คลื่นยักษ์สึนามิครั้งใหญ่กว่า 100 ลูกได้เข้าโจมตีเมื่อ 100 ปีก่อน คร่าชีวิตผู้คนไปหลายแสนคนและทรัพย์สินเสียหายหลายพันล้านเหรียญ แต่พวกมันยังไม่ใช่คลื่นยักษ์สึนามิที่ใหญ่ที่สุดที่เข้าโจมตีโลก นักวิทยาศาสตร์พบหลักฐานน่าตกใจว่าแม้แต่คลื่นยักษ์ขนาดใหญ่กว่าก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าสุดยอดสึนามิมีรอเราอยู่ในอนาคต เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับ พลัง ขนาดและแนวโน้มของมัน เราจึงทำการสำรวจคลื่นสึนามิ 5 ครั้งที่มีพลังการทำลายล้างสูงในรอบ 60 ปีที่ผ่านมา แต่ละลูกมีลักษณะเฉพาะตัว มีเรื่องราวของมันเอง
ฮาวาย มันคือสวรรค์เขตร้อนที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายล้านคน แต่เกาะแปซิฟิกแห่งนี้กุมความลับดำมืดเอาไว้ มันถูกคลื่นยักษ์สึนามิเล่นงานมากกว่าที่ใดๆ ในโลก วงแหวนไฟเป็นเขตรอยร้าวที่ปะทุง่าย ล้อมรอบด้วยมหาสมุทรแปซิฟิก ร้อยละ 90 ของแผ่นดินไหวในโลกเกิดขึ้นที่นี่ แผ่นดินไหวเป็นสาเหตุธรรมดาที่สุดของคลื่นยักษ์สึนามิ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมฮาวายจึงถูกเล่นงานจากสึนามิอยู่บ่อยครั้งและจากทุกทิศทาง สึนามิโจมตีฮาวายในปี 1837 1868 1877 1923 1946 1952 1957 1960 และ 1964 นี่ทำให้มันกลายเป็นเมืองหลวงแห่งคลื่นยักษ์สึนามิไปอย่างไม่เป็นทางการ 02:28 น.ของวันที่ 1 เมษายน 1946 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.6 ริกเตอร์ บนหมู่เกาะอาลูเชียน (Aleutian Islands) นอกชายฝั่งอลาสกา พื้นมหาสมุทรเป็นบริเวณกว้างถูกยกขึ้น โดยมีน้ำจำนวนมหาศาลเข้าไปแทนที่ การสั่นสะเทือนของพลังงานครั้งมโหฬารผลักดันให้เกิดกำแพงน้ำสึนามิตรงไปยังฮาวายด้วยความเร็วเกือบ 800 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Big Island, Hawaii
April 1, 1946
Source: Earthquake
Type: Ocean Wide Tsunami
Run Up: 9 meters
Key Factor: Ocean Floor
ไกลออกไป 3,800 กิโลเมตรที่หมู่บ้านริมทะเลขนาดเล็กชื่อเลาพาฮอยฮอย (Laupahoehoe) เด็กและครูรวมตัวกันเพื่อเตรียมเข้าเรียน มาซู แม็กเชน เป็นหนึ่งในครูที่นั่น เธอเล่าว่า "เราอยู่ในกระท่อมของเรา มีครอบครัวหนึ่งมาเคาะที่ประตูแล้วบอกว่า มาดูน้ำลงกันเร็ว เราก็เลยออกไปออกไปดูกัน น้ำมันลดลงแล้วมีคลื่นขึ้นมาไกลหน่อยแล้วมันก็ลดลงไปอีก เราก็คิดกันว่าน้ำลดลงสองครั้งแล้ว มันน่าสนใจนะ มันแปลกดี มันแปลกมากๆ" สิ่งที่มาซูไม่รู้ก็คือ สึนามิไม่ใช่คลื่นลูกเดียว พวกมันเคลื่อนที่ไปข้างหน้าและชื่อเรียกที่รู้จักกันดีว่ารถไฟสึนามิ คลื่นแต่ลูกจะมีขนาดแตกต่างกันมาก คลื่นลูกแรกแทบจะไม่ใหญ่เลย ดังนั้นมันจึงดูไม่สำคัญ แต่จริงๆแล้วมันคือลางบอกเหตุของสิ่งที่ใหญ่กว่ามากๆ ขณะที่น้ำลดลงไปถึง 152 เมตร