สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่า ประเทศลาว หรือ สปป. ลาว เป็นประเทศที่ถูกปิดล้อมด้วยผืนแผ่นดินและภูเขา แม้ว่าจะไม่มีอาณาเขตติดกับน้ำทะเลเลย แต่ประเทศลาวก็อุดมไปด้วยต้นไม้ ภูเขา ที่ยังคงความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นมาทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวตะวันตก ยุโรป เอเชีย รวมถึงไทยได้เป็นอย่างดี ฉะนั้น กระปุกท่องเที่ยวจึงได้นำ 10 แหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตในลาวที่ต้องหาโอกาสไปสัมผัสด้วยตาตัวเองสักครั้งมาแนะนำกัน ส่วนจะเป็นที่ไหนกันบ้าง และน่าตื่นตาตื่นใจขนาดไหนนั้น ไปชมกันเลยจ้า
เวียงไซเป็นเมืองหนึ่งในแขวงหัวพัน (Hua Phan) แหล่งท่องเที่ยวที่เปรียบเสมือนแม่เหล็กของเมืองเวียงไซ คือ "ถ้ำผู้นำ" เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ปกคลุมตัวต้นไม้เขียวขจี ดูแล้วก็เหมือนถ้ำทั่ว ๆ ไป แต่สิ่งที่ต้องทำให้ผู้คนตะลึง คือ ภายในถ้ำถูกขุดเจาะและสร้างเป็นที่อยู่อาศัย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น ห้องพัก ห้องรับแขก ห้องประชุม โรงเรียน โรงพยาบาล ห้องหลบภัย โรงภาพยนตร์ ห้องสำหรับเล่นกีฬา ฯลฯ ซึ่งสามารถรองรับผู้อาศัยได้ประมาณ 20,000 คน โดยถ้ำผู้นำสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสถานที่หลบภัยของแกนนำทหารคอมมิวนิสต์ในช่วงสงครามอินโดจีน เมื่อย้อนกลับไปสมัยนั้น สหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดลงมาในลาวหลายลูกติดต่อกันเป็นเวลาถึง 9 ปี เพื่อขจัดพวกคอมมิวนิสต์ไปหมดสิ้นไป เหล่าแกนนำคอมมิวนิสต์จึงหาที่หลบภัย โดยการเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในถ้ำ ทำให้มี "ถ้ำผู้นำ" ลักษณะนี้อยู่ถึง 12 แห่ง ตั้งอยู่ใกล้เคียงกันในเมืองเวียงไซ แต่เปิดให้นักท่องเที่ยวชมเพียง 6 ถ้ำเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีการแสดงนิทรรศการเล่าเรื่องราวความเป็นมาของเหตุการณ์ในครั้งนั้นในแง่มุมของความรักชาติ การเสียสละเพื่อชาติอีกด้วย
ถ้ำปากอู หรือถ้ำติ่ง อยู่ในแขวงหลวงพระบาง (Laung Prabang) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง นักท่องเที่ยวต้องนั่งเรือจากตัวเมืองในหลวงพระบางประมาณ 25 นาที เมื่อมาถึงบ้านปากอู ต้องนั่งเรือข้ามฝากมาฝั่งตรงข้ามจะพบถ้ำติ่ง ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ถ้ำ คือ ถ้ำติ่งลุ่ม และถ้ำติ่งเทิ่ง เมื่อลงมาจากเรือจะพบทางเข้าถ้ำติ่งลุ่ม เป็นถ้ำที่มีโพรงไม่ลึก ภายในมีหินงอกหินย้อย และมีรูปปั้นพระพุทธรูปที่ทำจากไม้เต็มไปหมด เชื่อกันว่าในสมัยก่อนเคยถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับสักการบูชาดวงวิญญาณ ภูตผี แต่เมื่อศาสนาพุทธเข้ามาในลาวจึงกลายเป็นศาสนสถานทางพุทธไป และเมื่อเดินไปอีกทางหนึ่งจะพบถ้ำเทิ่ง เป็นถ้ำที่ลึกมาก ภายในมีพระพุทธรูปเช่นกัน แต่มีจำนวนไม่มากเท่ากับถ้ำติ่งลุ่ม
