![](http://board.postjung.com/data/734/734581-topic-ix-0.jpg)
10 สุดยอด ตำนานเมืองและเรื่องลึกลับของอเมริกา
Urban Legends มีความหมายว่า ตำนานเมืองเรื่องเล่าที่มีอยู่ในเมืองนั้นๆ โดยเรื่องเล่านั้นอาจเป็นนิทานหรือตำนานร่วมสมัยที่ทันสมัย เป็นความเชื่อที่ไม่มีหลักฐาน หากแต่หลายคนเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงและถูกนำมาเล่าปากต่อปากใส่สีตีไข่ให้มันสมจริง โดยตำนานส่วนใหญ่จะมีองค์ประกอบของความลึกลับ สยองขวัญ น่ากลัว และตลก ส่วนมากมักเป็นคำเตือนที่แฝงด้วยคำสอนต่างๆ ตัวอย่างเช่นที่ประเทศญี่ปุ่นมีตำนานเรื่องผีฮานาโกะในห้องน้ำโรงเรียนตอนกลางคืน หรือผีสาวปากฉีดที่ดักทำร้านเด็กหลังเลิกเรียน เป็นต้น
ตำนานเมืองมีอยู่ทั่วโลก แต่คุณเคยได้ยินตำนานเมืองของประเทศอเมริกาหรือเปล่าครับ...และต่อไปนี้เราขอเสนอตำนานเมืองที่มีชื่อเสียงของอเมริกาที่สยองน่าขนหัวลุกพร้อมกับชวนหัวในเวลาเดียวกัน
10. The Automatic 4.0
![](http://image.ohozaa.com/i/f14/NaBA12.jpg)
เป็นหนึ่งในตำนานเมืองที่เป็นเรื่องเล่าของมหาวิทยาลัยเขตตั้งแต่ปี 1970 และถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์และซีรีย์อเมริกา เรื่อง Dead Man on Campus 1998 (ภาพยนตร์ห่วยได้คะแนน 15% ของมะเขือเทศเน่า) โดยเล่ากันว่าหากในโรงเรียนหรือมหาลัยแห่งใดมีเด็กนักเรียนเพื่อนร่วมฆ่าตัวตายปัจุบันทันด่วน จะได้รับเกรดเฉลี่ย 4.0 ของภาคเรียนการศึกษาโดยอัตโนมัติทันที ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการปลิดชีพของวิทยาลัย (ใจดีพิลึก) ตำนานนี้มีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยในเวลาต่อมาเช่นเกิดฆาตกรรม หรืออุบัติเหตุ แต่ยึดหลักพื้นฐานของเพื่อนร่วมห้องตาย = เกรดดีทั้งหมด (หมายถึงเกรด A นะไม่ใช้ D) แน่นอนเรื่องนี้ไม่เป็นจริงแน่นอน และเชื่อว่าที่มานั้นมาจากการเล่าเล่นๆ เอาตลกของนักศึกษา
9. Mr. Rogers Was a Navy Seal
![](http://image.ohozaa.com/i/200/mY3Jh7.jpg)
เฟร็ด โรเจอร์ส (1928-2003) เป็นชาวอเมริกันนักแต่งเพลงและผู้จัดรายการโทรทัศน์ Mister Rogers' Neighborhood รายการเด็กที่ฮิตในช่วง 1968-2001 ด้วยบุคลิกเป็นคนอ่อนโยนเสียงเบาอ่อนหนุ่มและความตรงไปตรงมาทำให้หลายคนต่างติดใจรายการของเขา และเขาพยายามเรียกร้องรัฐบาลให้สนับสนุนรายการเด็กมากกว่าจะไปทำสงครามเวียดนาม