มาซูและเพื่อนร่วมห้องก็ได้ถ่ายภาพไว้ มาซูและเพื่อนร่วมห้องประทับใจมาก ขณะที่ลูกคลื่นที่สามกำลังเข้ามา มาซูคิดว่าต่อไปนี่คงเป็นคลื่นลูกใหญ่นะ มันเริ่มเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เธอเริ่มรู้สึกว่ามันเริ่มน่ากลัว เมื่อคลื่นยักษ์สึนามิเข้ามาใกล้ชายฝั่ง มันเหมือนกับซากรถไฟขนาดยักษ์ พลังของคลื่นถูกบีบอัดบังคับให้มันต้องตั้งและยกตัวสูงขึ้นจากทะเล มาซูและคนอื่นเห็นว่ามันใหญ่ขึ้นมากและเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เธอจึงทิ้งกล้องถ่ายรูปและวิ่งเข้าไปด้านใน เธอจำได้ว่าน้ำซัดเข้ามา กระจกก็แตก เพดานก็ถล่มลงมา มาซูเกาะซากปรักหักพังอยู่นานถึง 9 ชั่วโมงก่อนได้รับความช่วยเหลือ เธอเป็นคนเดียวที่รอดชีวิต ที่นั่นเด็ก 16 คนและครู 5 คนสูญหาย และที่ฮาวายคลื่นยักษ์สึนามิที่เกิดในครั้งนี้ยังไม่จบ
ลงใต้จากเลาพาฮอยฮอยออกไป 37 กิโลเมตร เมืองการค้าที่อ่าวฮิโล (Hilo Bay) ซึ่งกำลังหลับใหล ก็ไม่ได้ตระหนักถึงภัยร้าย ที่นี่คลืนยักษ์สึนามิทำลายบ้านและธุรกิจการค้าไปกว่า 500 แห่ง มีผู้เสียชีวิต 96 คนและบาดเจ็บหลายร้อยคน คำอธิบายของคลื่นสึนามิในปี 1946 ก็คือมันข้ามเครื่องป้องกันคลื่นอย่างง่ายดายจากนั้นก็โถมเข้าใส่ทั่วทั้งเมือง มีคนบอกว่าเห็นหินก้อนใหญ่ที่มันลอยไปทั่วพร้อมกับน้ำที่ซัดเข้ามา วอลเตอร์ ดัดลี่ เป็นนักสมุทรศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาวาย ที่อ่าวฮิโล เขาศึกษาคลื่นยักษ์สึนามิมากว่า 20 ปี การค้นพบที่สำคัญของเขาก็คือ พลังทำลายที่ไม่ได้มาจากคลื่นเท่านั้นแต่ยังมาจากสิ่งที่อยู่ด้านล่างอีก หนึ่งในสิ่งที่พวกมันเป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจก็คือพวกมันต่างกัน มีหลายรูปแบบ และขณะที่พวกมันเกิดขึ้นและเดินทางไปทั่วมหาสมุทร พวกมันส่งผลกระทบต่อก้นมหาสมุทรตามทางที่มันผ่านไป คลื่นจะถูกงออย่างต่อเนื่องหรือถูกทำให้หักเหจากนั้นก็ขึ้นฝั่ง ไม่มีแนวชายฝั่งใดที่เหมือนกัน แต่ละแห่งล้วนมีภูมิประเทศใต้ทะเลที่พิเศษไม่เหมือนใคร ซึ่งทำให้คลื่นแตกต่างกันไป ในฮิโล อ่าวมีรูปร่างกลมตามธรรมชาติ คลื่นสองลูกแรกที่ปะทะอ่าวฮิโลทำให้น้ำซัดกลับไปกลับมา เมื่อคลื่นลูกที่สามมาถึงมันจึงรวมกับน้ำที่ซัดกลับไปกลับมาเป็นคลื่นทำลายล้างที่มีขนาดใหญ่ คลื่นลูกที่สามยกตัวสูงขึ้นถึงเก้าเมตร มันทำลายพื้นที่ชายฝั่งของอ่าวฮิโล แต่ไม่ถึง 15 ปี หลังเกิดหายนะในปี 1946 ฮาวายก็ถูกคลื่นสึนามิที่มีอันตรายถึงชีวิตซัดกระหน่ำอีกครั้ง
วันที่ 22 พฤษภาคม 1960 แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ได้ทำให้เปลือกโลกมีรอยแยกที่นอกชายฝั่งชิลี ก้นมหาสมุทรลึก 1,000 กิโลเมตร ถูกทำให้เกิดเป็นคลื่นยักษ์สึนามิสูง 20 เมตร มันมีอานุภาพรุนแรงและทรงพลังจนสามารถข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกมาเล่นงานฮาวายได้เลยทีเดียว
