เวลา 18.35 น. วันที่ 19 ม.ค. ที่เวทีกปปส.ลาดพร้าว นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาฯ กปปส. ขึ้นเวทีปราศรัย ภายหลังเดินเชิญชวนประชาชนย่านลาดพรัาว-รัชดา ร่วมชัตดาวท์กรุงเทพฯ ว่า ตลอดทั้งวันมีประชาชนออกมาสนับสนุนเราจำนวนมาก และได้รับเงินบริจาคมากถึง 14 ถุง ถึงแม้จะมีทรราชย์ใช้ความรุนแรงลอบกัด ลอบยิง ขว้างระเบิด จนมีผู้เสียชีวิตรวม 3 คน หรือเหตุร้ายรายวันอื่นๆ เพื่อให้ผู้ชุมนุมตระหนกตกใจและเกิดความกลัวจนวิ่งหนี แต่เราไม่ได้กลัว พวกที่ใช้ความรุนแรงและจะเดินหน้ากำจัดระบอบทักษิณให้หมดไป เพราะอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน โดยเราจะต่อสู้โดยสันติวิธี ยิ่งทรราชย์ใช้ความรุนแรงกับเราเท่าไหร่ประชาชนจะยิ่งออกมามากขึ้น เพื่อเดินหน้าสานต่ออุดมการณ์ของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต 

 เราจะต้องต่อโค่นล้มรัฐบาลและระบอบทักษิณด้วยสันติวิธี เพราะอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน เมื่อขับไล่รัฐบาลได้แล้วจะทำการตั้งรัฐบาลและสภานิติบัญญัติของประชาชน อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเมื่อโค่นล้มรัฐบาลได้ จะจัดตั้งรัฐบาลและสภานิติบัญญัติของประชาชนมาปฏิรูปประเทศในประเด็นที่เคยระบุเอาไว้ทั้งการปฎิรูประบบเลือกตั้ง ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการป้องกันปราบปรามต่อต้านคอร์รัปชั่น ให้ประชาชนเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ปฎิรูปโครงสร้างตำรวจ เป็นต้น 

 “ที่ผ่านมามีคนเสียชีวิตไปแล้วจากการลอบยิง และขว้างระเบิดถึง 3 คน เราจะไม่ให้ความตั้งใจขจัดทรรราชย์ของเขาเปล่าประโยชน์ จากนี้เราจะทำการปิดกรุงเทพฯ ให้สนิทในสัปดาห์หน้า ปิดบ้านนายกรัฐมนตรี ครม. และปิดส่วนราชการทั่วประเทศ ไม่ให้เป็นเครื่องมือของระบอบทักษิณ โดยเริ่มจาก 14 จังหวัดภาคใต้ ไล่ขึ้นมาถึงภาคกลาง เหนือ และอีสาน ในจังหวัดที่มวลชนเราเข้มแข็ง และใน 2-3 วันนี้ ชาวนาก็จะออกมาเรียกร้องและทวงถามรัฐบาลในหลายเรื่อง ทำให้ระบบราชการอยู่ไม่ได้ ไม่สามารถทำงานได้” นายสุเทพ กล่าว

 อย่างไรก็ตามนายสุเทพ ได้ปราศรัยทิ้งท้ายว่า ขอยืนยันว่าเราจะดูแลช่วยเหลือครอบครัวของนายประคอง ชูจันทร์ ที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่บรรทัดทอง อย่างดีที่สุด โดยเบื้องต้นจะมอบเงินจำนวน 4 หมื่นบาท ที่ได้จากการเดินรณรงค์ในวันนี้ให้แก่ครอบครัวของนายประคอง และจะดูแลลูกของนายประคองให้ได้รับการศึกษาจนจบชั้นระดับปริญญา ท่ามกลางประชาชนที่มารอฟังการปราศรัย 

 โดยบรรยากาศช่วงค่ำเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากมีผู้ปราศรัยจากเวทีปทุมวันมาร่วม อาทิ นายเสรี วงศ์มณฑา เป็นต้น อย่างไรก็ตามหลังจบการปราศรัย นายสุเทพเดินทางกลับทันที โดยไม่ได้เดินทางไปร่วมงานรดน้ำและสวดพระอภิธรรมศพนายประคอง ที่วัดเทพศิรินทราวาส ตามที่กำหนดไว้แต่อย่างใด

 ขณะที่นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษกกปปส.กล่าวถึงเหตุระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิว่า เป็นการกระทำที่อุกอาจจากกระบวนการที่สนับสนุนรัฐบาล และใช้ความรุนแรง ข่มขู่ คุกคามประชาชน เพราะรัฐบาลกำลังจนตรอก จึงใช้ทุกวิถีทางที่จะรักษาอำนาจของตัวเองเอาไว้ แต่ประชาชนยังเข้าร่วมชุมนุม ไม่ยอมให้ระบอบทักษิณกดขี่ข่มเหงต่อเนื่อง และพร้อมที่จะออกมาสู้จนกว่าชัยชนะจะเกิดขึ้น

 นายเอกนัฏ กล่าวอีกว่า วันนี้เห็นได้ชัดว่ามีกระบวนการที่เลวร้ายใช้อาวุธสงครามทำร้ายประชาชนเป็นระบบ และประชาชนไม่ได้โง่ เพราะเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ขอถามไปถึงผบ.ตร.ว่าเหตุใดไม่สามารถจับตัวคนผิดได้เลยแม้แต่คดีเดียว ทั้งที่ศอ.รส.และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) มีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยของประชาชนที่ออกมาชุมนุมใช้สิทธิภายใต้รัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ปล่อยให้ผู้ร้ายทำร้ายประชาชนตามใจชอบ

 นายเอกนัฏ กล่าวว่า ถึงจะมีเกิดเหตุระเบิดรายวัน แต่เราจะยังเดินต่อไป ต้องถามรัฐบาลและตำรวจว่าทำอะไรอยู่ แต่กลับโยนความผิดให้ประชาชนเพื่อสร้างสถานการณ์ หากรัฐบาล และสตช.ไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบ หรือจับกุมตัวผู้กระทำความผิด สันนิษฐานได้ว่ารู้เห็นเป็นใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น