โดยจุดเด่นของเขาก็คือการรวมเสื้อแขนยาวสีแดงแล้วไปปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์อยู่เสมอ และเนื่องด้วยช่วงที่เขาทำรายการเป็นช่วงสงครามเวียดนามพอดี จึงข่าวลือว่าเขาเป็นเครื่องจักรสงหารในสงครามเวียดนาม ที่ว่ากันว่าเขาฆ่าพวกเวียดกงเป็นจำนวนมาก สามารถฆ่าคนด้วยมือเปล่า จนเขามีบาดแผลเต็มตัวจนต้องสวมเสื้อแขนยาวปกปิดบาดแผลและปกปิดรอยสักสุดโหดนี้เอาไว้
แม้ว่าอากาศจะร้องเพียงใดก็ตามซึ่งข่าวลือนี้ไม่เป็นจริงเพราะประวัติเขาเปิดเผยแล้วว่าเขาไม่เคยทำหน้าที่ทางการทหารใดๆ มาก่อนเลย หากข่าวลือก็เริ่มขึ้นอีก ในปี 1990 ว่าเขาเป็นทหารในสงครามเกาหลี
8. Bloody Mary
![](http://image.ohozaa.com/i/cdd/zY3rvF.jpg)
บลัดดี้ แมรี่ เป็นผีหรือแม่มด เป็นตำนานพื้นบ้าน (ช่วงปี 1970) ที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง เป็นพิธีที่มักทำเล่นกันในห้องน้ำที่มืดๆ โดยการเรียกเธอสามครั้ง (หรือหลายครั้ง แต่ความเชื่อปัจจุบันบอก 13 ครั้ง) และความเชื่อนี้พิธีกรรมการละเล่นหลายแบบ แต่โดยรวมๆ คือต้องเข้าไปในห้องน้ำ ปิดไฟและยืนกระจกในที่มืด และเรียกชื่อของเธอสามครั้ง แต่ตอนนี้จะต่างตรงที่อาจมีอะไรเสริมเข้ามา เช่น ต้องสวดมนต์ร้อยครั้ง. ต้องเที่ยงคืน, น้ำไหล, ใช้เทียนไข และแมรี่จะปรากฏในกระจกเป็นผีผู้หญิงลางๆ บางทีกระจกจะกลายเป็นสีแดง หรือมีเสียงกรีดร้อง โดยประวัติของแมรี่นั้นค่อนข้างหลากหลายบางคนบอกว่าเธอเป็นแม่มด, หญิงที่สูญเสียลูกจนต้องฆ่าตัวตาย หรือเป็นฆาตกร เป็นต้นและตำนานของเธอก็ถูกดัดแปลงมากมาย เช่น เป็นพิธีทดสอบความกล้าหากยอมแพ้แมรี่จะเอาชีวิต หรือเป็นรูปแบบพยากรณ์อย่างเช่นปอกแอปเปิลหน้ากระจกตอนเที่ยงคืน ร้องเพลงในคืนพิเศษแล้วมองผ่านกระจกอย่างเร็วๆ จะเห็นหน้าของเนื้อคู่ลางๆ เป็นต้น
7.JFK and the Jelly Doughnut Speech
![](http://image.ohozaa.com/i/a91/aZoyvS.jpg)
Ich bin ein Berliner เป็นมุขตลกของชาวอเมริกันและเยอรมัน และถูกนำไปแพร่หลายในอินเตอร์เน็ตอย่างแพร่หลาย ส่วนไทยเรานำประโยคนี้มาใช้สอนภาษาอย่างสนุกสนาน
มุก Ich bin ein Berliner นั้นมาจากประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนนาดี้ ที่ไปกล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้าฝูงชนใจกลางกรุงเบอร์ลินตะวันตกในช่วงสงครามเย็นเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 1963 เขาได้ขึ้นไปตึกที่ทำการเทสบาล และพูดประโยคสุดแสนคลาสสิกภาษาเยอรมันต่อหน้าประชาชนชาวเยอรมันที่อยู่ที่นั่นว่า
