จาก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตัวกลมป้อมขนาดเล็กพอ ๆ กับสุนัข ที่หากินตามป่าทึบเมื่อหลายสิบล้านปีก่อน พวกม้าได้มีวิวัฒนาการจนมีรูปร่างมาเป็นอย่างเช่นที่เห็นในปัจจุบันได้อย่าง ไร เราจะมาหาคำตอบในเรื่องนี้กัน ด้วยการย้อนเวลากลับไปยังยุคที่บรรพบุรุษรุ่นแรกสุดของพวกม้าปรากฏขึ้นบนโลก
ต้นตระกูลของม้าเริ่มมีวิวัฒนาการขึ้นมาเมื่อ 50 ล้านปีที่แล้วนักโบราณชีววิทยาเรียกสัตว์ชนิดนี้ว่าไฮราโคเธอเรียม (hyracoterium) หรืออีกชื่อหนึ่งคืออีโอฮิปปุส ที่แปลว่า ม้าแห่งรุ่งอรุณ
อีโอฮิปปุส เป็นม้าดึกดำบรรพ์ที่มีขนาดเท่ากับสุนัขจิ้งจอก มันสูงเพียง 40 เซนติเมตร ตัวป้อม คอสั้น เท้าหน้ามีสี่นิ้วและเท้าหลังมีสามนิ้ว พวกมันอาศัยอยู่ในยุคอีโอซีน ซึ่งในยุคดังกล่าวผืนดินส่วนใหญ่บนโลกถูกปกคลุมด้วยผืนป่าเขตร้อนและยังไม่ มีทุ่งหญ้าเหมือนเช่นในยุคปัจจุบัน อีโอฮิปปุสกินใบไม้ต่าง ๆ เป็นอาหาร โดยเท้าของพวกมันค่อนข้างแบนและแผ่ออกซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการเดินในป่าดงดิบ ที่มีพื้นส่วนใหญ่เป็นดินอ่อนนุ่ม
ไดอาทรีมา (diatrima)
การ ที่ม้าในยุคแรกมีขนาดเล็กทำให้มันตกเป็นเหยื่อของนักล่าขนาดใหญ่อื่นๆซึ่ง นักล่าที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในยุคของอีโอฮิปปุสก็คือนกกินเนื้อที่ชื่อ ไดอาทรีมา (diatrima) ซึ่งเป็นนกยักษ์ที่บินไม่ได้มันสูงถึง 7 ฟุตและมีจงอยปากขนาดใหญ่ที่แหลมคมในการสังหารเหยื่อ อย่าง ม้าดึกดำบรรพ์ตัวเล็กๆเหล่านี้
ต่อ มาสภาพอากาศของโลกเริ่มเย็นลงผืนป่าเขตร้อนเริ่มแปรสภาพกลายเป็นทุ่งโล่ง พร้อมๆกับที่ต้นหญ้าได้แพร่กระจายพันธุ์อย่างกว้างขวางสัตว์กินพืชหลายชนิด ได้ปรับตัวให้เข้ากับอาหารชนิดใหม่นี้ซึ่งก็รวมถึงพวกม้าดึกดำบรรพ์ด้วย และเมื่อ 35 ล้านปีก่อน พวกอีโอฮิปปุสก็ได้มีวิวัฒนาการกลายมาเป็นเมโสฮิปปุส ซึ่งมีขนาดใหญ่เท่ากับสุนัขพันธุ์บอกเซอร์
เมโสฮิปปุส
ม้า ชนิดนี้ได้ปรับตัวให้เหมาะสมกับทุ่งหญ้าซึ่งเป็นที่อยู่ใหม่ของพวกมันโดยมี คอและขาที่ยาวขึ้นอีกทั้งมีฟันที่แข็งแรงเพื่อที่จะสามารถเคี้ยวกินหญ้าเป็น อาหารได้ นอกจากนี้เมโสฮิปปุสยังลดจำนวนนิ้วเท้าลงจนเหลือเพียงข้างละสามนิ้ว ซึ่งการลดจำนวนนิ้วเท้าลง ช่วยให้พวกมันสามารถวิ่งบนพื้นดินแข็งของทุ่งหญ้าได้ดีกว่าเดิม