ปราสาทหินวัดพูตั้งอยู่บนเนินเขาพู ในแขวงจำปาสัก (Champasak) เป็นซากปรักหักพังของวัดฮินดูโบราณ ที่สร้างขึ้นช่วงศตวรรษที่ 11 ถึง 13 นอกจากนี้ วัดพูยังได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกเพราะเคยเป็นแหล่งอารยธรรมโบราณถึง 3 สมัยด้วยกัน ตรงทางเข้าวัดพูนั้นมีหินปูเรียงรายสำหรับเดินเข้าวัด มีเสาเรียงตั้งเรียงอยู่หลายต้นขนาบข้างทางเดิน มีเรือนใหญ่ 2 หลัง ซุ้มประตูที่พลังทลาย หินสลักเป็นรูปเศียรช้าง และรูปปั้นหินรูปต่าง ๆ เช่น โยคี จระเข้ และมีพระพุทธรูปตั้งวางสำหรับกราบไหว้บูชา บรรยากาศที่ปราสาทแห่งนี้ให้ความรู้สึกถึงความอลังการ ความขลัง ผสมผสานกับความลี้ลับ น่าพิศวง อาจด้วยความเก่าแก่ตามกาลเวลา อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันถูกใช้เป็นสถานที่ทางพุทธศาสนานิกายเถรวาท
พระธาตุหลวงเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาพุทธตั้งอยู่ที่เมืองเวียงจันทน์ ถูกสร้างขึ้นโดยบุรีจันอ้วยล้วย หรือพระเจ้าจันทบุรีศักดิ์ เจ้าผู้ครองนครเวียงจันทน์พระองค์แรก ตามตำนานเล่าว่า มีพระภิกษุลาวจำนวน 5 รูป เดินทางไปศึกษาพระพุทธศาสนาที่ประเทศอินเดีย แล้วนำพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนที่เป็นหน้าอก) มาไว้ที่เวียนจันทน์ เจ้านครในสมัยนั้นจึงสั่งให้มีการสร้างพระธาตุขึ้นมาเพื่อบรรจุพระอุรังคธาตุไว้สำหรับกราบไหว้บูชา เริ่มแรกนั้นพระธาตุถูกสร้างด้วยหิน แต่ต่อมามีการสร้างเจดีย์ครอบองค์พระธาตุ และบริเวณรอบ ๆ องค์พระธาตุมีเจดีย์รายล้อมหลายองค์ ที่เจดีย์ถูกแกะสลักเป็นลวดลายพญานาค พระพุทธรูปปิดทองลายกลีบบัวประดับอยู่บนฐานปักษ์ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันรูปทรงของพระธาตุมีลักษณะคล้ายกับป้อมปราการ เพราะมีระเบียงล้อมรอบสูง สถานที่แห่งนี้ถือว่าเป็นปูชนียสถานที่มีคุณค่าทางจิตใจต่อคนลาวมากที่สุดก็ว่าได้ เสมือนเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทั้งประเทศ
วัดเชียงทองตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองหลวงพระบาง มีการออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบล้านนา และได้รับการยกย่องจากนักโบราณคดีว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่งดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในลาว จนทำให้มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างพากันมาชื่นชมความงามนี้ด้วยสายตาของตัวเอง นอกจากจะมีรูปทรงที่สวยงามแล้ว ยังเป็นศาสนสถานที่ทรงคุณค่าทางจิตใจของชาวลาว ทั้งนี้ วัดเชียงทองถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1560 โดยพระโพธิสารเจ้า มีฐานะเป็นวัดหลวง จึงทำให้มีการดูแลปฏิสังขรณ์เป็นอย่างดี ภายในวัดเชียงทองประกอบไปด้วยพระอุโบสถ พระประธาน วิหารน้อย โรงเมี้ยนโกศ ซึ่งมีการประดับตกแต่งด้วยศิลปะแบบหลวงพระบางแท้ ๆ
ทุ่งไหหินเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในเมืองเชียงขวาง (Xieng Khouang) เป็นที่ราบกว้างเต็มไปด้วยหินรูปทรงคล้ายไหหรือโอ่ง มีความสูงตั้งแต่ 1-3 เมตร นักโบราณคดีสันนิษฐานว่า ไหพวกนี้ปรากฏขึ้นตั้งแต่ยุคหิน และน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมฝังศพ เพราะมีการค้นพบซากโครงกระดูกมนุษย์และสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการฝั่งศพบริเวณรอบ ๆ นอกจากนี้ บริเวณรอบ ๆ ไหหินยังมีร่องรอยของหลุมระเบิดที่ทิ้งลงมาโดยสหรัฐอเมริกาอีก อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัดจากนักโบราณคดีว่าที่มาของไหหินนี้เป็นมาอย่างไรกันแน่ แต่ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติไปเรียบร้อยแล้ว
