการสั่งไม่ฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในข้อหาก่อการร้าย การไม่ยื่นฎีกาคดีคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ กับพวกที่ เลี่ยงภาษีบริษัท ชินคอร์ปฯ อย่างไรก็ตามทาง กปปส.ได้ยกเว้นให้อัยการและเจ้าหน้าที่ในส่วนที่ต้องเกี่ยวข้องกับคดี เช่น การฝากขังผู้ต้องหา การยื่นฟ้อง สำนักงานฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้
ด้านนายกมล ธรรมเสรีกุล อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา กล่าวว่า การทำงานของอัยการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นฝ่ายผู้ปฏิบัติต้องเกี่ยวข้องกับประชาชน หากหยุดการทำงานนานก็จะส่งผลกระทบต่อคดีต่าง ๆ เช่น คดีศาลแขวง จะต้องฟ้องผู้ต้องหาภายใน 24 ชม. หากไม่มีอัยการมาปฏิบัติหน้าที่ ผู้ต้องหาก็จะต้องถูกควบคุมตัวนานขึ้น รวมทั้งการฝากขังผู้ต้องหาในคดีอาญา หรือคดียาเสพติดก็อาจจะต้องปล่อยตัวไปก่อน แต่ในตอนนี้ทางอัยการก็เห็นด้วยและยินดีที่จะปฏิบัติ
ขณะที่นายนันทศักดิ์ พูลสุข อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ กล่าวยืนยันสั้น ๆ ว่า ต่อไปการพิจารณาคดีต่าง ๆ ของอัยการเป็นไปตามทำนองกลองธรรมสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนให้มากยิ่งขึ้น.