จนมุม-รับสิ้นไส้ "ไอ้ออฟ"ฆ่า3ศพ

จนมุมแล้วโจ๋โหดฆ่า 3 ศพพี่เลี้ยง-2ด.ช.ลูกครึ่งสยองพัทยา ให้พ่อแม่ติดต่อตำรวจกาญจนบุรีพาเข้ามอบตัว ให้การสารภาพสิ้น เผยหลังก่อเหตุทำร้ายวัยรุ่นที่บ้านเกิดจนถูกออกหมายจับเมื่อช่วงต้นปีที่ ผ่านมา ก็พาแฟนสาววัย 17 ปีหนีไปพัทยา จนได้รู้จักกับแม่เด็กลูกครึ่งช่วยพาไปทำงานเป็นโคโยตี้ ปกติจะมารับ-ส่งที่บ้านเกิดเหตุ กระทั่งวันเกิดเหตุแฟนสาวกลับมาช้าจึงเข้าไปสอบถามพี่เลี้ยงเด็ก แต่พูดจาไม่ดีจึงทำร้ายจนสลบ จังหวะที่จะข่มขืน เด็กคนพี่วัย 7 ขวบตื่นมาเห็นจึงใช้มีดฆ่าปิดปาก และจัดการกับคนน้องที่ตื่นขึ้นมาร้องโยเย แล้วขโมยทรัพย์สินมานั่งรอแฟน ที่หน้าบ้าน กระทั่งเจ้าของบ้านพามาส่งจึง รับขี่รถหนีพาแฟนไปซ่อนอยู่กับเพื่อนที่กาญจนบุรี ก่อนตัดสินใจติดต่อพ่อแม่พามอบตัว ด้านพ่อแม่โจ๋โหดเผยลูกมีปมในใจเพราะเมื่อ 3-4 ปีก่อนพาน้องชายซ้อนท้ายขี่รถจยย.ซิ่งแล้วเกิดอุบัติเหตุจนน้องตาย จากนั้นก็ทำตัวเกเรและชอบความรุนแรงมาตลอด



จากคดี สะเทือนขวัญคนร้ายบุกบ้านเลขที่ 245/194 หมู่บ้านพาราไดซ์ฮิล 2 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สังหารน.ส.วิภาวี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี หลานสาวเจ้าของบ้าน น้องไมเคิล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 2 ขวบ และ น้องโจเซฟ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 7 ขวบ ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน เมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาตำรวจออกหมายจับนายประจักษ์ หรือออฟ มาแสวง อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/366 หมู่ 3 ต.วังขนาย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ส่งกำลังตามล่าตัวนั้น



ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 13 ม.ค. พล.ต.ต. กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.กาญจนบุรี พร้อมด้วยพ.ต.อ.ธีระเดช อธิภัคกุล ผกก.สภ.ท่าม่วง พ.ต.อ.รณชัย จินดามุข ผกก.สส.ภ.ชลบุรี และพ.ต.อ.สมนึก จันทร์เกตุ ผกก.สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี ร่วมแถลงข่าวจับกุมนายประจักษ์ โดยระบุว่าได้รับการติดต่อจากพ่อแม่ผู้ต้องหา ให้ไปรับตัวนายประจักษ์ที่บ้านพักอ.ท่าม่วง จึงควบคุมตัวมาสอบสวนผู้ต้องหาสารภาพ พร้อมประสานไปยังตำรวจสภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี เจ้าของคดีมารับตัว



พล.ต.ต.กมลสันติกล่าวว่าสำหรับ นายประจักษ์อยู่ระหว่างหนีคดีพยายามฆ่าของสภ.ท่าม่วง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยร่วมกับพวกอีก 2 คนใช้เหล็กอะลูมิเนียมดัดแปลงเป็นอาวุธมีด ยาว 40 ซ.ม. ทำร้ายนายสยาม ชุ่มเพ็งพันธุ์ อายุ 18 ปี บาดเจ็บสาหัส จากนั้นพาแฟนสาวหนีไป จนมาทราบว่าก่อเหตุฆ่า 3 ศพที่จ.ชลบุรีอีก และได้รับการประสานจากสภ.หนองปรือ ตำรวจจึงกดดันไล่ล่าจนผู้ต้องหาติดต่อพ่อแม่ให้พาเข้ามอบตัว