จากเมโสฮิปปุสพวกม้าดึกบรรพ์เหล่านี้ได้มีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องจนก่อให้เกิดม้าสามนิ้วอีกหลายชนิดจนกระทั่งมาถึง 10 ล้าน ปีที่แล้วก็ได้เกิดม้าดึกดำบรรพ์ที่เป็นสัตว์ที่ออกหากินในทุ่งหญ้าอย่าง สมบูรณ์ ม้าชนิดนี้คือเมอริชิพปุส พวกมันมีฟันหน้าที่แหลมคมและฟันกรามที่แข็งแรงทำให้สามารถเคี้ยวหญ้าได้เป็น อย่างดีมันมีขนาดเท่ากับลูกม้าในยุคปัจจุบันและน่าจะอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง ตามทุ่งหญ้า
เมอริชิปปุส
เม อริชิปปุสยังคงมีสามนิ้วเหมือนบรรพบุรุษแต่นิ้วกลางของมันมีขนาดใหญ่มากโดย เป็นนิ้วเดียวที่แตะพื้นและมีกีบครอบนิ้วเอาไว้ด้วยนอกจากนี้ขาของเมอริชิ พปุสยังยาวกว่าบรรพบุรุษของมันมากซึ่งการมีกีบเท้าและขาที่ยาวนี้เองทำให้เม อริชิปปุสสามารถวิ่งบนพื้นดินแข็งของทุ่งหญ้าได้อย่างรวดเร็วซึ่งช่วยให้พวก มันเอาตัวรอดจากนักล่าอย่างหมาป่าและแมวป่าได้ นอกจากนี้บางครั้งพวกเมอริชิพปุสยังอาจต่อสู้โดยใช้เท้าหลังถีบพวกที่มาโจม ตีได้ด้วย พวกเมอริชิ พปุสเป็นหนึ่งในบรรดาสัตว์กินพืชรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จในการปรับตัวหา กินอยู่ในทุ่งหญ้าพวกมันได้มีวิวัฒนาการของชนิดพันธุ์แยกออกไปอีกหลายชนิด เช่น ฮิปปาเรียนหรือม้าลายดึกดำบรรพ์
ฝูงฮิปปาเรียน กำลังหนีสิงโตดึกดำบรรพ์
ในขณะที่ พวกม้าสามนิ้วครอบครองทุ่งหญ้ายุคดึกดำบรรพ์ ก็ได้มีม้าสามนิ้วกลุ่มหนึ่งได้มีการวิวัฒนาการของนิ้วเท้ามากขึ้นโดยกีบ นิ้วตรงกลางขยายขนาดใหญ่ขึ้นส่วนนิ้วสองนิ้วที่อยู่ด้านข้างนั้นหดหายไปจน เกือบหมด ซึ่งตัวอย่างของพวกม้าเหล่านี้ก็ได้แก่ ไพลโอฮิปปุสและไดโนฮิปปุส พวกมันเป็นม้ากลุ่มแรกๆที่มีนิ้วเท้าเดียวแบบม้ายุคปัจจุบันแต่มีขนาดตัวที่ เล็กกว่าการมีกีบเดียวช่วยให้พวกมันวิ่งได้เร็วกว่าพวกญาติสามนิ้วของมันทำ ให้เอาตัวรอดจากสัตว์นักล่าได้ดีกว่า
ไดโนฮิปปุส
สำหรับม้าที่พวกเราเห็นกันอยู่ในทุกวันนี้ได้มีวิวัฒนาการขึ้นมาเมื่อ 3.5 ล้านปีก่อนโดยปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกในทวีปอเมริกาเหนือม้าเหล่านี้คือพวกอีคูอัส (Equus) ซึ่ง วิวัฒนาการมาจากพวกไดโนฮิปปุสพวกมันมีขนาดใหญ่กว่าและมีกีบเดียวที่หุ้มเท้า แต่ละข้างไปจนถึงส้นพวกอีคูอัสได้กระจายตัวจากทวีปอเมริกาเหนือไปยังเอเชีย ยุโรปและแอฟริกา ซึ่งอีคูอัสนี้ จัดเป็นบรรพบุรุษสายตรงของม้ายุคปัจจุบันรวมทั้งยังเป็นบรรพบุรุษของพวก ม้าลายและลาด้วย
ม้าป่าเปรวาลสกี้ หรือ ม้าป่ามองโกล เป็นม้าชนิดเดียวที่มีของโลก โดยเป็นต้นแบบของม้าสายพันธุ์ต่าง ๆ ทั้งหมด
ม้าลาย
ลาป่าเอเชีย