คุณเพลิงมรกตคอลัมนิสต์ไทยรัฐนำเรื่อง"ขับรถช่องขวา"มาแฉว่า เป็นช่องทางทุจริตของตำรวจนอกรีต
ด้วยพรบ.จราจร ทางบก 2522 แก้ไขตามพรบ. จราจรทางบก (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2535 มาตราที่ 1-32 มาตรา 6 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (5) ของ มาตรา 34 แห่งพระราชบัญญัติ จราจรทางบก พ.ศ. 2522 "(5) เมื่อผู้ขับขี่รถด้วยความเร็วสูงกว่ารถในช่องเดินรถด้านซ้าย"
ดังนั้นข้อหานี้จึงหมดสภาพ หมดอายุไปตั้งแต่ พ.ศ. 2535 แล้วครับ
แต่จากEntry"ใครผิดกันแน่"ของBG ทองฟ้าทะเล เมื่อมกราคม 2552
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=385154
เมื่อสองวันที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสขับรถยนต์ลงไปทางใต้ตามถนนเพชรเกษมเพื่อจะเดินทางไปอำเภอหาดใหญ่ เมื่อได้ผ่านขับไปถึง ระหว่าง จังหวัดพัทลุง กับ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ก็มีป้ายจุดแวะพักของตำรวจทางหลวง ก็มีความรู้สึกอุ่นใจ ว่าเส้นทางนี้ปลอดภัย มีตำรวจอยู่ระหว่างทาง แต่ในเส้นทางไม่มีสัญญาณบอกว่า “ขับช้าชิดซ้าย” แต่อย่างใด
ด้วยความเคยชินที่เคยขับรถเส้นทาง ถนนเพชรเกษม (A4) ช่วงจังหวัดประจวบ เพชรบุรี บ่อยครั้ง จึงได้ขับรถยนต์ไปทางขวาตลอด เนื่องจากผิวทางจราจรทางด้านซ้าย เสียมาก ๆ ผ่านไปก็เห็นกล้องของตำรวจทางหลวง จนกระทั่งถึงป้อมตำรวจทางหลวง
เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงได้เรียกตรวจ และแจ้งให้ทราบว่าได้กระทำผิดข้อหา “ขับรถไม่ถูกช่องทาง” ในฐานะผู้ใช้รถเป็นประจำก็ยอมรับว่าได้กระทำความผิดจริง ที่ไม่ได้ขับรถในช่องทางซ้าย เพื่อนที่นั่งมาด้วย ก็บอกว่า “เราไม่น่าจะผิดนะ” ผมก็ได้แย้งว่า “เราผิดเพราะไม่ขับช่องทางซ้าย” เพื่อนก็บอกว่า “ที่เราขับทางช่องขวาเพราะช่องซ้ายผิวทางขรุขระ(เสียมาก ๆ)” “เหตุนี้เป็นความผิดของกรมทางหลวงที่ไม่ดูแลผิวทางจราจรเลยก่อให้เกิดความผิด”
ผมก็ได้แต่คิดในใจและยอมรับในเหตุผลของเพื่อน แล้วเพื่อนก็ยังได้พูดต่อว่า “หรือกรมทางหลวงต้องการที่จะให้ตำรวจทางหลวงมาจับผู้กระทำความผิดเพื่อเงินรางวัลค่าปรับ” แล้วเพื่อนก็ยังบอกว่า “เราน่าจะปรึกษากับสภาทนายความว่า ลักษณะของผิวทางเช่นนี้เราจะร้องต่อ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคได้หรือไม่ ว่ากรมทางหลวงเป็นผู้กระทำผิด” “หรือจะร้องว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐผิดรัฐธรรมนูญว่าไม่ดำเนินการจัดการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน”
