20 ไลฟ์สไตล์เศรษฐีที่พวกเขาไม่เคยบอกเรา
1. เราคิดว่าส่วนลดจากโบร์ชัวร์ หรือคูปองตามหน้านิตยสาร คือเงินดี ๆ นี่เอง ถ้าหากตัดเก็บไว้ ก็เหมือนกับเรามีเงินจำนวนนั้น ๆ ในกระเป๋า
2. เราหลีกเลี่ยงความสบายได้เสมอถ้าไม่จำเป็น เช่น ในเที่ยวบินที่บินเพียงไม่กี่ชั่วโมง การเลือกที่จะนั่งเครื่องบินชั้นประหยัดแทนชั้นเฟิร์สคลาสที่แพงกว่า 5,000 บาท มันเปรียบได้กับการที่เราได้เงินเพิ่มมาสำหรับใช้จ่าย 5,000 บาทเลยทีเดียว
3. เรากดเงินออกมาใช้เพียงสัปดาห์ละครั้ง เพื่อบังคับตัวเองให้ใช้จ่ายในจำนวนเงินที่มีอยู่ และต้องใช้จ่ายทุกอย่างด้วยเงินสดเท่านั้น
4. แม้เราจะมีเงินเยอะ แต่ก็ยังทานอาหารร้านเดียวกับคนทั่วไป ตัดผมในร้านตัดผมท้องถิ่น นั่นทำให้เรามีเงินเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ เพราะใช้จ่ายไม่ฟุ่มเฟือยนั่นเอง
5. เราเห็นคุณค่าของขยะ เช่น การเก็บคลิปหนีบกระดาษเล็ก ๆ ที่ถูกทิ้งพร้อมเอกสารในถังขยะไว้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องจ่ายเงินซื้อเมื่อยามจำเป็นต้องใช้
6. เรากล้าที่จะเสี่ยงกับการลงทุน เช่น ลงทุนในหุ้นตัวที่มีแนวโน้มว่าจะมีราคาสูงขึ้น แล้วรอขายในเวลาที่เหมาะสม
7. เราเลือกที่จะขอพิจารณาขึ้นเงินเดือนเพียง 9 เดือน แทนการพิจารณา 12 เดือน เพราะจะทำให้เรามีเวลาอีก 3 เดือน ในการขอเพิ่มเงินเดือนหรือโบนัสครั้งต่อไป
8. เราต้องเสียภาษีก้อนโต เป็นจำนวนเงินมากกว่าคนทั่วไปมาก แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น เราก็จัดการเรื่องภาษีแทนการจ้างทีมบัญชีมาช่วย
9. เราไม่จำเป็นต้องมีเสื้อผ้าเยอะแยะ เราซื้อสูทสวย ๆ 3 ตัว ใส่ทุก ๆ 5 ปี โดยเฉลี่ย ไม่ได้ฟู่ฟ่าซื้อเสื้อผ้ามาเต็มตู้เหมือนที่ใคร ๆ คิดกัน
10. เรายอมรับว่าบางครั้งตัวเองเป็นคนหัวสูง อย่างเวลาที่เราไปบ้านคนอื่น เราไม่ชอบดูทีวีจอเล็ก ๆ หรือฟังเพลงจากสเตอริโอที่เสียงไม่ค่อยดีเท่าไหร่
11. เราไม่ได้ฉลาดเสมอไปนะ เรามีสมองพอ ๆ กับคนทั่วไปนั่นแหละ
12. เราใช้เงินจ้างเพื่อนเก่า ๆ หรือคนรู้จักที่ขัดสนเรื่องเงินมาทำงานให้ แทนการให้เงินเปล่า ๆ (เพราะพวกเขามักจะไม่รับ) แม้งานนั้นจะไม่มีความสำคัญนักก็ตาม
13. บางครั้งเรายังเอาสบู่ก้อนเล็ก ๆ มาแปะเป็นก้อนเดียวกัน ใช้ยาสีฟันจนเกลี้ยงหลอด และปลูกผักกินเองอยู่เลย
14. คนรวยหลายคนไม่ได้ใส่เสื้อผ้าราคาแพง ไม่ได้ใช้กระเป๋าแบรนด์เนมรุ่นใหม่ ไม่ได้อยู่บ้านหลังใหญ่โต และยังใช้รถอายุ 10 ปีอยู่เลย
15. เวลาที่เราซื้อผักและผลไม้ไร้สารพิษจากห้างในราคาแพง เรามักจะค้นหาคำตอบว่าผักผลไม้เหล่านี้มาจากไหน จากนั้นเราก็ไปซื้อโดยตรงจากคนเหล่านั้น
16. เราไม่ได้รับผิดชอบเงินค่าใช้จ่ายของลูกทั้งหมด จากผลสำรวจ 100 ครอบครัวผู้ร่ำรวย พบว่าครอบครัวของคนรวยส่วยใหญ่ไม่ได้ตามใจลูก ๆ ชนิดที่อยากได้อะไรก็ได้ ซ้ำพวกเขาให้ลูก ๆ เรียนรู้ที่จะหาเงินสำหรับเป็นค่าเทอมของตัวเองด้วย
17. เวลาที่เรามีรายชื่อติดหนึ่งในกลุ่มผู้บริหารระดับสูงในหน้าหนังสือพิมพ์ เรามักจะได้รับข้อความจำนวนมากส่งเข้ามาขอเงินเรา
18. เรามองไปรอบตัวเสมอในทุกวัน เพื่อหาไอเดียการลงทุนในชีวิตประจำวันของเรา
19. เราให้ทิปกับช่างผม หรือสาวเสิร์ฟ เมื่อรู้ว่าพวกเขากำลังเดือดร้อน โดยไม่ลังเล
20. ชีวิตของเราส่วนมาก เกี่ยวข้องกับคนที่เรารู้จักมาก่อนและรักษาความสัมพันธ์เอาไว้ เพราะเรามีทุกวันนี้ได้โดยเริ่มต้นมาจากการจ้างคนใกล้ตัวและรู้จักมาก่อน นั่นเอง