สองโสมและสหรัฐ บาสฯการทูตในศึกรบ

เกาหลีเหนือยังคงยึด "พื้นที่ข่าว" ระดับโลกไว้ได้อย่างต่อเนื่องนับจากช่วงปลายปี 2556 ถึง ต้นปี 2557 ช่วงนี้

ล่าสุดเปิดบ้านรับการมาเยือนเกาหลี เหนือครั้งที่ 4 ของ เดนนิส ร็อดแมน อดีตนักบาสเกตบอล จอมซ่าชาวอเมริกัน วัย 52 ปี และเหล่า นักบาสฯ มือเก่าของเอ็นบีเอ

ในฐานะนักบาสฯ ขวัญใจของคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ

แม้ว่าชาวอเมริกันจำนวนมากมองเกาหลี เหนือด้วยสายตาไม่เป็นมิตร แต่อดีตดาวดังเอ็นบีเอกล่าวว่า "นี่แหละคือบาสฯ การทูต"

การไปเยือนครั้งนี้ นอกจากอดีตดาวดังเอ็นบีเอจะร่วมลงสนามโชว์ฟอร์มยัดห่วงกับนักกีฬาเกาหลีเหนือในกรุงเปียงยางแล้ว ร็อดแมนยังร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้ผู้นำเกาหลีเหนือต่อหน้าผู้ชมหลายหมื่นคน ตอกย้ำความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ชื่นมื่น

ทริปดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่โลกจับตาสถานการณ์ภายในเกาหลี เหนืออย่างใกล้ชิด หลังจากที่นายจองอึนสั่งประหารชีวิต พลเอกจาง ซองแต๊ก อาเขย บุคคลสำคัญที่สุดของประเทศ เมื่อปลายปีก่อน ในข้อหาทุจริตและก่อกบฏ

ซ้ำยังมีข่าวลือแนวสยองว่า ใช้วิธีประหารที่เหี้ยมโหด ด้วยการจับเปลื้องผ้า และให้สุนัขล่าเนื้อ 120 ตัวที่ถูกขังอดข้าวอดน้ำ รุมขย้ำจนเสียชีวิตทั้งเป็น 

แม้นักวิเคราะห์หลายคนค้านว่าไม่น่าเป็นจริง แต่ก็สร้างความ ตกตะลึงและทำให้สายตาประเทศต่างๆ ที่มองเกาหลีเหนือภายใต้การนำของผู้นำรุ่นที่ 3 เต็มไปด้วยความเคลือบแคลงและไม่ไว้ใจยิ่งขึ้น

แต่ร็อดแมนให้สัมภาษณ์ว่าไม่ได้วิตกถึงสถานการณ์ภายใน พร้อมย้ำว่าผู้นำหนุ่มแห่งเกาหลีเหนือเป็น "เพื่อนรัก" 

ความสนิทสนมของร็อดแมนกับคิมดังกล่าว ถูกชาวอเมริกันส่วนหนึ่งมองด้วยสายตาที่ไม่พอใจ

เอเลียต อิงเกล ส.ส.เดโมแครต รัฐนิวยอร์กกระทบกระเทียบว่า เหมือนร็อดแมนไปแสดงโชว์ให้ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ดู 

ส่วนไซมอน ค็อกเคอเรลล์ ไกด์ทัวร์เกาหลีเหนือ กล่าวว่า ร็อดแมนทำตัวเหมือน มาริลีน มอนโร ตำนานเซ็กซ์ซิมโบลที่โชว์การแสดง อ้อนประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี้ ในงานระดมทุนอันลือลั่นของพรรคเดโมแครตเมื่อปี 2505

ด้าน ศ.ชาร์ลส์ อาร์มสตรอง ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีศึกษาจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียกล่าวว่า การเข้าถึงเกาหลีเหนือด้วยการทูต แบบนี้ไม่มีใครทำกัน ส่วนร็อดแมนก็ไม่น่าใช่ตัวเลือกแรกหากจะเลือกใครเป็นทูต

ศ.ชาง ยังซก จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซลกล่าวว่า การเยือนครั้งนี้อาจเป็นสัญญาณของการผ่อนคลายการโดดเดี่ยวเกาหลีเหนือ เพราะการแลกเปลี่ยนด้านกีฬา อาจช่วยปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือได้บ้าง

