ข่าวคดีทารุณกรรมคนใช้ภายในครัวเรือนเป็นคดีหนึ่งที่ตอกย้ำถึงปัญหาสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมกันของมนุษย์
ช่วงสัปดาห์นี้เกิดคดีสะเทือนขวัญพร้อมๆ กันในหลายประเทศ
ฮ่องกงเป็นดินแดนที่มีแรงงานในครัวเรือนจากภูมิ ภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้า ไปทำงานกว่า 300,000 คน ส่วนใหญ่มาจากประ เทศอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์
สาวใช้อินโดนีเซีย วัย 23 ปี ชื่อเออร์เวียนา สุลิสต์ยันนิงสิห์ ถูกนายจ้างฮ่องกงทารุณกรรมอย่างหนักแล้วรีบส่งหญิงสาว กลับไปอินโดนีเซีย ขณะที่หญิงสาวเมื่อถึงสนามบินก็ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บสาหัส
แพทย์พบร่องรอยมีดและโซ่จักรยานเฉือนที่ขาและฝ่าเท้า รวมถึงบาดแผลที่ถูกเหล็กร้อนเผาไฟตามร่างกาย ขณะนี้ยังคงอยู่โรงพยาบาลในชวากลาง
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกง พบว่าสาวใช้อินโดนีเซียทำงานให้นายจ้างรายนี้ราว 8 เดือนแล้ว กระทั่งเมื่อถูกทารุณล่าสุดนี้ นายจ้างสั่งห้ามเหยื่อพูดคุยกับใครจนกว่าจะขึ้นเครื่องบิน โดยให้เงินแค่ 400 บาท พกติดตัวไปตายเอาดาบหน้า
คดีนี้สร้างความโกรธแค้นให้ชาวอินโดนีเซียอีกครั้ง หลังจากเคยเกิดคดีลักษณะนี้มาก่อน โดยเฉพาะคดีเมื่อเดือนพ.ย. ปีก่อน ที่สองสามีภรรยาทารุณสาวใช้อินโดนีเซีย
ครั้งนั้นองค์กรนิรโทษกรรมสากลประณามว่าเป็นการทารุณเยี่ยงทาส
ส่วนที่อินเดีย เกิดกรณีสาวใช้วัย 11 ขวบ ถูกนายจ้างซึ่งเป็นพ่อค้าขายผ้าเช็ดหน้าชาวอินเดีย วัย 38 ปี และภรรยา ในนครมุมไบ ทุบตีเป็นประจำ
หากปัสสาวะรดที่นอนจะถูกลงโทษให้กินพริก และนำพริกสดมาถูตามร่างกาย
ทุกครั้งที่เด็กหญิงร้องด้วยความเจ็บปวดและตะโกนขอความช่วยเหลือ นายจ้างก็จะเปิดเสียงเพลงในบ้านให้ดังขึ้นเพื่อกลบเสียงร้องของเด็กหญิง
การสอบสวนพบว่า ทั้งคู่ซื้อตัวเด็กหญิงมาจาก อุตตรประเทศเมื่อปีที่ผ่านมาด้วยค่าตัว 7,200 บาท ทั้งแสร้งสัญญากับครอบครัวเด็กว่าจะดูแลเด็กเป็นอย่างดี รวมถึงจะส่งเสียให้เรียนหนังสือ แต่กลับถูกใช้ให้เป็นคนดูแลลูก
เมื่อกรณีนี้ถูกเปิดโปงโดยสื่อท้องถิ่น เจ้าหน้าที่จึงเพิ่งเข้ามาสอบสวน
ทางการอินเดียออกกฎหมายห้ามมิให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 14 ปี มาเป็นแรงงานในครัวเรือน ร้านอาหาร รวมทั้งโรงแรม แต่นั่นก็ไม่สามารถบังคับ ใช้ในประชากรกว่า 1,200 ล้านคนในประเทศได้ ทั่วถึงอยู่ดี
สำหรับที่ปากีสถาน คดีทารุณกรรมสาวใช้นั้น น่าสลดใจที่สุด เนื่องจากเหยื่อถูกกระทำจนถึงตาย
นายจ้างหญิงในรัฐปัญจาบใช้ท่อพลาสติกตีเด็กหญิงอิราม วัย 10 ขวบ จนเสียชีวิต ต่อหน้าลูกชายวัย 16 ปีของตนที่ยืนมอง
เด็กหญิงถูกขายให้มาเป็นแม่ครัวในครอบครัวชนชั้นกลาง ได้ค่าจ้างเดือนละ 750 บาท ส่วนพี่สาวอีก 2 คนก็ถูกส่งตัวไปเป็นสาวใช้ในครอบครัวอื่นเช่นกัน เพื่อบรรเทาความยากจนและความอยู่รอดของครอบครัว
ตำรวจสอบสวนนายจ้างหญิงที่อ้างว่า ไม่ได้เจตนา แต่เป็นอุบัติเหตุจากการบันดาลโทสะ โดยอ้างว่า เด็กหญิงเคยขโมยเงินตน 3 ครั้ง และพอสั่งให้ทำงานกลับบอกว่าง่วง
กลุ่มสิทธิมนุษยชนระบุว่า มีเด็กกว่า 12 ล้านคน ต้องออกจากครอบครัวเพื่อมาใช้ชีวิตหารายได้ โดยที่ไม่มีกฎหมายรองรับในการคุ้มครองสิทธิ์ดังกล่าว ด้านองค์การสหประชาชาติได้แนะนำให้รัฐบาลปากีสถานหยิบยกนโยบายคุ้มครองเด็กขึ้นมาพิจารณาพร้อมตั้งคำถามว่าจะต้องให้เด็กตกเป็นเหยื่ออีกกี่คน