ตู้เย็น ใช้ยังไงให้ทนทานนานนับ 10 ปี
ตั้งตู้เย็นให้ถูกต้องเพื่อความคงทน
การ ตั้งตู้เย็นนั้นมีความสำคัญเพราะจะทำให้ตู้เย็นสามารถระบายอากาศได้ดี ไม่อับชื้น ควรเว้นระยะห่างด้านหลังตู้เย็นกับผนังประมาณ 100 มม. ด้านข้าง 20 มม. ด้านบน 300 มม. และเพื่อความสะดวกในการปิด เปิดประตูตู้เย็นด้วยครับ
สิ่ง ที่ต้องระวังเป็นอย่างมากเลยคือ การชำรุดของสายไฟ เพราะเป็นทางผ่านของพลังงานไฟฟ้า หากเกิดการชำรุดแล้ว จะทำให้เกิดไฟฟ้าช๊อตได้ หรือถ้าใครเกิดไปสัมผัสเข้า จะทำให้เกิดอันตรายขึ้นกับตนเองนะครับ
เนื่อง จากตู้เย็นนั้นใช้กำลังไฟฟ้าเยอะ ดังนั้น ควรเสียบปลั๊กตู้เย็นโดยตรงกับเต้ารับเพียงหนึ่งอันเท่านั้น ไม่ควรต่อปลั๊กตู้เย็นกับเต้ารับที่ต่อกับเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชิ้น รวมถึงต้องเสียบให้ดี ๆ ด้วยนะครับ เพราะถ้าเสียบไม่สนิท อาจทำให้เกิดประกายไฟได้
หาก เกิดไฟฟ้าดับภายในบ้าน ควรรีบถอดปลั๊กออกทันที และเมื่อไฟมา ก็ทำการเสียบปลั๊กกลับเข้าไปตามปกติ แต่ระยะห่างระหว่างการเสียบปลั๊กและการถอดต้องห่างกันอย่างน้อย 5 นาที
ควร ตั้งสวิตช์ควบคุมอุณหภูมิของตู้เย็นให้เหมาะสม ในอุณหภูมิ 3-6 องศาเซลเซียส ส่วนช่องแช่แข็งติดตั้งอุณหภูมิประมาณลบ 15-18 องศาเซลเซียส เพื่อความประหยัดและลดการทำงานของตู้เย็น
ห้ามเลย! ของร้อนเอาเข้าตู้เย็น
อย่า นำของที่ยังร้อนเข้าแช่ในตู้เย็นทันที เพราะความร้อนจากของร้อนจะไปเพิ่มอุณหภูมิภายในตู้เย็นมากกว่าปกติ ทำให้มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ทำงานนานขึ้น กินไฟเพิ่มขึ้น ควรปล่อยให้ของที่ยังร้อนเย็นตัวลงก่อนนำเข้าเก็บไว้ในตู้เย็นไม่ว่าจะเป็นตู้เย็นใหญ่หรือตู้เย็นเล็กหลักปฏิบัติก็เหมือนกันครับ
สารเคมี สี และสารไวไฟ สิ่งเหล่านี้ไม่ควรนำไปเก็บไว้ในตู้เย็นเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดการเจือปนกับอาหารและอาจเกิดปฏิกิริยากับความเย็นทำให้เป็นอันตรายได้
อย่าเปิดตู้เย็นทิ้งไว้นะ
ไม่ ควรเปิดตู้เย็นทิ้งไว้นานๆ จะทำให้ความร้อนเข้าไปทำให้ภายในตู้สูญเสียความเย็น และตู้เย็นต้องเริ่มทำงานสะสมความเย็นใหม่ สังเกตง่ายๆ คือ บางครั้งที่เปิดตู้เย็นจะได้ยินเสียงมอเตอร์คอมเพรสเซอร์เริ่มทำงาน จึงไม่เป็นการประหยัดพลังงาน และทำให้อายุการใช้งานของตู้เย็นลดลงเร็วกว่าความเป็นจริง
