10 สนามบินดีที่สุด" ประจำปี 2010

ไหนๆ  "บีเอสเอ็นนิวส์" ก็เคยนำเสนอ  "10 เมืองน่าเที่ยวที่สุด" และ "10 เมืองคุ้มค่าเงินที่สุด" ประจำปี 2010 ที่คัดเลือกโดย "โลนลี่ แพลนเน็ต"  ไปแล้ว...  คราวนี้เรามาดู "10 สนามบินดีที่สุด ประจำปี 2010" ที่คัดเลือกโดย "โลนลี่ แพลนเน็ต" กันบ้าง
 
ก่อนที่จะเผยรายชื่อ "10 สนามบิน" ดังกล่าว ต้องขอบอกก่อนว่ามีเซอร์ไพรส์ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า "โลนลี่ แพลนเน็ต" เขามาอารมณ์ไหน ถึงได้มีสนามบินแปลกๆ ติดโผเข้ามาด้วย เรียกว่าฉีกแนวไปจากโผหรือผลการสำรวจของสำนักอื่นๆ ที่ "บีเอสเอ็นนิวส์" เคยนำเสนอมาก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด
 
10 สนามบิน "ดีที่สุดในโลก" ประจำปี 2010 ที่ "โลนลี่ แพลนเน็ต" ระบุไว้ในหนังสือ "โลนลี่ แพลนเน็ต เบสต์ อิน ทราเวล 2010 " มีดังนี้ (ไม่มีการจัดอันดับ)
 
 
สนามบินชางฮี ประเทศสิงคโปร์
 
 
 
ทุกครั้งที่มีการจัดอันดับสนามบินดีที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นผลการสำรวจของสำนักไหนก็ตาม เป็นต้องมีชื่อสนามบินแห่งนี้ติดเข้ามาเป็นอันดับหนึ่งทุกครั้ง แต่สนามบินแห่งนี้ไม่เพียงโดนใจนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น หากยังเป็นที่โปรดปรานของชาวสิงคโปร์ถึงขนาดพากันแวะเข้ามาเยี่ยมเยียน แม้ว่าจะไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศก็ตาม
 
* หากอยากรู้ว่าสนามบินแห่งนี้ดียังไง เข้าไปดูได้ใน "สนามบิน "น่านอน" ที่สุดในโลก"
 
 

สนามบินนานาชาติ ปริ๊นเซส จูเลียน่า ใน  ST. MAARTEN (แคริบเบียน)
 
 
 
สนามบินแห่งนี้ ติด 1 ใน 10 อันดับสนามบินปราบเซียนที่ "น่ากลัวที่สุดในโลก" เนื่องจากมีรันเวย์ยาวเพียง 2,000 เมตรเท่านั้น จึงเหมาะสำหรับการนำเครื่องบินเจ็ทขนาดกลางลงจอด แต่ก็มีเครื่องบินโบอิ้งขนนักท่องเที่ยวจากฝั่งยุโรปมาลงบ่อยครั้งเช่นกัน ทำให้นักบินต้องบังคับเครื่องบินดังกล่าวให้บินในระดับต่ำสุดๆ เพื่อนำเครื่องลงจอดอย่างปลอดภัยบนรันเวย์ที่มีความยาวจำกัด
 
หากมีเวลาเหลือเฟือก่อนขึ้นเครื่อง นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำริมชายหาดมาโฮที่อยู่เกือบติดรันเวย์ หรือนั่งชมเครื่องบินลงจอดชนิดเกือบเฉี่ยวหัวเพื่อเป็นการฆ่าเวลา ซึ่งที่นี่อาจเป็นสนามบินเพียงแห่งเดียวในโลกที่ติดป้ายเตือนว่า "ระวัง! เครื่องบินๆ ต่ำ" และ "ขณะเครื่องบินเทคออฟอาจทำให้ได้รับบาดเจ็บได้ (แปลว่าถ้าเห็นเครื่องบินกำลังจะบินขึ้นให้หลบไปไกลๆ)"
 
