ในความเป็นจริงแล้วไส้กรอก หรือไส้ของฮอทดอกนั้น เป็นอาหารว่างที่มีกำเนิดมานานมากแล้ว ตั้งแต่สมัยอณาจักรบาบิโลเนีย (Babylonia Kingdoms) หรือเมื่อกว่า 3,500 ปีมาแล้วด้วยซ้ำ โดยอ้างว่า ต้นกำเนิดนั้นมาจากชาวโรมันที่นำเครื่องเทศมายัดใส่ในไส้ของสัตว์ (คล้าย ๆ วิธีการทำไส้กรอกอีสานบ้านเรานี่ล่ะค่ะ) แล้วชาวโรมันเขาก็เรียกสิ่งนี้ว่า "Salsus" ซึ่งก็เชื่อกันว่า คำนี้เป็นรากศัพท์ของคำว่า "Sausage" ที่แปลว่าไส้กรอกนั่นเองจ้า
ในเวลาต่อมาก็มีการพัฒนาไส้กรอกไปในหลายรูปแบบ และมีรสชาติแตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่น แต่ไส้กรอกที่ถือว่าขึ้นชื่อที่สุดนั้นเป็นไส้กรอกจากเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน ซึ่งจะมีลักษณะเป็นไส้กรอกรมควันเนื้อแน่นหอมกรุ่น รูปร่างโค้งเว้าน้อย ๆ ที่พอมองดูแล้วดันไปคล้ายกับสุนัขพันธุ์ดัชชุน จนบางคนเผลอเรียกเจ้าไส้กรอกชนิดนี้ว่า ไส้กรอกดัชชุน และความอร่อยของไส้กรอกแฟรงก์ก็กระจายไปทั่วยุโรป รวมทั้งฮอตฮิตไปถึงทวีปอเมริกาดด้วย
จนอยู่มาวันหนึ่งเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1901 ในสนามเบสบอลแห่งหนึ่งในมหานครนิวยอร์ก ประเทศอังกฤษที่กำลังมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด นายทาร์ด ดอร์แกน (Tad Dorgan) นักวาดการ์ตูนกีฬาที่ได้นั่งชมการแข่งขันอยู่ด้วย ก็ได้ยินเสียงชายคนหนึ่งเดินเร่ขายของว่างหน้าตาน่ากินอย่างขยันขันแข็ง แต่สิ่งที่ทำให้เขาต้องสะดุดไม่ใช่หน้าตาของอาหารว่างที่เขานำมาขาย แต่กลับเป็นประโยคคำพูดในขณะที่เดินเร่ขาย ซึ่งมีความหมายประมาณว่า "รีบซื้อไส้กรอกดัชชุนร้อน ๆ กันเร็ว" หลังจากได้ยินดังนั้น เขาก็รีบวาดรูปชายคนที่ขายอาหารว่างพร้อมกับถาดใส่ฮอทดอก แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่า จะสะกดคำว่าดัชชุนอย่างไร เขาเลยถือวิสาสะตั้งชื่อขนมปังประกบไส้กรอกยาว ๆ ใหม่ว่า ฮอทดอก หรือหมาร้อน ๆ นั่นเอง
หลังจากนั้นเป็นต้นมาขนมปังประกบไส้กรอกแท่งยาว ๆ ที่เรียกกันว่า ฮอทดอกนั้นก็กระจายความอร่อยไปยังประเทศต่าง ๆ มากมาย รวมทั้งประเทศไทยของเราด้วย ซึ่งคราวนี้ก็ได้ไขข้อข้องใจกันไปแล้วนะคะว่า ฮอทดอกนั้นมีที่มาจากไหน และไม่ได้ทำมาจากเนื้อน้องหมาสี่ขาแน่นอนจ้า
ซ้ำขออภัยค่ะ