Hilo Bay, Hawaii
May 22, 1960
Type: Ocean Wide Tsunami
Run Up: 10.5 meters
Key Factor: Wrap Around
ในครั้งนี้เทคโนโลยีถูกติดตั้ง ตั้งแต่การเกิดแผ่นดินไหวเมื่อปี 1946 ได้เตือนประชาชนในอ่าวฮิโลเมื่อ 5 ชั่วโมงก่อน แต่สัญญาณเตือนดูจะไร้ความหมาย ช่วง 12 ปีก่อนนั้น 3ใน4 ของสัญญาณเตือนภัยจะเป็นแค่คลื่นสึนามิขนาดเล็ก ดังนั้นแทนที่คนจะกลัวแล้วอยู่ให้จากหายนะ แต่มันกลับกระตุ้นความสนใจของผู้คน แม้ทางการจะประกาศให้อพยพผู้คน แต่มีผู้คนมากมายอยากรู้อยากเห็น ลงไปดูกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง หลายคนคาดว่าคลื่นนี้มาจากตะวันออกเฉียงใต้และอ่าวฮิโลก็อยู่ทางเหนือจนคิดว่าจะไม่โดนผลกระทบ แต่พวกเขาคิดผิด เพียงหลังเที่ยงคืนคลื่นลูกแรกก็เข้าโจมตี ผู้คนร้องตะโกนและกรีดร้องเต็มไปหมด พวกเขาติดอยู่ในคลื่น เมื่อถึงรุ่งเช้าของฝันร้ายมีผู้เสียชีวิต 61 คน บ้านเรือนกว่า 700 หลังคาเรือนพังราบ หรือไม่ก็เสียหายอย่างหนัก คลื่นยักษ์สึนามิในปี 1960 ทำให้ชาวบ้านและผู้เชี่ยวชาญต้องประหลาดใจ หลังศึกษามาอย่างดีวิทยาศาสตร์พบทิศทางอันน่าทึ่งของคลื่นยักษ์สึนามิ ขณะที่คลื่นเข้ามายังน้ำตื้นนอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะนั้นใจกลางคลื่นจะช้าขณะที่ด้านนอกคลื่นยังคงเคลื่อนที่ต่อไป ทำให้คลื่นห่อตัวรอบเกาะ จากนั้นก็เช่นเดียวกับในปี 1946 รูปร่างตามธรรมชาติของอ่าวได้เพิ่มพลังทำลายล้างของคลื่นยักษ์สึนามิ ในครั้งนี้คลื่นลูกใหญ่ที่สุดวัดความสูงได้ถึง 10.5 เมตร สูงกว่าในปี 1946 1.5 เมตร
และฮาวายไม่ได้เป็นเพียงที่เดียวที่ถูกสึนามิเล่นงาน มันแผดเสียงดังข้ามแปซิฟิกไปหลายพันกิโลเมตรเข้าเล่นงานชายฝั่งทุกแห่งรวมถึงญี่ปุ่น ซึ่งมีผู้เสียชีวิตถึง 122 คนเลยทีเดียว คลื่นยักษ์สึนามิมีพลังที่เหลือเชื่อขณะที่มันเดินทางข้ามมหาสมุทรมันใช้พลังไม่มากนัก แต่พอมาถึงฝั่งพลังงานทั้งหมดจะถูกปล่อยออกมา ปี 1946 และ ปี 1960 คลื่นยักษ์สึนามิทำให้นักวิทยาศาสตร์ได้เข้าใจลึกซึ้งถึงพฤติกรรมซับซ้อนและหลักการข้ามมหาสมุทรของคลื่นยักษ์เหล่านี้ แต่เมื่อสึนามิเข้าเล่นงานญี่ปุ่น มันโจมตีอย่างหนักหน่วงและใหญ่กว่าสึนามิในฮาวาย ญี่ปุ่นถูกสึนามิเล่นงานมากที่สุดในแปซิฟิก จนบัญญัติศัพท์ขึ้นมาว่า สึนามิ ซึ่งหมายถึงคลื่นในอ่าว
Okushiri, Japan
July 12, 1993
Source: Earthquake
Type: Local Tsunami
Run Up: 31 meters
Key Factor: Proximity