* ถ้าอยากรู้ว่าสนามบินแห่งนี้น่ากลัวยังไง เข้าไปดูได้ที่  "10 สนามบินที่ได้ชื่อว่า "น่ากลัว" ที่สุดในโลก"
 

สนามบินนานาชาติอินชอน ประเทศเกาหลีใต้
 
 
 
 
อินชอน  เป็นอีกหนึ่งสนามบินในแถบเอเชียที่โดนใจนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างแรง เนื่องจากมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยไฮเทคมากมาย แถมยังอยู่ใกล้กรุงโซลมากๆ (30 นาที) จึงเหมาะสำหรับการเดินทางไปติดต่อธุรกิจ... ที่สำคัญภายในสนามบินแห่งนี้ยังมี วีไอพี เลาน์จ และห้องประชุมพร้อมอุปกรณ์มัลติมีเดียต่างๆ อย่างครบครันอีกด้วย (คำเตือน: อุปกรณ์ดังกล่าวเชื่อมต่อกับระบบ wi-fi  ที่มีอัตราค่าบริการแพงมากๆ)
  
 
สนามบินนานาชาติเคฟลาวิก (KEFLAVIK) ประเทศไอซ์แลนด์ 
 
 
 
สนามบินแห่งนี้สร้างขึ้นโดยกองทัพสหรัฐในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง อยู่ห่างจากบลู ลากูน ซึ่งเป็นแหล่งแช่น้ำพุร้อนสุดฮอตของประเทศไอซ์แลนด์ เพียง 20 นาที และนี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โลนลี่ แพลนเน็ต คัดเลือกให้สนามบินแห่งนี้เป็นหนึ่งใน 10 สนามบินดีที่สุดประจำปี 2010 (ไอซ์แลนด์ เป็นหนึ่งใน 10 ประเทศที่โลนลี่ แพลนเน็ต ระบุว่าไปเที่ยวแล้วคุ้มค่าเงินที่สุดประจำปี 2010)
  
 

 
สนามบินนานาชาติฮ่องกง
 
 
 
สนามบินแห่งนี้มีอะไรสนุกๆ และทันสมัยไฮเทคให้นักท่องเที่ยวได้ลองเล่นแก้เซ็งระหว่างรอขึ้นเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ 4 มิติ หรือลองทดสอบทักษะทางด้านการบินที่โซนเพลย์สเตชั่น แต่ถ้าใครอยากทดลองขับเครื่องบินด้วยตนเองแบบเสมือนจริง ให้ตรงไปที่ "Aviation Discovery Centre " ซึ่งตั้งอยู่ในเทอร์มินัล  2 เพราะที่นั่นจะมีห้องนักบินจำลองแบบอินเตอร์แอคทีฟไว้ให้ทดลองเล่นเป็นการฆ่าเวลา
 
 
 
สนามบิน JUANCHO E YRAUSQUIN  บนเกาะ Saba
 
 
 
สนามบินแห่งนี้ เป็นอีกหนึ่งสนามบินที่ได้ชื่อว่าอันตรายที่สุดในโลก เนื่องจากรันเวย์มีความยาวเพียง 400 เมตรเท่านั้น แถมด้านหนึ่งของสนามบินแห่งนี้ยังเป็นภูเขาสูง ส่วนอีกด้านเป็นหน้าผา (บริเวณปลายสุดของรันเวย์ทั้ง 2 ข้าง เป็นหน้าผา) ซึ่งถ้าหากมีอะไรผิดพลาดไม่ว่าจะเป็นขาขึ้นหรือลงก็จะตกลงไปในทะเลทันที  
 
นอกจากความตื่นเต้นที่ได้ลุ้นระทึกว่าเครื่องบินจะตกหรือไม่ตกหน้าผาแล้ว ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าสนามบินแห่งนี้ คว้าตำแหน่งดีที่สุดประจำปี 2010 มาได้อย่างไร
 
 

สนามบินนานาชาติคันไซ ประเทศญี่ปุ่น
 
 
 