"Ich bin ein Berliner." ซึ่งแปลว่า " ผมเป็นชาวเบอร์ลิน"
เพื่อแสดงเจตจำนงในการเผชิญหน้ากับสหภาพโซเวียต หากแต่กระนั้นประโยคนี้มันมีอีกความหมายหนึ่ง เนื่องจากคำว่า Berliner เป็นชื่อขนมของเยอรมัน ที่มีลักษณะคล้ายโดนัท ดังนั้นชาวเยอรมันหลายคนจึงเขาใจประโยคนี้ว่า “ผมเป็นโดนัท” และจากนั้นเป็นต้องมามุกนี้ก็ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายที่เยอรมันและสหรัฐอเมริกา (โดยการใช้คำว่าเบอร์ลินสองความหมายให้เข้าใจต่างกัน)
6. Cokelore
![](http://image.ohozaa.com/i/931/7liVZA.jpg)
โค้ก หรือ โคคา โคล่า เครื่องดื่มยอดนิยมที่ผมเขียนถึงมันหลายครั้งแล้วและหลายปีที่ผ่านมาเรื่องราวของมันถูกเล่าขานเป็นตำนานความเชื่อมากมาย โดยตำนานที่มีชื่อเสียงก็เช่นหากกินขนม Pop Rocks (ขนมที่เป็นเม็ดๆ กินแล้วซ่าและเปรี้ยวในปาก) พร้อมโค้กจะทำให้กระเพาะอาหารพังได้ หรืออีกตำนานเล่าว่าโค้กจะทำให้ฟันผุเนื่องจากกรดโวดาละลายฟัน หรือว่าโค้กมีส่วนผสมของโคเคน ซึ่งเป็นยาเสพย์ติดต้องห้ามซึ่งเรื่องโคเคนนี้เป็นจริงและมันได้สร้างภาพลบของโค้กต่อเนื่อง
จนกระทั้งมีการเปลี่ยนสูตรใหม่ในเวลาต่อมา นอกจากนี้ในอินเตอร์เน็ตโค้กถูกนำอ้างว่าเป็นเครื่องดื่มที่สามารถทำลายกระเพาะและอวัยวะภายในของคุณได้ โดยใจความบอกว่าถ้าคุณวาง T-bon สเต็กในชาม มันจะละลายเมื่อเวลาผ่านไป 2 วัน เพราะโค้กมีค่าความเป็นกรดด่างถึง pHอยู่ 2.8 มันมีความเป็นกรดอยู่สูง
มากพอที่จะละลายตะปูได้ภายใน 4 วัน (เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เพราะ pH ของโค้กมีค่า 2.5 ซึ่งใกล้เคียงกับมะนาว หรือ เลมอน มีค่า pH2.4 หรือ ส้ม มีค่า pH3.5)
5. The Good Samaritan
![](http://image.ohozaa.com/i/c2c/SVysrW.jpg)
โดยส่วนมากตำนานจะเอาคนดังที่ปลอมตัวเป็นคนจน เช่น บิลล์ เกตส์ หรือ แนท คิง โคล (นักเปียโน, นักแต่งเพลงและนักร้องเพลงแจ๊ซชาวอเมริกัน) โดยพวกเขาจะทำเป็นรถเสียและรอให้คนมาเปลี่ยนยางให้ หากมีคนมาช่วยพวกเขาจะขอที่อยู่ของเพื่อส่งรางวัลไปให้ และไม่กี่สัปดาห์ต่อมาพวกเขาก็ได้พัสดุว่าเขาได้รับเงิน 10,000 ดอลลาร์ พร้อมกับลงนามผู้ส่งเป็นชื่อบุคคลดัง อีกตำนานอาจมีการดัดแปลงเช่นผู้ขอความช่วยเหลืออาจเป็นกษัตริย์หรือเจ้าหญิงประเทศใดประเทศหนึ่งปลอมตัวมาเพื่อขอความเชื่อเหลือ และคำว่าชาวสะมาริตันผู้ใจดีนี้เป็นคำที่โดนใจคนอเมริกันที่สุด เป็นคำที่สื่อมวลชนชอบใช้ ค่าที่มันจับจิสร้างจินตนาการให้ผู้อ่านผู้ฟังมากที่สุดคำหนึ่ง และมักถูกใช้เป็นชื่อของสมาคม คลินิก บ้านพักผู้ยากไร้ในที่ต่าง ๆ