ด้านนายประจักษ์สารภาพว่าก่อเหตุทำร้ายนายสยาม จนถูกออกหมายจับจึงพาแฟนสาววัย 17 ปี หนีไปหาญาติที่พัทยา กระทั่งมีคนแนะนำให้รู้จักกับนางวิไลวรรณ แม่ของเด็กลูกครึ่งทั้ง 2 คน ช่วยแนะนำแฟนสาวไปทำงานเป็นโคโยตี้ กระทั่งวันเกิดเหตุนัด มารับแฟนสาวที่บ้านนางวิไลวรรณ แต่เห็นเลยเวลานัดแล้ว จึงเข้าไปหาน.ส.วิภาวี ขอให้ช่วยติดต่อแฟนสาวและขอนั่งรอในบ้าน แต่น.ส.วิภาวีไม่สนใจและยังพูดจาไม่ดี จึงลงมือทำร้ายจนหมดสติ และพยายามจะข่มขืน แต่จังหวะนั้นด.ช.โจเซฟออกมาเห็นและเข้ามาต่อสู้จึงใช้มีดแทงตายทั้ง 2 คน และหันไปจัดการกับด.ช.ไมเคิล ที่ตื่นขึ้นมาและร้องจนกลัวว่าเพื่อนบ้านผิดสังเกต



โจ๋ผู้ต้องหาให้การอีกว่า หลังฆ่าทั้งพี่เลี้ยง และเด็กรวม 3 ศพก็รื้อค้นทรัพย์สินขโมยโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง 1 เครื่อง แท็บเล็ต 1 เครื่อง กล้องวิดีโอ-ภาพนิ่ง อย่างละ 1 ตัว เหรียญทองคำแท้น้ำหนัก 7 กรัม และกระเป๋าสตางค์ภายในมีเงินสดจำนวนหนึ่ง แล้วออกมานั่งรอที่หน้าบ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งนางวิไลวรรณพาแฟนสาวกลับมาจึงรีบพากันหลบหนี



นายประจักษ์ให้การรับสารภาพอีกว่า ระหว่างทางได้แวะเติมน้ำมันที่ปั๊ม ปตท. บ้านหนองแขวะ ต.บึง อ.ศรีราชา และทิ้งซิมโทรศัพท์ของผู้ตายไว้ในห้องน้ำ ก่อนนำแท็บเล็ตไปขายที่ชลบุรี ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ และอาวุธมีดได้ทิ้งลงแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วหนีไปกบดานที่บ้านเพื่อนใน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี จากนั้นจึงโทรศัพท์หาพ่อที่อยู่ อ.ท่าม่วง ซึ่งพ่อได้เกลี้ยกล่อมขอร้องให้ ยอมมอบตัวกับตำรวจเพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงให้พ่อพาเข้ามอบตัวดังกล่าว



ด้านนายไพฑูรย์ และนางต้อย พ่อแม่ของนายประจักษ์ กล่าวว่านายประจักษ์เป็นลูกชายคนโต เมื่อประมาณปี 2553 ขี่รถจักรยานยนต์ซิ่งบนท้องถนน โดยมีน้องชายอายุ 9 ขวบซ้อนท้ายไปด้วย และเกิดอุบัติเหตุจนน้องเสียชีวิต จากนั้นนายประจักษ์เปลี่ยนนิสัยเป็นคนหัวรุนแรง เคยถูกเจ้าหน้าที่จับกุมข้อหาขับรถจักรยานยนต์โดยประมาทมาแล้วหลายครั้ง อีกทั้งยังเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติดอีก พ่อแม่ว่ากล่าวตักเตือนเท่าไหร่ก็ไม่ยอมเชื่อฟัง ทำให้ทุกคนในครอบครัวเบื่อหน่ายกับนิสัยของลูกชายคนนี้เป็นอย่างมาก จนกระทั่งมาก่อเหตุทำร้ายลูกชายเพื่อนบ้านและหลบหนีไป ไม่นึกว่าจะไปก่อเหตุร้ายซ้ำขึ้นอีก ส่วนชะตาชีวิตของลูกชายจะเป็นอย่างไรนั้นขอให้ขึ้นอยู่กับกฎหมายบ้านเมือง อย่างไรก็ตามต้องกราบขอโทษไปยังครอบครัว ของผู้เสียชีวิตด้วย



ต่อมาตำรวจสภ.หนองปรือ คุมตัวนายประจักษ์กลับมาที่พัทยาสอบปากคำเพิ่มเติม จากนั้นนำตัวไปทำแผนฯยังบ้านเกิดเหตุ แต่ปรากฏว่ามีชาวบ้านกว่า 500 คน มาดักรออยู่ต่างตะโกนด่าทอและฮือจะเข้ามาทำร้าย จึงตัดสินใจยกเลิกและพากลับมาคุมตัวไว้ที่โรงพัก ในขณะที่ตำรวจสภ.ท่าม่วง ทำเรื่องอายัดตัวไว้อีกคดีด้วย 

14 ม.ค. 57 เวลา 10:26 1,492 10
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...