เมื่อวันคริสมาส ได้บัตร Platinum ของเครือเมเจอร์จากหัวหน้าค่ะ และถูกกำชับว่า ไปดูโรงแพงๆเลยนะ ตอนรับมาก็ยังงงอยู่ จนต้องโทรไปถามที่ callcenter ของเมเจอร์ ถึงได้ทราบว่า ไอ้เจ้าบัตรนี้อ่ะ ใช้กับที่ันั่งราคาเท่าไหร่ก็ได้ แต่ต้องเป็นหนังระบบปกติ 2D 3D เท่านั้น 4DX หรือ IMAX ใช้ไม่ได้ (ตอนแรก กะจะลอง 4DX อดเลยค่ะ ..) เราจ่ายเฉพาะ ค่าภาษีและค่าบริการ นั่นคือ เริ่มที่ ที่นั่งปกติ ระบบปกติ จ่าย 20 บาท ต่อ 1 ที่นั่งค่ะ บัตร 1 ใบ ใช้ได้ 20 ที่นั่ง
หลังจากกระจ่างแจ้งกับวิธีการใช้แล้ว เราก็เริ่มหาที่นั่งแพงๆตามที่หัวหน้าสั่งมาทันที และก็พบว่า ที่นั่งโรงหนังแพงที่สุดในประเทศไทย 2 อันดับแรกคือ โรงภาพยนตร์ Enigma The Shadow Screen ที่สยามพารากอน ขายที่นั่งเป็นคู่คู่ละ 3,000 บาท และ โรงภาพยนตร์ Bangkok Airway Blue Ribbon Screen ขายเป็นคู่คู่ละ 1,700 บาท แหม่!! ต้องลองค่ะ
ได้เป้าหมายแล้ว ไม่รอช้า เช็ครอบและหาคนไปดูด้วยทันทีค่ะ
เริ่มกันที่ Bangkok Airway Blue Ribbon Screen โรงหนังที่ ที่นั่งแพงที่สุดในประเทศไทย อันดับ 2 กันก่อนนะคะ อยู่ที่ Paragon Cineplex ค่ะ
ช่องซื้อตั๋วหนัง จะอยู่แยกจากช่องปกติค่ะ โดยจะอยู่ติดกับร้านสตาร์บัคค่ะ จะซื้อที่ช่องขายตั๋ว หรือเข้าไปซื้อใน Lounge ก็ได้ค่ะ ทางเข้า Lounge จะอยู่ติดกับช่องขายตั๋วเลยค่ะ
เราดูเรื่อง american hustle ค่ะ ราคาที่นั่งขายเป็นคู่ คู่ละ 1700 บาท แต่เราจ่าย 240 บาทค่ะ ซื้อตั๋วเสร็จแล้ว เข้าไปลองบริการใน lounge ให้คุ้มค่าตั๋วกันค่ะ
บรรยากาศใน Bangkok Airway Lounge
มีอาหารและเครื่องดื่มให้เลือก 3 ชุดค่ะ คือ ป๊อปคอนกับน้ำอัดลม ชุดนี้นำเข้าไปทานในโรงได้ค่ะ , ชาหรือกาแฟกับเค้ก และ ไวน์กับแอลมอนต์ ค่ะ เราเลือกไวน์ค่ะ ซึ่งมีให้เลือกทั้งไวน์แดงและไวน์ขาว รอบแรกจัดไวน์แดงก่อน เราพาน้องชายไปดูอีกรอบ ครั้งนี้ลองไวน์ขาวค่ะ กาแฟกับช๊อกโกแลทมูส ของมาม้า ชาและเค้กช๊อกโกแลตของอาตี๋
นอกจากนี้ยังมีน้ำผลไม้เป็น welcome drink และมีแซนวิชให้ด้วย นอกเหนือในเมนู ครั้งแรกเราไปตอนเย็น แซนวิชหมดแล้ว มีรู้เอาครั้งที่สองที่ไปกับน้องช่วงสายๆเนี่ยแหละค่ะ นอกจากอาหารและเครื่องดื่มแล้ว ยังมีบริการสปาให้อีก 15 นาที
