เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
สาวอังกฤษเผยยอมให้พ่อข่มขืนตอนเด็กเพราะไม่รู้ว่าคืออะไร ชี้ขอให้นี่เป็นบทเรียนกระตุ้นให้พ่อแม่กล้าสอนลูกเรื่องเพศ-ขัดขืนเมื่อถูกแตะต้องของสงวน
เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2557 เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ รายงานว่า สาวอังกฤษวัย 21 ปี ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของตัวเองในวัยเด็กว่า เธอยอมให้พ่อบังเกิดเกล้าข่มขืนในวัยเด็กโดยไม่รู้ว่ามันคืออะไร โดยพ่อบอกเธอว่า ให้เขาพรากความบริสุทธิ์ดีกว่าให้คนอื่นพรากไป ชี้นี่คือตัวอย่างของครอบครัวที่ไม่สอนลูกเกี่ยวกับเรื่องเพศและการขัดขืนเมื่อถูกบุคคลอื่นแตะต้องของสงวน
หญิงสาวรายนี้มีนามว่า เจมม่า เชมบรี จากมณฑลลินคอล์นเชียร์ของอังกฤษ เธอได้ออกมาเปิดเผยว่า เธอเป็นอีกคนหนึ่งที่ถูกข่มขืนโดยพ่อของตัวเองตั้งแต่ยังเด็ก โดยที่ไม่รู้ว่านั่นเป็นเรื่องผิดปกติและเป็นการกระทำที่เลวทรามอย่างยิ่ง เจมม่าเล่าว่า เธอถูกพ่อล่วงละเมิดทางเพศตั้งแต่อายุ 12 ปี หลังจากที่พ่อกับแม่หย่าร้างกัน ซึ่งในครั้งแรก พ่อบอกกับเธอว่าถูกเขาพรากความบริสุทธิ์ ดีกว่าถูกคนแปลกหน้าในโรงแรมพรากเสียอีก และหลังจากนั้น เธอก็ถูกพ่อทำแบบเดิม ๆ ซ้ำอีกหลายครั้งโดยที่เธอไม่เคยรู้เลยว่ามันคืออะไร กระทั่งวันเวลาผ่านไป 1 ปีกว่า เธอก็บอกแม่ว่าเธอถูกพ่อทำอะไรบ้าง ซึ่งแม่ได้ยินดังนั้นก็ช็อกและร้องไห้ออกมา และเอาแต่โทษตัวเองว่าเป็นความผิดของแม่เองที่ไม่บอกลูกว่ามันคืออะไร ส่วนตัวเธอเองก็เพิ่งจะรู้ในวันนั้นเองว่านั่นคือการล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งเมื่อรู้ดังนั้นแล้วก็เสียใจอย่างที่สุด อยากจะฆ่าตัวตายไปเลยทีเดียว กว่าจะกลับมามีความสุขและรักตัวเองได้อย่างทุกวันนี้ก็ใช้เวลาไม่น้อย
อย่างไรก็ดี ในที่สุด พ่อของเธอก็ถูกจับและถูกจำคุกเป็นเวลา 9 ปี จากการล่วงละเมิดทางเพศลูกสาวแท้ ๆ
จากเรื่องราวของเธอนี้ ทำให้เธอตระหนักถึงความสำคัญของการสอนเพศศึกษาให้กับเด็กตั้งแต่เล็ก ๆ เพื่อที่จะให้เด็กได้รู้ว่าพวกเขากำลังถูกคุกคามทางเพศอยู่ แม้จะกระทำโดยพ่อแท้ ๆ ของตัวเองก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง อย่างตัวเธอเอง เธอยอมรับว่าเธอไม่เคยถูกสอนเรื่องเพศศึกษาเลย แม่เธอไม่เคยบอกว่านี่คืออะไร การถูกสัมผัสแบบไหนที่เรียกว่าเกินขอบเขต และนั่นทำให้เธอยอมให้มันเกิดขึ้นอยู่ซ้ำ ๆ
ทั้งนี้ ปัจจุบันเจมม่าเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนโครงการชื่อ PANTS ซึ่งเป็นการรณรงค์ให้ผู้ปกครองสอนเด็ก ๆ ให้รู้ว่าส่วนใหญ่ของร่างกายที่ไม่ควรถูกผู้อื่นสัมผัสล่วงล้ำ โดยไม่ต้องรอให้เด็กกลายเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิดทางเพศก่อนค่อยบอกพวกเขา และเธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เรื่องราวของเธอจะเป็นบทเรียนให้กับครอบครัวหลายครอบครัวที่ยังลังเลที่จะบอกลูกตัวเองอยู่