รายงานสถานการณ์ล่าสุดจาก "ยูเอ็นโอดีซี" ระบุว่า ในปี 2555 มียาเสพติดชนิดใหม่เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้นมากถึง 251 ชนิด แต่ที่น่ากลัวมากสุดคือ กลุ่ม "ดีไซเนอร์ ดรัก designer drug" ซึ่งสังเคราะห์มาจากพืช โดยออกแบบโครงสร้างทางสารเคมีให้ตรวจพบแล้วไม่ผิดกฎหมาย
สำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นโอดีซี) เรียกยากลุ่ม "ดีไซเนอร์ ดรัก" ว่าเป็นกลุ่ม "เอ็นพีเอส" หรือ สารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทสายพันธุ์ใหม่ (New Psychoactive Substances : NPS) มีการใช้สมุนไพรมาผสมหรือทำเป็นสินค้ารูปแบบต่างๆ เช่น กำยานหอม ธูปสมุนไพร ฯลฯ ออกวางขายผ่านลูกค้าหลายกลุ่มและเสพได้หลายวิธี ได้แก่ การสูบ การสูดดม หรือ กินเข้าไปโดยตรง
หลังสำรวจตลาดในอังกฤษพบว่า วัยรุ่นหาซื้อสารเหล่านี้มาเสพผ่านทางเว็บไซต์มากถึงร้อยละ 92 ที่เหลือซื้อต่อจากเพื่อน หรือในงานปาร์ตี้กลางคืน ยูเอ็นโอดีซีย้ำเตือนว่า สารเสพติดรูปแบบใหม่เหล่านี้เป็นอันตรายต่อผู้เสพมาก เพราะผู้ผลิตล้วนเป็นมือสมัครเล่นไม่มีการทดลองด้านความปลอดภัยต่อร่างกาย มีวางขายทั่วไปเพราะกฎหมายยังไม่ได้กำหนดบทลงโทษไว้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่พยายามผลักดันให้ออกกฎหมายควบคุมหรือห้ามขายอย่างเด็ดขาด
เมืองไทยมีแล้วหรือยัง ?
"วิเชษฐ์ พุทธวิริยากร" ผอ.สถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ให้ข้อมูลว่า สารจำพวกดีไซเนอร์ ดรักนั้น ถูกเพ่งเล็งจากเจ้าหน้าที่ยาเสพติดทั่วโลก โดยเฉพาะ 2 ชนิดยอดฮิต คือ "สไปซ์" และ "บาธ ซอลท์" ซึ่งเกิดจากการสังเคราะห์สารเคมีตัวใหม่เลียนแบบโครงสร้างสารเสพติดตัวดั้งเดิมตามธรรมชาติ เช่น กัญชา ฝิ่น ฯลฯ ทำให้ออกฤทธิ์หลอนประสารหรือกระตุ้นประสาทได้คล้ายตัวดั้งเดิมมาก แต่ร้ายกาจตรงที่เครื่องตรวจวัดสารเสพติดแบบเดิมตรวจไม่พบ เพราะไม่อยู่ในระบบฐานข้อมูล
กลุ่มที่เรียกว่า "สไปซ์" (SPICE)นั้น เป็นสารเคมีที่ออกฤทธิ์เลียนแบบกัญชา มีสาร "ทีเอชซี" หรือ เตตราไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydrocannabinol : THC) พบอยู่บนยอดช่อดอกกัญชา ออกฤทธิ์แบบผสมผสานคือ "กระตุ้นประสาท" ทำให้ผู้เสพตื่นเต้น หัวเราะ พูดมาก จากนั้นจะเริ่ม "กดประสาท" อาการคล้ายคนเมาเหล้า เซื่องซึม หรือง่วงนอน หากเสพปริมาณมากจะเกิดอาการ "หลอนประสาท" เห็นภาพลวงตา หูแว่ว สับสน ควบคุมตนเองไม่ได้ บางคนเสพสไปซ์เข้าไปจะมีอาการเมาสนุกสนาน
ส่วนอีกกลุ่มเรียกว่า "บาธ ซอลท์" (Bath Salt) เป็นสารสังเคราะห์เลียนแบบคล้ายพวกมอระกู่ยาสูบชนิดหนึ่งของชาวอาหรับ บางครั้งเรียกว่า "บารุกุ" หรือ "ชีช่า" (shisha) เป็นผงสีขาวใช้สูดดม ออกฤทธิ์คล้ายพวกยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน
"หลายครั้งที่ตำรวจอเมริกาจับกุมคนอาการคล้ายเมายามาตรวจหาสารเสพติด ปรากฏว่าไม่เจอ เพราะโครงสร้างทางเคมีไม่มีในสารบบ ประมาณ 5 ปีที่แล้วจึงได้จัดให้ยากลุ่มนี้เข้าไปในกฎหมายด้วย สไปซ์กับบาธ ซอลท์ ถือเป็นยาเสพติดกลุ่มใหม่ระบาดที่เมืองนอก ยังไม่เคยตรวจพบในเมืองไทย แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มี เพราะอาจมีเสพในกลุ่มเล็กๆ เพียงแต่ตำรวจยังไม่เคยจับแล้วตรวจเจอก็ได้ ทาง ป.ป.ส.กำลังเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด" ผอ.วิเชษฐ์ให้ข้อมูลต่อว่า
สาเหตุที่สารเสพติดกลุ่มใหม่ยังไม่แพร่หลายในเมืองไทย
อาจเป็นเพราะยาเสพติดกลุ่มดั้งเดิมยังหาซื้อได้ง่ายและราคาไม่แพง เช่น ยาบ้า ยาไอซ์ โคเคน ฯลฯ แหล่งผลิตใหญ่ที่ส่งเข้ามาขายยังคงเป็นแถบชายแดนประเทศเพื่อนบ้านของไทย ที่สำคัญคือ อยากเตือนให้ผู้ติดยาระวังการใช้ยาเสพติดที่สังเคราะห์เลียนแบบธรรมชาติ เพราะระยะยาวจะทำอันตรายต่ออวัยวะภายในร่างกายมากกว่าสารธรรมชาติ
คำเตือนถึงฤทธิ์รุนแรงของยากลุ่มดีไซเนอร์ ดรัก
มีรายงานผลตรวจร่างกายของผู้เสพว่า เกิดความผิดปกติร้ายแรงถึงขั้นเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของสมอง หลายคนมีการอาการคลุ้มคลั่งคล้ายกับเสพยาบ้าผสมกับโคเคน เนื่องจากผู้ผลิตได้ผสมผสานสารเคมีหลายชนิดเข้าด้วยกัน จนไม่สามารถระบุได้ว่ามีสารชนิดใดเป็นสารตั้งต้น ดังกรณีคดีสยองขวัญดังไปทั่วโลก เมื่อชายเร่ร่อนในรัฐไมอามีถูกกัดแทะใบหน้าจนเสียโฉม โดยชายหนุ่มผู้คลุ้มคลั่งจากการเสพบาธ ซอลท์ คล้ายคลึงกับคดีวัยรุ่นหนุ่มในรัฐนิวเจอซีย์สหรัฐอเมริกา ที่ฆ่าแฟนสาวของตัวเองอย่างโหดร้ายหลังเสพยาเสพติดกลุ่มดีไซเนอร์ ดรักเข้าไป!!