4. Walt Disney Is Cryogenically Frozen
![](http://image.ohozaa.com/i/9d2/FSidh7.jpg)
เรื่องนี้มาจากเรื่องเล่าในตำนานของวอลต์ ดิสนีย์ ผู้กำเนิดมิกกี้เมาส์และพรรคพวก โดยมีเรื่องเล่าของเขาว่าเป็นหลังเขาตาย ได้มีคนนำศพของเขา(หรือสมองของเขา)แช่แข็งไว้ด้วยเทคโนโลยี Cryonics ด้วยความหวังว่าเทคโนโลยีในอนาคตจะสามารถนำเขากลับมามีชีวิตได้
โดยที่มาของตำนานนี้มาจากวันที่เขาตายเมื่อปี 1966 ไม่มีงานศพ (มีการเปิดเผยในเวลาต่อมาว่าเขาร้องขอไม่ให้มีงานศพ) ไม่เปิดเผยสาเหตุการตาย (มีการเปิดเผยความจริงในเวลาต่อมาว่าเขาตายด้วยโรคมะเร็งปอด) อีกทั้งด้วยความมีชื่อเสียงและนักประดิษฐ์เขาชอบเรื่องไซไฟ นำไปสู่การสร้างตำนานอันยาวนานนี้
3. The Sewer Alligator
![](http://image.ohozaa.com/i/7e8/lXI0OT.jpg)
จระเข้ในท่อระบายน้ำ เป็นเรื่องเล่าที่โด่งดังในปี 1920 และ 1930 โดยเป็นเรื่องของจระเข้ที่อาศัยในท่อระบายน้ำแห่งมหานครนิวยอร์ก โดยเรื่องเล่านี้เล่าสืบทอดกันมาไม่ขาดสาย และไม่ปรากฏแห่งที่มา
โดยมีเรื่องเล่ากันว่ามีครอบครัวหนึ่งรวยมากกลับมาจากการพักร้อนในฟลอริดา และไม่สนใจกฎหมายในนิวยอร์ก พวกเขาได้ซื้อสัตว์เลี้ยงเป็นของขวัญให้เด็ก โดยเป็นจระเข้ และเลี้ยงมันในห้องน้ำ ปรากฏว่ามันโตขึ้นดุร้ายขึ้น จนพวกเขาเลี้ยงไม่ไหวและเกรงว่าจะเป็นอันตรายกับคนในครอบครัว พวกเขาเลยทิ้งมันในท่อระบายน้ำอุจจาระ โยนทิ้งที่ท่อคอห่าน
แต่ปรากฏว่ามันไม่ตายและรอดชีวิตจากการกินหนูและขยะ มันเจริญเติบโตจนมีขนาดใหญ่อย่างน่ากลัว และวันดีคืนดีมันจะโผล่หัวออกมาจากท่อระบายน้ำอุจจาระเข้ามางับหรือทำอันตรายต่อผู้คนที่ผ่านไปผ่านมา (นอกจากนี้มันยังมีเรื่องเล่าเสริมอีกว่ามันเป็นจระเข้เผือกเพราะว่ามันอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่สัมผัสแสงแดดและสูญเสียการมองเห็น และบางที่ก็เล่าว่าเป้นจระเข้ที่หลุดออกจากสวนสัตว์)
ในปี 1930 มีหนังสือพิมพ์ออกมาเขียนว่าพบจระเข้ในรอบนิวยอร์กและมีบางคนอ้างว่าเห็นตำรวจเดินลงเข้าไปท่อระบายน้ำพร้อมอาวุธล่าสัตว์ แม้เรื่องนี้จะเป็นจริงหรือไม่ก็ตาม แต่กระนั้นท่อระบายน้ำในมหานครนิวยอร์กถือได้ว่าเป็นสถานทีน่ากลัวที่ไม่มีใครอยากลงไปอยู่ดี
2. The Vanishing Hitchhiker
![](http://image.ohozaa.com/i/e23/q0YEg9.jpg)
