ผบ.ทร.สั่ง สอบ"เรือเอก" พร้อมทหารรวม 3 นาย พกอาวุธขับรถเข้าใกล้พื้นที่ชุมนุม คปท. ย่าน ถ.กรุงเกษม เจอปืน 3 กระบอก มีดและกระสุนอีกเพียบ แถมบัตรวีไอพีของม็อบ คปท. ด้าน 3 ทหารระบุเป็นชุดป.ป.ส.ของกองทัพเรือเข้ามาหาข่าว เพราะพบเบาะแสขบวนการยาเสพติดอาจอาศัยช่วง ชุมนุมชัตดาวน์ปะปนเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นส่งฝากขังต่อศาลทหาร ขณะที่ผบ.กองเรือยุทธการนำหนังสือยืนยันการทำงานมาแสดงกับตำรวจ "ปึ้ง"ให้ปลัดกห.ถามไปที่ต้นสังกัดว่าเรื่องราวเป็นอย่างไรแน่ และรายงานกลับมายังศอ.รส.
จับ 3 ทหารเรือพกอาวุธเข้าใกล้เขตชุมนุม คปท. เมื่อเวลา 00.10 น. วันที่ 16 ม.ค. ขณะที่พ.ต.ท.มานพ เครือทิม สวป.สน.นางเลิ้ง ตั้งด่านตรวจอยู่บริเวณหน้าศูนย์โทรคมนาคม ถนนกรุงเกษม แขวงวัดโสมนัส เขตป้อม ปราบศัตรูพ่าย พบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน สฉ 7539 กทม. ขับผ่านเข้ามาโดยมุ่งหน้าไปทางกลุ่มผู้ชุมนุม จึงเรียกให้หยุดเพื่อตรวจค้น
ภายในรถพบชาย 3 คนจึงเชิญลงจากรถและตรวจค้น ต้องผงะเมื่อพบอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. รวม 3 กระบอก พร้อมอุปกรณ์กระบอกต่อเก็บเสียง กระสุนขนาด 9 ม.ม. 72 นัด แม็ก กาซีน 5 แม็ก มีดพับ 2 เล่ม เสื้อเกราะ 1 ตัว บัตรวีไอพีผู้ชุมนุมกลุ่ม คปท. 3 ใบ แผ่นป้ายทะเบียนตราสมอซึ่งเป็นรถใช้ในราชการกองทัพเรือ หมายเลข 42734 และเมื่อตรวจสอบทะเบียนรถดังกล่าวพบว่าเป็นของรถคันอื่น จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่สน.นางเลิ้ง
เบื้องต้นทั้ง 3 คนแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ทหารเรือ ประกอบด้วย เรือเอกไพรัตน์ พลายงาม อายุ 47 ปี สังกัดกองทัพเรือ, จ่าเอก ไพรินทร์ โพธิ อายุ 26 ปี และจ่าเอกบัลลังก์ ขันทะพล อายุ 35 ปี สังกัดกองเรือยุทธการ โดยระบุว่าเป็นชุดป.ป.ส.กองทัพเรือเข้ามาหาข่าวขบวนการยาเสพติด ที่สงสัยว่าจะอาศัยช่วงมีม็อบในกรุงเทพฯ ปะปนเข้ามาในพื้นที่
ต่อ มา พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์ ผบ.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ กองเรือยุทธการ เดินทางมาที่ สน.นางเลิ้ง พร้อมหนังสือยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ทหารทั้ง 3 นาย เป็นชุดติดตามข่าวยาเสพติด ก่อนเปิดเผยว่า ทหารทั้ง 3 นายเป็นชุดป.ป.ส.ของกองทัพเรือ ที่ได้รับคำสั่งให้ติดตามเรื่องยาเสพติดมาจากภาคตะวันออกเข้ามาในกทม. ซึ่งอาวุธทั้งหมดที่พบนั้นเอาไว้ป้องกันตัวตามปกติ ส่วนบัตรคปท. เป็นยุทธวิธีในการแทรกซึมหาข่าวในการเข้ามาในจุดที่ชุมนุม เมื่อทราบข่าวทั้ง 3 นายถูกจับจึงนำหนังสือคำสั่งของชุดป.