สุดยอดสนามบินที่ตั้งอยู่บนเกาะเทียมกลางอ่าวโอซาก้าแห่งนี้ มีอะไรที่ให้ทำเพลินๆ ระหว่างรอขึ้นเครื่องหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการแวะรับประทานอาหารญี่ปุ่นแสนอร่อย (ซูชิที่เสิร์ฟบนสายพานแบบในบ้านเรา แต่ฝรั่งบางคนเขาเห็นเป็นของแปลก) หรือเข้าไปใช้บริการห้องน้ำสุดไฮเทคที่ร้องเพลงได้  แต่สิ่งที่ไม่ควรพลาด คือ การเข้าไปใช้บริการที่ 'Relaxation Forests'  ภายในเทอร์มินัล 3F และแอโรพลาซ่า 2F ซึ่งที่นั่นจะมีบริการนวดเพื่อผ่อนคลายความเครียดและเมื่อยล้าให้เลือกหลายคอร์สด้วยกัน โดยใช้เวลาในการนวดตั้งแต่ 10 นาที ไปจนถึง 1 ช.ม. 
 
 
 
สนามบินนานาชาติดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
 
 
 
 
สนามบินแห่งนี้ถือเป็นสวรรค์ของนักช้อป เพราะมีร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าปลอดภาษีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเพชร น้ำหอม  เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ และอื่นๆ อีกมากมายภายในอาณาบริเวณที่กว้างขวางเกือบ 2 ตารางกิโลเมตร
 
แต่สนามบินแห่งนี้กำลังจะถูกบดบังรัศมีในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เพราะ "อัล มัคทูม"  สนามบินนานาชาติแห่งใหม่ที่ใหญ่กว่าสนามบินดูไบถึง 10 เท่า  จะมีกำหนดเปิดบริการในปี ค.ศ. 2013 หรือในอีก 4 ปีข้างหน้า ซึ่งแน่นอนว่าพื้นที่จำหน่ายสินค้าปลอดภาษีจะต้องยิ่งใหญ่และมีสินค้าหลากหลายกว่าที่สนามบินดูไบหลายเท่าตัว
 

 
สนามบินนานาชาติแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา
 
 
 
 
ที่นี่อาจเป็นสนามบินเพียงแห่งเดียวในโลกที่มีเจ้าหน้าที่ดูแลพิพิธภัณฑ์ประจำอยู่ภายในสนามบิน ทั้งนี้เนื่องจากสนามบินแห่งนี้ถือเป็นสถานที่เก็บรวบรวมงานศิลปะพื้นเมืองอันเก่าแก่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก  
 
อย่างไรก็ตาม สนามบินแวนคูเวอร์ไม่เพียงเป็นที่รวบรวมงานศิลปะพื้นเมืองโบราณขนานแท้และดั้งเดิมเท่านั้น หากยังมีการจัดนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัย และศิลปะพื้นเมืองที่เป็นผลงานของคนรุ่นใหม่อีกด้วย
 
 
 
สนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมนี
 
 
 
สนามบินมิวนิค ไม่เพียงมีระบบบริหารจัดการภายในสนามบินที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของประเทศเยอรมนี หากยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จัดเตรียมไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินระหว่างรอขึ้นเครื่องมากมายสมกับที่ได้รับยกย่องว่าเป็นสนามบิน "ดีที่สุดสำหรับการต่อเครื่อง" ของฝั่งยุโรป ประจำปี 2009
 
นอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานเช่นเดียวกับที่มีในสนามบินชั้นนำทั่วโลกแล้ว สนามบินแห่งนี้ยังมีบริการรถบัสและไกด์นำชมพื้นที่ต่างๆ ภายในสนามบินกว่า 40 จุด  (ไม่ฟรี) บริการชมภาพยนตร์ฟรี และยังมีสนามซ้อมพัตต์กอล์ฟ 18 หลุมไซส์มินิ ให้ทดสอบทักษะและสมาธิฆ่าเวลาอีกด้วย
 
5 เม.ย. 53 เวลา 20:46 4,085 12 126
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...