สี่พันดอน แปลว่า สี่พันเกาะนั่นเอง เป็นหมู่เกาะที่อยู่บริเวณแม่น้ำโขงทางตอนใต้ของประเทศลาว ก่อนที่จะไหลเข้าเขตประเทศกัมพูชา ชาวบ้านแถบนี้ประกอบอาชีพประมงเป็นส่วนใหญ่ และยังคงดำรงชีวิตแบบชาวชนบท มีความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย เป็นเขตที่ค่อนข้างสงบทีเดียว จุดท่องเที่ยวหลัก ๆ มีอยู่ 3 แห่ง คือ ดอนคง ดอนคอน และดอนเด็ด สำหรับดอนคงเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีบรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนแบบชิล ๆ สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ ชมความงามของธรรมชาติ สำหรับดอนคอนและดอนเด็ดเป็นเกาะที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาค่อนข้างมาก จึงมีที่พักเปิดให้บริการกับผู้คนที่แวะเวียนมาเยี่ยมชมธรรมชาติที่นี่ ที่สำคัญราคาที่พักไม่แพงเลย
วังเวียงเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ตั้งอยู่ในเมืองวังเวียง ริมแม่น้ำซอง อยู่ห่างจากเมืองหลวงเวียงจันทน์ 150 กิโลเมตร ตัวเมืองถูกล้อมรอบด้วยภูเขาและแม่น้ำ ด้วยลักษณะภูมิประเทศเช่นนี้ทำให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่งดงามไปด้วยธรรมชาติ มีทัศนียภาพอันงดงามของทิวเขาที่วางสลับตัวกัน เหมาะจะไปสูดอากาศบริสุทธิ์ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับกลิ่นอายวิถีชีวิตวัฒนธรรมของชาวลาวในชนบท เช่น เผ่าลาวสูง, ลาวเทิง, ลาวม้ง และไทลื้อ ส่วนกิจกรรมที่น่าสนใจประกอบด้วย เดินทางไกลชมป่าไม้ ปีนเขา ชมถ้ำ และล่องห่วงยางเล่นบนแม่น้ำซอง ฯลฯ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวเป็นจำนวนมาก จึงมีที่พัก ร้านอาหาร ร้านอินเทอร์เน็ต ตัวแทนบริษัทท่องเที่ยวเปิดให้บริการอย่างคึกคัก
แม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีความยาวถึง 4,350 กิโลเมตร ประเทศลาวเองก็มีพรมแดนติดแม่น้ำโขงด้วยเช่นกัน และใช้แม่น้ำโขงสำหรับสัญจรไปมาอีกด้วย ทัศนียภาพตลอดแนวริมฝั่งนั้นสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของคนลาว และความงดงามทางธรรมชาติ อากาศที่บริสุทธิ์ ทำให้ทริปล่องแม่น้ำโขงนั้นเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยจุดเริ่มต้นเส้นทางเริ่มที่เมืองห้วยทรายและสิ้นสุดที่เมืองหลวงพระบาง หรือจะออกเดินทางจากหลวงพระบาง-ห้วยทรายก็ได้
เมืองหลวงพระบางอยู่ทางตอนเหนือของประเทศลาว และถูกขนาบไปด้วยแม่น้ำคานและแม่น้ำโขง เมืองนี้จัดว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์น่าหลงใหล เพราะเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยวัดวาอารามเก่าแก่ มีบ้านเรือนที่มีสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียน บรรยากาศในเมืองเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม จึงไม่น่าแปลกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรกดโลก ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก โดยสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ เช่น วัดใหม่สุวันนะพูมาราม พระธาตุจอมพูสี น้ำตกตาดกวางสี และวัดวิชุน ฯลฯ
ซ้ำขออภัย