ป.ส.กองทัพเรือ มายืนยันกับทางตำรวจ ซึ่งหลังจากนี้ก็ปล่อยให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.ณพล กลัดเข็มเพชร ผกก.สน. นางเลิ้ง กล่าวว่า หลังจากตำรวจจับกุมและสอบปากคำมีเพื่อนทหารเรือประมาณ 20 นาย เดินทางมาขอเยี่ยม จากนั้นในช่วงบ่ายวันเดียวกันคุมตัวไปฝากขังต่อศาลทหาร ในข้อหาพกพาอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน เข้ามาในพื้นที่ควบคุมพ.ร.บ.ความมั่นคง
ด้านพล.ร.อ.พิจารณ์ ธีรเนตร ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ (ผบ.กร.) กล่าวว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าทำไมถึงเข้าไปในบริเวณจุดชุมนุม เนื่องจากไม่มีคำสั่งจากกองทัพเรือ ให้กำลังพลเข้าไปในที่ชุมนุม เพราะไม่ใช่หน้าที่ของทหาร อย่างไรก็ตามต้องขอเวลาในการตรวจสอบก่อนและสอบถามข้อเท็จจริงเสียก่อน
"หาก ทหารเรือคนใดเข้าไปร่วมชุมนุมทางกองทัพเรือต้องสอบสวน เพราะการเข้าไปโดยพลการ โดยกองทัพเรือไม่สั่งการให้เข้าไปร่วมชุมนุมกับฝ่ายใด หากจะเข้าไปร่วมชุมนุมโดยส่วนตัวต้องไปในลักษณะของประชาชน หากไปกระทำการใดๆ ที่ผิดกฎหมาย ต้องได้รับโทษทางกฎหมายเช่นเดียวกับประชาชนเหมือนกัน" พล.ร.อ.พิจารณ์กล่าว
ด้านพล.ร.ต.กาญจน์ ดีอุบล เลขานุการกองทัพเรือ (ลก.ทร.) กล่าวว่า พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. ทราบเรื่องแล้วและไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งการให้พล.ร.ต.วินัยสอบสวนและรายงานข้อเท็จจริงว่าเป็นการปฏิบัติเกิน อำนาจหน้าที่หรือไม่ หากสอบสวนแล้วพบว่ามีความผิด ก็จะตั้งคณะกรรมการพิจารณาลงโทษทางวินัยและอาญา โดยจะไม่มีการปกป้องอย่างเด็ดขาด ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นทหารทั้ง 3 นายเป็นเจ้าหน้าที่ของป.ป.ส.จริง โดยมีบัตรที่ผ่านการอบรมจากป.ป.ส. เข้ามาติดตามผู้ต้องสงสัยว่ามียาเสพติดจาก อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เข้ามาในกลุ่มผู้ชุมนุมหรือไม่ ซึ่งถือว่าเป็นหน้าที่ แต่ต้องรอผลสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ในฐานะกำกับดูแลศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) กล่าวว่า กรณีจับ 3 ทหารเรือ ต้องให้หน่วยงานต้นสังกัดชี้แจงศอ.รส. ทั้งนี้ประสานให้พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม ตรวจสอบไปยังต้นสังกัดของทหารคนที่ถูกจับกุม ถึงแม้จะเป็นนอกเวลาราชการ แต่พบว่ามีการใช้อาวุธของทางราชการพกติดตัวมาร่วมชุมนุมด้วย เนื่องจากมีข้อมูลว่ามีทหารบางนายมารับจ๊อบเป็นการ์ดให้ผู้ชุมนุมด้วย