ยิ่งเมื่อการเยือนเกาหลีเหนือของร็อดแมนครั้งนี้อยู่ในช่วงที่รัฐบาลสหรัฐเรียกร้องให้เกาหลีเหนือปล่อยตัวนายเคนเนธ เบ มิชชันนารีอเมริกันเชื้อสายเกาหลีที่ถูกขังในค่ายแรงงานมานานกว่า 1 ปี มีปัญหาสุขภาพ จึงเป็นที่คาดหมายเป็นพิเศษ




เกาหลีเหนือนั้นมีประวัติละเมิดสิทธิมนุษยชนมายาวนาน และเชื่อว่าขังนักโทษการเมืองไว้ถึง 120,000 คน ทั้งยังคุกคามเพื่อนบ้านและสหรัฐด้วยอาวุธนิวเคลียร์อยู่เนืองๆ

อย่างไรก็ตาม ร็อดแมนกลับให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็นด้วยวาทะสวนกระแสชวนตะลึงว่า เคนเนธ เบ ทำผิดเองก็สมควรรับโทษแล้ว

แม้วันรุ่งขึ้น อดีตดาวดังจอมเฟี้ยวกล่าวขอโทษครอบครัวนายเบ และว่าที่พูดหลุดโลกออกไปเช่นนั้นเพราะ "เมา" แต่ก็ทำให้ทริปของดาวดังดูจะไม่เป็นผลดีต่อโลกภายนอก

ในขณะเดียวกัน ความหวังที่จะฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีก็ "ดีเลย์" ออกไปอีกครั้ง หลังจากเกาหลีใต้ซ้อมรบกับสหรัฐ จนเกาหลีเหนือยกมาเป็นเงื่อนไขคว่ำโครงการพบญาติระหว่างสองฝ่ายที่พลัดพรากกันตั้งแต่สมัยสงคราม

จากเดิมประธานาธิบดีปาร์ก กึนเฮ แห่งเกาหลีใต้เสนอว่าให้จัดโครงการพบญาติในช่วงตรุษจีนวันที่ 31 ม.ค. เพื่อเป็นความหวังของชาวเกาหลี

หลังจากเลื่อนมาก่อนตั้งแต่เดือนก.ย.2556 และครั้งนี้เกาหลีเหนือสั่งยกเลิกอีก โดยอ้างว่าเพราะเกาหลีใต้ไม่เป็นมิตร

ด้านสหรัฐดูเหมือนจะตอกย้ำความร้าวฉานของสองโสม ด้วยแผนส่งทหารเพิ่ม 800 นาย และรถถัง 40 คัน ไปประจำการในเกาหลีใต้ในเดือนหน้า โดยให้เหตุผลว่าเพื่อรักษาสมดุลในเอเชียตะวันออก หลังจากมากกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ทุ่มเทอยู่แต่สมรภูมิอิรักและอัฟกานิสถาน

ทหารชุดนี้จะประจำอยู่ 9 เดือน จากนั้นจะทิ้งยุทโธปกรณ์ไว้ให้กองกำลังผลัดใหม่ที่จะหมุนเวียนไปประจำการได้ใช้ต่อ โดยปัจจุบันสหรัฐมีทหารอยู่ในเกาหลีใต้ 28,000 นาย ซึ่งอยู่มาตั้งแต่สมัยสงครามเกาหลี ปี 2493-2496 สิ้นสุด

ยอนฮัปรายงานว่า กองกำลังชุดใหม่จะไปประจำที่จังหวัดคยองกีเหนือซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเขตปลอดทหารที่แบ่งพรมแดน 2 เกาหลี

แม้ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้นำสหรัฐประกาศไว้ตั้งแต่ปลายปี 2554 ขณะถอนทหารออกจากอิรัก และเตรียมแผนถอนทหารจากอัฟกานิสถานว่าจะมุ่งให้ความสำคัญแก่แปซิฟิกมากขึ้น

แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่าความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นเพื่อคุมเชิงเกาหลีเหนือที่ยากแท้หยั่งถึง

จากการพบปะหารือของนายจอห์น แคร์รี่ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ และนายยุน บยุงเซ รมว.ต่างประเทศเกาหลีใต้ ที่กรุงวอชิงตัน สองฝ่ายยืนยันจับมือเหนียวแน่น เพื่อต่อต้านโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือที่เขย่าเสถียรภาพเอเชีย

14 ม.ค. 57 เวลา 10:34 1,310 10
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...