เครื่อง ดื่มเหล่านี้ เป็นเครื่องดื่มที่มีก๊าซ ที่สามารถขยายตัวได้เมื่อเจอความเย็นจัด ดังนั้นไม่ควรแช่เครื่องดื่มเหล่านี้ไว้ในช่องแข็ง เพราะจะทำให้เกิดการระเบิดได้ครับ แต่ถ้าเป็นไวน์ แนะนำให้เก็บตู้แช่ไวน์จะดีที่สุด
หมั่นทำความสะอาดตู้เย็นเป็นประจำ
หมั่นทำความสะอาดตู้เย็นเพื่อ ขจัดสิ่งสกปรกที่จะติดอยู่บริเวณเครื่องควบแน่น หรือขดลวดที่อยู่ด้านหลังของตู้ก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะขดลวดเหล่านี้ทำหน้าที่ในการขับไล่ความร้อนออกจากตู้เย็น ดังนั้นการติดตั้งตู้เย็นจึงไม่ควรที่จะตั้งชิดผนังจนเกินไปและควรระวังไม่ ให้มีอะไรมากันทางระบายอากาศด้วย นอกจากนั้น อาจทำได้ด้วยการดูดฝุ่นที่เกาะอยู่อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ก็จะช่วยทำให้ขดลวดได้รับลมเย็นๆ และคลายความร้อนได้ดีมากขึ้น และถ้าเพื่อน ๆ อยากทราบขั้นตอนการทำความสะอาดตู้เย็นอย่างละเอียด เราก็มีขั้นตอนมาให้ทำตามกันดังนี้ครับ
ทำความสะอาดตู้เย็นเป็นระยะ โดยเริ่มจาก
1. เอาของที่เก็บไว้ในตู้เย็นออกจากตู้ให้หมด
2. ดึงปลั๊กไฟหรือสับ Cutout ของตู้เย็นออกเพื่อป้องกันไฟฟ้า
3. ในการทำความสะอาดตู้เย็นห้ามใช้สารประเภทน้ำมันเบนซิน ทินเนอร์ หรือ แอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดตู้เย็นโดยเด็ดขาด
4. ถอดชิ้นส่วนภายในของตู้เย็นที่สามารถถอดได้ออกมาล้างด้วยน้ำ อาทิ ชั้นวางของต่างๆ
5. ใช้ผ้านุ่ม ชุบน้ำสบู่เช็ดทำความสะอาดตู้เย็นทั้งภายในและภายนอก
6. แล้วใช้ผ้าชุบน้ำที่สะอาดเช็ดอีกรอบและตามด้วยใช้ผ้าแห้งเช็ดเพื่อซับน้ำและสบู่ออกให้หมด
7. ดูดฝุ่นทำความสะอาดด้านหลังตู้เย็นสม่ำเสมอจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตู้เย็นได้มาก
8. ใช้ผ้าสะอาดเช็ดชิ้นส่วนที่ถอดออกมาล้างให้แห้งแล้วประกอบคืนเข้าไปในตู้เย็น แล้วเสียบปลั๊กไฟไว้เหมือนเดิม
เนื่องจากในตู้เย็นจะมีฉนวนความเย็น การนำของมีคมมางัดแงะน้ำแข็งอาจทำให้ทะลุไปถึงฉนวน และทำให้ฉนวนภายในตู้เย็นเสียหายได้
การที่เราใช้ตู้เย็นเป็น ระยะเวลานาน อาจทำให้ยางบริเวณขอบตู้เย็นเสื่อม ซึ่งมีความจำเป็นต้องเปลี่ยน การทดสอบก็ง่ายมากครับ เพียงแค่ใช้กระดาษแทรกลงไประหว่างยางและประตูตู้เย็น เมื่อปิดตู้เย็นสนิท ถ้าสามารถขยับกระดาษที่แทรกขึ้นลงได้อย่างสะดวก แสดงว่ายางตู้เย็นเสื่อมครับ ควรเปลี่ยนใหม่ได้แล้ว
และนี่ก็เป็นวิธีต่าง ๆ ที่จะทำให้คุณดูแลรักษาตู้เย็นได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เพื่อให้คุณได้ใช้ตู้เย็นได้นาน ๆ อย่างคุ้มค่าครับ