22:17 น. วันที่ 12 กรกฏาคม 1993 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.6 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งฮอกไกโด มันได้ทำให้ก้นมหาสมุทรแยกตัวออก ศูนย์กลางการสั่นสะเทือนห่างจากเกาะขนาดเล็กชื่อโอกุชิริเพียง 80 กิโลเมตร มันทำให้เกิดคลื่นสึนามิที่ใหญ่ที่สุดและรุนแรงที่สุดเท่าที่ญี่ปุ่นเคนประสบมา(ไม่นับที่เกิดในปี 2011) ชาวประมงชื่อชิโร่ อาดาชิ จากหมู่บ้านอาโอเนะ รู้จักคลื่นยักษ์สึนามิดี เขารอดชีวิตมาเมื่อสึนามิโจมตีโอกุชิริเมื่อ 20 ปีก่อน เมื่อชิโร่รู้ว่าเกิดแผ่นดินไหว เขารู้ว่าอาจเกิดสึนามิตามมาได้ เขารีบอพยพภรรยาและลูกๆออกจากบ้านริมทะเลเพื่อขึ้นไปยังที่สูง ขณะที่เขารีบไปปิดแก๊ส เขาทำอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่เร็วพอ เพียง 4 นาทีหลังแผ่นดินไหวคลื่นลูกแรกก็เข้าเล่นงาน ในช่วงเวลาไม่กี่นาทีอันน่ากลัวนั้น สึนามิได้ทำลายท่าเรือเละกระท่อมหาปลาไป 80 หลัง แต่อันตรายยังไม่สิ้นสุด ท่ามกลางความมืดคลื่นลูกที่สองก็เข้าโจมตี ชิโร่และผู้รอดชีวิตรายอื่นรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุเพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ พอรุ่งสางพลังอันน่ากลัวของสึนามิก็เผยโฉมให้เห็น อาโอเนะเกือบทั้งเมืองราบเป็นหน้ากลองบ้านเรือนทั่วเกาะ 437 หลังถูกทำลาย และพังเสียหายอย่างรุนแรงกว่า 800 หลัง มีผู้เสียชีวิต 198 คน
Indian Ocean
December 26,2004
Source: Earthquake
Type Ocean: Wide Tsunami
Run Up: 35 meters
Key Factor: Reflection
07:58 น. วันที่ 26 ธันวาคม ปี 2004 ลึกลงไปในมหาสมุทร นอกชายฝั่งสุมาตราอินโดนีเซีย เปลือกโลกเกิดรอยร้าวขึ้นเป็นทางยาว 1,200 กิโลเมตร จากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดอันดับสองของโลกเท่าที่เคยมีบันทึกมา แผ่นดินไหวขนาด 9.3 ทำให้บ้านเรือนถูกทำลายสิ้น แต่มันเป็นแค่ลางบอกเหตุของหายนะ เกิดคลื่นยักษ์สึนามิกระจายตัวไปทั่วมหาสมุทรอินเดียโจมตีไปกว่า 12 ประเทศ 16 นาทีต่อมาหลังเกิดแผ่นดินไหว ห่างศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหว 250 กิโลเมตร ทางเหนือของเกาะสุมาตราถูกคลื่นสูง 35 เมตรเข้าโจมตี เมืองบันดาร์อาเจะห์ มีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก ผู้คนกว่า 160,000 เสียชีวิต ร้อยละ 70 ของอาคารทั้งหมดในบันดาร์อาเจะห์พังราบเป็นหน้ากลอง มันเป็นระดับการทำลายล้างที่เกินกว่า 100 ไมล์ตลอดแนวชายฝั่ง หนึ่งชั่วโมงครึ่งหลังจากบันดาร์อาเจะห์พังราบ คลื่นสึนามิก็เข้าโจมตีประเทศไทย กำแพงน้ำได้ถาโถมเข้าใส่ กระท่อม โรงแรม และหมู่บ้านริมทะเล ผู้คนกว่า 8,000 คนเสียชีวิต ไปทางตะวันตก 2,000 กิโลเมตรที่ศรีลังกา คลื่นน้ำกว่า 1,000 ล้านตันได้ซัดเข้ามาในประเทศ คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 35,000 คน และไร้บ้านอีกกว่าครึ่งล้านคน รวมทั้งสิ้นมีผู้คนเสียชีวิตจากสึนามิที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ถึง 230,000 คน