ผมก็บอกเพื่อนว่า “ในวันนี้เราคงต้องชำระค่าปรับก่อน และหากมีการร้องและมีการพิจารณาว่า กรมทางหลวงผิด เราค่อยเรียกเงินค่าปรับที่ชำระไปจากกรมทางหลวงก็แล้วกัน”
จึงอาจสรุปได้ว่าใครเป็นคนผิด แต่ผมผิดแน่เพราะรับสารภาพและชำระค่าปรับเป็นพินัยหลวง
Down Load พ.ร.บ. จราจรฉบับดังกล่าวที่ http://www.thailaw.com/thailaw3_24.pdf
มาตรา 33 ในการขับรถ ผู้ขับขี่ต้องขับรถในทางเดินรถด้านซ้ายและต้องไม่ล้ำกึ่งกลางของทางเดินรถ เว้นแต่ในกรณีต่อไปนี้ ให้เดินทางขวาหรือล้ำกึ่งกลางของทางเดินรถได้
(1) ด้านซ้ายของทางเดินรถมีสิ่งกีดขวางหรือถูกปิดการจราจร
(2) ทางเดินรถนั้นเจ้าพนักงานจราจรกำหนดให้เป็นทางเดินรถทางเดียว
(3) ทางเดินรถนั้นกว้างไม่ถึงหกเมตร
มาตรา 34 ในการใช้ทางเดินรถที่ได้จัดแบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันไว้ตั้งแต่สองช่องขึ้นไป หรือที่ได้จัดช่องเดินรถประจำทางไว้ในช่องเดินรถซ้ายสุด ผู้ขับขี่ต้องขับรถในช่องซ้ายสุดหรือใกล้กับช่องเดินรถประจำทางเว้นแต่ในกรณีต่อไปนี้ ให้เดินทางขวาของทางเดินรถได้
(1) ในช่องเดินรถนั้นมีสิ่งกีดขวางหรือถูกปิดการจราจร
(2) ทางเดินรถนั้น เจ้าพนักงานจราจรกำหนดให้เป็นทางเดินรถทางเดียว
(3) จะต้องเข้าช่องทางให้ถูกต้องเมื่อเข้าบริเวณใกล้ทางร่วมทางแยก
(4) เมื่อจะแซงขึ้นหน้ารถคันอื่น
(5)(1) เมื่อผู้ขับขี่ขับรถด้วยความเร็วสูงกว่ารถในช่องเดินรถด้านซ้าย
มาตรา 35(2) รถที่มีความเร็วช้าหรือรถที่มีความเร็วต่ำกว่าความเร็วของรถคันอื่นที่ขับในทิศทางเดียวกัน ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ใกล้ขอบทางเดินรถด้านซ้ายเท่าที่จะกระทำได้
ผู้ขับขี่รถบรรทุก รถบรรทุกคนโดยสาร รถจักรยานยนตร์ในทางเดินรถซึ่งได้แบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันไว้ ตั้งแต่สองช่องขึ้นไปหรือได้จัดช่องเดินรถประจำทางด้านซ้ายไว้โดยเฉพาะ ต้องขับรถในช่องเดินรถด้านซ้ายสุดหรือใกล้เคียงกับช่องเดินรถประจำทางแล้วแต่กรณี
ความในวรรคสองมิให้ใช้บังคับแก่รถยนตร์บรรทุกส่วนบุคคลที่มีน้ำหนักไม่เกินหนึ่งพันหกร้อยกิโลกรัม และรถยนตร์นั่งส่วนบุคคลเกินเจ็ดคน ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนตร์
แนะนำให้print เก็บใส่รถ หรือไปหา พรบ.ฉบับนี้จากเวปแล้ว print ใส่รถไว้ ถูกจับเมื่อไหร่ ยื่นให้ดูเลย แต่ถ้าไม่ยอม ... ทางที่ดีกว่านั้นคือบอกไปเลยว่า ถ้าอยากดังใน youtube เดี๋ยวจัดให้
รับรองว่า ไม่รอด ม. 157 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ที่มา : http://www.oknation.net/blog/print.php?id=853574
ปล. ตำรวจที่เคยทำผลงานหรือหากินด้วยข้อหานี้กรุณาเลิกได้แล้วค่ะ