Polar Vortex คืออะไร ?
ช่วงตั้งแต่ปีใหม่ 2557 ที่ผ่านมานี้ ได้ฟังข่าวว่า ประเทศในแถบซีกโลกเหนือ เช่น ยุโรป และอเมริกาเหนือ กำลังเผชิญกับสภาวะอากาศหนาวเย็นสุดขั้ว พายุหิมะพัดถล่ม ซึ่งบางแห่งเช่นในประเทศแคนาดา อุณหภูมิลดต่ำลงจนถึง -50C เลยทีเดียว !!! เลยเกิดคำถามขึ้นในใจว่า “เฮ้ย มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ ทำไมอากาศมันหนาวเย็นได้ขนาดนั้น” เลยลองปรึกษาอากู๋ (Google) ดูก็พบคำๆนึง ซึ่งปรากฏอยู่บนสื่อต่างๆมากมาย คำๆนั้นคือ “Polar Vortex” ….. แล้วมันหมายถึงอะไรล่ะ ?
Polar Vortex คือPolar Vortex หรือ กระแสลมวนในเขตขั้วโลก ในลักษณะทวนเข็มนาฬิกา (เนื่องจาก เกิดในแถบซีกโลกเหนือเส้นศูนย์สูตร จึงทำให้กระแสลมพัดในลักษณะทวนเข็มนาฬิกา) ด้วยความเร็วสูง จากกระแสลม Jet Stream ซึ่งกระแสลมนี้เอง จะหอบเอาความหนาวเย็นจากขั้วโลกตามมาด้วย จึงเป็นผลทำให้เกิดสภาวะอากาศหนาวเย็นปกคลุมไปทั่วพื้นที่รอบบริเวณมหาสมุทรอาร์กติก (Arctic Ocean) โดยประเทศทางตอนเหนือจะได้รับผลกระทบมากเป็นพิเศษ และ Polar Vortex ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นพายุแค่เพียงลูกเดียวเท่านั้น แต่อาจจะมีหลายลูกเกิดขึ้นพร้อมกันได้ และมันอาจจะหมุนวนผิดทิศทาง จนทำให้เกิดการเคลื่อนตัวลงทางใต้ได้ไกลลึกลงมาทางตอนใต้ (Arctic Oscillation) ดังที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้
Polar vortex and weather impacts due to stratospheric warming
Polar Vortex เกิดจากอะไร ?
ก่อนจะตอบคำถามนี้ ต้องเข้าใจกันก่อนว่า โลกของเรานั้น ประกอบไปด้วยน้ำกว่า 70% ซึ่งน้ำในมหาสมุทรนี้เอง มีส่วนสำคัญให้เกิดสภาพภูมิอากาศต่างๆ ขึ้น โดยน้ำในมหาสมุทรทั้งโลกนั้น จะประกอบไปด้วยกระแสน้ำหลักๆ อยู่ 2 ชนิด ก็คือ กระแสน้ำอุ่น และกระแสน้ำเย็น โดยจะพัดสวนกันไปมาทั่วโลกดังภาพด้านล่าง (เส้นสีแดง คือ กระแสน้ำอุ่น , เส้นสีน้ำเงิน คือ กระแสน้ำเย็น)
The ocean currents.
ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์แล้ว เมื่อน้ำมีอุณหภูมิสูงขึ้น น้ำจะระเหย และกลายเป็นไอน้ำลอยขึ้นไป พาอากาศยกตัวขึ้นไป และอากาศที่เย็นกว่าก็จะกดตัวลงมา ทำให้เกิดลมนั่นเอง
ทีนี้ พออากาศเปลี่ยนแปลงมากๆ เข้า ก็ทำให้เกิดร่องอากาศขึ้น และลมก็จะหมุนวนอยู่ในร่องนี้ และมันก็จะก่อให้เกิดสภาพพายุขึ้น
จากนั้น พายุที่ว่านี้ มันเกิดอยู่ในแถบมหาสมุทรอาร์กติกซึ่งมีอุณหภูมิต่ำ และหนาวเย็น จึงทำให้พายุที่เกิดขึ้น กลายเป็นพายุหิมะ
แล้วทำไมครั้งนี้ Polar Vortex ถึงเคลื่อนตัวลงมาทางใต้มากกว่าปกติล่ะ ?