โดยเล่ากันว่าหากคืนมีคนกำลังขับรถในถนนที่ร้างผู้คน จู่ๆ เขาจะเห็นผู้หญิงสาววัยรุ่น กำลังโบกรถอยู่ข้างทางตามลำพัง เขาจึงแวะรับเธอขึ้นรถมาด้วย และเมื่อถึงจุดหมายปลายทางที่หญิงสาวต้องการ เมื่อเขาหันไปเพื่อบอกลาเธอ เธอก็หายตัวไปอย่างลึกลับจากเบาะหลัง ด้วยความสับสน เขาเลยกดออดที่หน้าบ้านของเธอ
เพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าว ก็พบว่าหญิงสาวที่ว่านั้นได้รับอุบัติเหตุรถยนต์ตายก่อนหน้าแล้วที่จุดที่เขารอรับเธอในขณะที่เธอพยายามกลับบ้าน และหญิงสาวที่เขาเจอก็คือผีนั่นเอง และเรื่องเล่านี้อาจมีหลายส่วนที่เปลี่ยนไปบ้าง เช่น กลางคืนที่ว่าอาจฝนตก และตัวหญิงสาวอาจตัวเปียกปอน เขาจึงให้เธอยืมเสื้อแจ๊คเก็ตของเขาให้กับเธอและเมื่อถึงบ้านที่หมาย (บางที่ก็เป็นสุสาน) เธอกลับหายไปพร้อมกับเสื้อแจ็คเก็ตของเขา ด้วยความข้องใจ ชายคนนั้นจึงลงจากรถไปเคาะประตูบ้านหลังนั้น ก็พบว่าเธอได้เมื่อ 10 ปีมาแล้ว และเมื่อวันรุ่นขึ้นเขาไปหลุมฝังศพ
ของเธอก็พบเสื้อแจ๊คเก็ตของเขาวางพับประณีต เรียบร้อยอยู่หน้าหลุมฝังศพของเธอ 1. The Kidney Heist
![](http://image.ohozaa.com/i/7a0/1yANhk.jpg)
เป็นตำนานที่แพร่หลายที่สุดในโลกออนไลน์ รายการโทรทัศน์ และภาพยนตร์ โดยสมมุติว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นในปี 1997 มีอาชญากรรมรูปแบบใหม่ที่น่ากลัวออกอาละวาดในเมือง โดยเหยื่อส่วนใหญ่เป็นหญิงสาวหรือนักเดินทางที่กำลังผ่อนคลายโดยไปที่ร้านหรือบาร์เพื่อดื่มกินเครื่องดื่ม และระหว่างดื่มกินจะมีคนแปลกหน้ามาพูดคุยทำความสนิทสนมและคนแปลกหน้าจะเอาเครื่องดื่มให้เหยื่อคนนั้นดื่ม หลังจากนั้นเหยื่อคนนั้นจะเกิดอาการมึนงง และง่วงนอน จนหมดสติไป
ก่อนที่จะตื่นขึ้นในอ่างน้ำที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งที่ห้องพักโรงแรมหรือบ้านร่างแห่งหนึ่ง และมีโทรศัพท์อยู่ถัดไป และเมื่อเหยื่อโทร 911 แพทย์ก็มาถึงก็พบว่าที่ร่างกายของเหยื่อมีรอยผ่าตัดและตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าไตถูกขโมยไป และไตที่ว่านั้นได้ถูกนำไปขายในตลาดขายอวัยวะมืดในราคาแพงลิบลิ่ว
และนี้คือตำนานเมืองที่หลายคนเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงจนถึงขั้นมีการร้องเรียนต่อมูลนิธิไตแห่งชาติว่าควรตรวจสอบไตว่าไตไหนเป็นไตที่ถูกขโมยมา และเรื่องขโมยไตนี้ก็โด่งดังในประเทศไทยด้วย โดยเนื้อหาเปลี่ยนเป็นผู้ป่วยไปรักษาตัวในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ทำการผ่าตัด และผู้ป่วยก็พบว่าไตหาย เป็นต้น