สำหรับ Bangkok Airway Blue Ribbon Screen มี 3 โรงค่ะ เป็น 1 โรงใหญ่ 2 โรงเล็ก หลังจากเราลองทั้ง2แบบแล้ว เราว่า โรงเล็กดีกว่านะ เพราะที่นั่งแต่ละคู่จะมีระยะห่างจากคู่อื่นๆ และบริเวณของที่นั่งแต่ละคู่ก็กว้างกว่าโรงใหญ่ด้วยค่ะ เนื่องจากภายในโรงหนังแสงไม่พอ ลองถ่ายภาพแล้ว แต่ภาพมัวจนดูไม่รู้เรื่อง ขอใช้ภาพจากเวปนะคะ
สำหรับที่นั่ง จะเป็นประมาณเก้าอี้นวมตัวใหญ่ๆ ยกส่วนเท้า และเอนนอนได้ หรือประมาณที่นั่ง Business class บนเครื่องบินอ่ะค่ะ มีผ้าห่มให้คลุมตัวด้วย ถ้าหนังไม่สนุก อาจมีหลับได้เลยค่ะ
นี่ภาพโรงเล็กค่ะ
ส่วนโรงใหญ่จะเป็นอย่างนี้
ไปต่อกันที่โรงหนังแพงเวอร์อันดับหนึ่งของเมืองไทยกันค่ะ Enigma The Shadow Screen อยู่ที่ SiamParagon เช่นกันค่ะ แต่อยู่ชั้น 6 จะขึ้นลิฟท์กดชั้น 6 เลยก็ได้ หรือจะใช้บันไดเลื่อนที่จะขึ้นไปบริเวณส่วนของโรงหนังก็ได้ค่ะ เมื่อขึ้นมาชั้น 6 แล้ว จะมาทางแยกไปต่างหาก
วันนี้มาดู 47 Ronin ค่ะ ที่นั่งขายเป็นคู่ คู่ละ 3000 เราจ่าย 740 บาท Enigma The Shadow Screen มีlounge เช่นกัน แยกต่างหาก อยู่บริเวณชั้น 6 หน้าโรงเลยค่ะ มีทั้งโต๊ะ โซฟา และเก้าอี้นวด
มีอาหารและเครื่องดื่มให้เลือกเช่นกัน เลือกอาหารได้ 1 อย่าง เครื่องดื่ม 1 อย่าง
เครื่องดื่ม มีทั้งแบบแอลกอฮอล์ ค๊อกเทล น้ำผลไม้ น้ำอัดลม
นอกจากนี้ ยังมีน้ำอัดลมและป๊อปคอนให้ทานในโรงหนังด้วยค่ะ ถ้าหากมาช้า เค้าไปเสริฟให้ทานในโรงหนังได้เลยนะคะ นอกจากอาหารและเครื่องดื่มแล้ว ยังสามารถไปใช้บริการนวดสปาได้ด้วยค่ะ โดยไปรับคูปองจาก lounge ของ Blue Ribbon ค่ะ
Enigma The Shadow Screen มีเพียงโรงเดียวค่ะ ถ่ายภาพบรรยากาศในโรงมาไม่ได้เช่นเคย ขอให้รูปจากเวปนะคะ
ส่วนของที่นั่ง จะเป็นคล้ายๆกับโซฟาตัวใหญ่ๆ เหมือนเดย์เบดค่ะ ไม่ได้แยกที่นั่ง ให้เราเอนตัวนอนดู มีทั้งโต๊ะตั้งแก้วน้ำให้ แต่จากนั่งพิง ต้องถัดตัวลงไปหยิบ (เกือนเอื้อมจริงๆ) มีหมอนอิงและผ้าห่มให้ค่ะ แต่เค้าให้ผืนเดียว ไปสองคน อยากแยกผ้าห่มต้องขอเค้าเพิ่มค่ะ น่าจะเหมาะกับคู่รัก เอนตัวพิงอกแฟนดูหนัง
เห็นราคาแพงๆอย่างนี้ ไม่ว่าจะ Enigma หรือ Blue Ribbon คนดูเยอะนะคะ รอบที่เราดู Enigma เกือบเต็มค่ะ ส่วนมากคนไทยด้วย ส่วน Blue Ribbon จะเป็นชาวต่างชาติซะมากกว่า
หมดแล้วค่ะ ผิดพลาดขัดข้องขัดใจประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้นะคะ
ขอบคุณที่ติดตามชมค่ะ
Cr. คุณกลีบดอกลำดวน จาก http://pantip.com/topic/31478267