จุดเทียนเขียนสันติภาพ เดินหน้าเลือกตั้ง ต้านรัฐประหาร

สวนเบญจสิริ กทม.

เวลา 18.00 น. ที่สวนเบญจสิริ กรุงเทพฯ ประชาชนสวมเสื้อสีขาวประมาณ 300 คน จัดกิจกรรมจุดเทียน เรียกร้องสันติภาพ และการเคารพหลักความเท่าเทียม 1 คน 1 เสียง เดินหน้าเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. โดยการจัดกิจกรรมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แม้จะอยู่ห่างจากสี่แยกอโศกฯ ที่มีผู้ชุมนุมกลุ่ม กปปส. ชุมนุมอยู่เพียง 500 เมตร ก็ตาม

อิทธิพล

อิทธิพล (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ชาวชัยภูมิ นิสิตชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ(มศว) กล่าวถึงเหตุผลที่ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ว่า แม้ตนเองไม่เห็นด้วยกับการชัตดาวน์กรุงเทพ แต่มองว่าเราต่างคนต่างความคิดก็ต้องเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน อยากเห็นประชาชนรักกันและสันติภาพเกิดขึ้น เพราะคนเราอยู่ในสังคมต้องพึ่งพาอาศัยกัน ดังนั้นการที่คนเราเท่าเทียมกันจึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องอย่างยิ่ง และการเลือกตั้ง 2 ก.พ.นี้ ก็ไม่ได้เร็วหรือช้าเกินไปสำหรับการตัดสินใจในการเลือก

“ถ้าเราไม่ชอบพรรคการเมืองใดและอยากลงโทษเขาหรือสั่งสอนให้เขารู้ว่าเขาทำผิด เขาคดโกง เราก็สั่งสอนเขาในคูหาเลือกตั้ง ไม่ใช่มาสั่งสอนโดยใช้ความรุนแรงกับเขา และการที่เราเอาความรุนแรงไปทำร้ายเขา บางครั้งเขาอาจจะผิด แต่มันก็ทำให้เขาถูกได้ เพราะเราเอาสิ่งที่ผิด ไปไล่ความผิด มันก็จะมีแต่เพิ่มความผิด มันก็มีแต่ผิด ผิด ผิด แล้วเมื่อไหร่สังคมจะมองเห็นความถูกต้องและเดินออกจากปัญหานี้สักที” อิทธิพล กล่าว

สำหรับการปฏิรูปนั้น อิทธิพล มองว่าการใช้เวลาเพียงปีครึ่งอย่างที่เสนอกันนั้น ไม่อาจทำได้ เพราะพัฒนาการประชาธิไตยในหลายๆประเทศก็ต้องใช้เวลานาน ต้องค่อยๆปรับตัว ควรเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป

กรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ลงเลือกตั้ง 2 ก.พ.นี้ อิทธิพล ยังเห็นว่า สามารถเดินหน้าต่อไปได้ เนื่องจากการเมืองไม่ได้มีแต่พรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคอื่นก็มีอีกมาก เช่น พรรคของคุณชูวิทย์ ก็สามารถเป็นฝ่ายค้านได้ หรือถ้าไม่มีตัวเลือกก็ไปโหวตโน ให้สังคมรู้ว่าคนที่เห็นแบบนั้นมีมากเท่าไหร่ก็ได้ การเลือกตั้งเป็นการทำสงครามทางการเมืองที่ไม่เสียเลือดเสียเนื้อมากที่สุด และคูหาเลือกตั้งเป็นสนามรบที่สงบ เคารพกฏหมาย

อิทธิพล ยังฝากถึงสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ด้วยว่า ที่อ้างประชาชนในการเคลื่อนไหวต่างๆนั้น เอาอะไรมาวัด ทำไมไม่ยอมผ่านกระบวนการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่วัดเสียงประชาชนทั้งประเทศคิดอย่างไรได้ดีที่สุด เพราะถ้าเขาโหวตโนก็แสดงว่าเขาไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้งครั้งนี้ และก็สามารถทำการปฏิรูปไปพร้อมกับการเลือกตั้งได้ อีกทั้งข้อเสนอเรื่องการปฏิรูปก็มีการจัดทำมาหลายครั้งหลายปีแล้วด้วย