จริงอยู่ที่ว่า ทางตอนบนของประเทศสหรัฐอเมริกา ฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกนั้น มีกระแสน้ำอุ่น Gulf Stream ไหลย้อนขึ้นไปหล่อเลี้ยงอยู่ และกระแสน้ำอุ่นนี้เอง ก็เหมือนตัวยันอย่างหนึ่ง เพราะลมร้อนก็จะยันลมหนาวไว้ไม่ให้ลงมาทางใต้ได้เยอะนั่นเอง
แต่จากสภาพอากาศของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปนั้น ทำให้น้ำแข็งที่ปกคลุมบริเวณขั้วโลกเหนือนั้น ละลายมากขึ้นเรื่อยๆ (ดังที่เห็นคลิป ทัวร์ดูธารน้ำแข็งถล่มบ่อยๆ) พอน้ำแข็งละลายลงมหาสมุทร ก็ไปรบกวนทำให้ค่าความเค็มของมหาสมุทรนั้นลดลงอย่างมีนัยยะ ซึ่งเจ้าความเค็มในมหาสมุทรนี้เอง เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดสภาพการไหลเวียนของกระแสน้ำในมหาสมุทร
(เพิ่มเติม) สาเหตุที่ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลายมากขึ้น ส่วนหนึ่งก็เนื่องมาจาก รูโหว่ของชั้นโอโซน ที่มีขนาดใหญ่ ทำให้แสงอาทิตย์สาดส่องลงมายังพื้นโลกได้มากขึ้น โดยมีปัจจัยส่วนหนึ่งมาจาก สาร CFC
พอถึงระดับหนึ่ง กระแสน้ำอุ่น ก็ไหลเวียนไปไม่ได้อย่างปกติ เลยทำให้กระแสน้ำเย็นสามารถเคลื่อนตัวลงมาทางใต้ได้มากกว่าปกติ อุณหภูมิของน้ำทะเลก็จะเย็นตามไปด้วย ก็เลยนำพาเอาอากาศเย็นลงตามมาด้วย ฉะนั้นแล..
ลองดูภาพกราฟิกด้านล่างนี้ จากเว็บไซต์ weather.com อธิบายการเกิด Polar Vortex ไว้คร่าวๆ น่าจะทำให้เห็นภาพการเกิดปรากฎการณ์ Polar Vortex ได้ดียิ่งขึ้น
Typical Position of Polar Vortex
จากภาพด้านบนจะเห็นว่า โดยปกติแล้ว Polar Vortex นั้นจะถูกจำกัดบริเวณให้หมุนวนอยู่ในเขตขั้วโลกเท่านั้น โดยการกำกับของกระแสลมกรดเขตขั้วโลก (Polar Jet Stream)
Polar Vortex is blocked by High-Pressure near Greenland Island
แต่ต่อมา มีหย่อมความกดอากาศสูงปกคลุมบริเวณเหนือเกาะกรีนแลนด์ดังภาพด้านบน ทำให้กระแสลมกรดเขตขั้วโลก (Polar Jet Stream) เกิดบิดเบี้ยวขึ้น ดังนั้นกลุ่มของลมวนเขตขั้วโลก (Polar Vortex) เลยโดนดึงลงมาด้านล่าง ทำให้นำพาเอามวลอากาศหนาวเย็นจัดจากเขตขั้วโลกลงมาด้วย ดังที่เกิดขึ้นในขณะนี้
ภาพถ่ายทางดาวเทียมจาก NASA แสดงให้เห็นพื้นที่ประสบภัยจาก Polar Vortex (โพลาร์ วอร์เท็กซ์), ถ่ายเมื่อ 3 มกราคม 2557
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://ozonewatch.gsfc.nasa.gov/facts/vortex_NH.html
ปล. ข้อมูลในบทความนี้ อาจไม่ถูกต้องทั้งหมด ผมก็จะพยายามทำความเข้าใจว่าอะไรคือ Polar Vortex แล้วค่อยๆ อัพเดทให้มันถูกต้องที่สุดไปเรื่อยๆ ครับ
เรียบเรียงโดย http://www.chatchawan.net/2014/01/what-is-polar-vortex/