ตํานาน อาถรรพ์"ป่าแก่งกระจาน"

 

 

 

 

 

ภายหลังเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน หลังจากส่วนหัวเครื่องเฮลิคอปเตอร์ รุ่น ยูเอช-1 เอช (ฮิ้วอี้) ตกในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ขณะบินเข้าไปรับเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนที่ยังตกค้าง อยู่ในป่า หลังจากเข้าไปปฏิบัติภารกิจกวาดล้างชนกลุ่มน้อยที่เข้ามาทำลายป่าและมีผู้เสียชีวิตถึง 5 ราย

ล่าสุดเครื่องเบล 212 ก็ตกลงในเขตป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานอีกลำ จนทำให้บุคลากรอันทรงคุณวุฒิจากทางกองทัพสูญเสียไปกว่า 16 นาย รวมถึงช่างภาพมือดี ของ ททบ. ๕ อีก 1 นาย ซึ่งถือเป็นความสูญเสียอย่างประเมินค่าไม่ได้

ในขณะที่หลายคนคิดกันไปต่าง ๆ นา ๆ บ้างก็ว่าเครื่องขาดสมรรถนะในการขึ้นบิน บ้างก็ว่าเครื่องเก่า บ้างก็ว่ากันไป หลาย ๆ สาเหตุที่เอาไปถกเถึยงกันจนเป็นประเด็น แน่นอนที่สุดย่อมไม่พ้นการกล่าวอ้างถึง อาถรรพ์แห่งป่าแก่งกระจาน ที่ได้รับการนำเสนอกันอย่างกว้างขวาง ทั้งทางสือทีวีและหนังสือพิมพ์ ดังเช่นข้อความที่อ่านพบใน นสพ.ไทยรัฐออนไลน์ ที่กล่าวไว้ดังนี้

อาถรรพ์แรก - ตามหาศีรษะไม่พบเฮลิคอปเตอร์บินขึ้นไม่ได้

อาถรรพ์นี้ถูกกล่าวขานกันมากมาย โดยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ซึ่งเป็นวันที่ 4 หลังจากทหารหน่วย ฉก.ทัพพระยาเสือ กองพล ร.9 เข้าไปลำเลียงศพทหารทั้ง 5 นาย ออกมาจากเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี มีรายงานว่า

สภาพที่ความสูญเสียที่เห็นนั้น พบซากเฮลิคอปเตอร์สภาพส่วนหัวชนเสียบคาผนังหิน ต่ำจากยอดเขาเพียง 10 เมตรเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีร่องรอยการเผาไหม้ในรัศมี 10 เมตร ด้วยการปะทะอย่างแรงทำให้เกิดการระเบิดและมีเพลิงลุกไหม้อีกด้วย

ด้านสภาพของลูกเรือที่โดยสารมาทั้งหมด 5 นายถูกเผาไหม้ดำเป็นตอตะโก หนึ่งใน 5 ศพนั้นคาดว่ายังไม่เสียชีวิตทันที ส่วนอีก 4 ศพ ร่างติดคาซากเครื่อง บางศพเหลือเพียงกระดูกเท่านั้น และยังมีอยู่ 1 ศพที่ไม่สามารถหาศีรษะพบ

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเผยเรื่องลี้ลับก่อนขึ้น ฮ.ว่า ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นกับตัวเองและคณะผู้สื่อข่าวในระหว่างที่เฝ้ารอให้อากาศเปิดอยู่ในป่าใกล้จุดเกิดเหตุ เนื่องจากตนมีลางสังหรณ์ ที่เป็นเรื่องของความเชื่อของคนที่อยู่กับป่ามาตลอด

"ขณะที่ผมเข้าไปในที่เกิดเหตุครั้งแรก เห็นศพศพหนึ่งไม่มีศีรษะ อาจจะเป็นเรื่องทางไสยศาสตร์ ที่หากค้นหาชิ้นส่วนของศพไม่ครบ ก็จะทำให้ไม่สามารถนำศพออกมาได้ทั้งหมดด้วยการเกิดอุปสรรคต่าง ๆ เช่น การนำ ฮ.เข้าพื้นที่

ดังนั้น  ผมจึงวิทยุสั่งให้ค้นหาให้เจอในที่สุด เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถหาพบก็เกิดเรื่องประหลาด โดยเมื่อตอนที่ยังไม่สามารถค้นหาศีรษะ ส่วนที่หาไปเจอได้เกิดฝนตกตรงจุดเกิดเหตุ และอากาศปิดมาตลอด แต่พอเจ้าหน้าที่วิทยุมาบอกกับตนว่าพบศีรษะแล้ว สภาพอากาศก็เปลี่ยนแปลงดีขึ้นทันที เรื่องนี้ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ และน่าจะเป็นนิมิตรหมายที่ดี ที่จะทำให้การปฏิบัติในครั้งนี้ประสบความสำเร็จได้"

สำหรับในกรณีนี้นั้น หากจะบอกว่า เพราะ "หาศรีษะ" ไม่เจอ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว คือ อากาศปิด ไม่สามารถเข้าไปเก็บกู้ได้ จนกว่าจะพบศรีษะ และเมื่อพบแล้ว อากาศก็เปิดทำให้สามารถขึ้นบินได้นั้น

โดยส่วนตัวแล้ว ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะอย่างที่เราท่านทราบ ๆ กันดี ว่าด้วยภูมิประเทศแถบนั้น มีความเป็นป่าสมบูรณ์ อันเนืองด้วยแนวชายแดนที่มีการรบกันไม่หยุดหย่อนของทหารเพื่อนบ้านและชนกลุ่มน้อย ทำให้นายทุนยังเข้าไปรุกป่าได้ไม่สะดวกนัก

และด้วยสภาพภูมิประเทศดังกล่าว กอร์ปกับลมมรสุมทางด้านอันดามันพัดขึ้นยอดเขาตามที่ข่าวจากหลาย ๆ สำนักออกข่าวกันโครม ๆ ดังนั้น จึงเป็นไปได้ว่า เกิดจากความแปรปรวนของสภาพอากาศตามหลักวิทยาศาสตร์ล้วน ๆ

เพราะหากบอกว่าเมื่อ "พบศรีษะ" ท้องฟ้าก็ได้เปิดขึ้นทันทึ ทำให้ออกบินได้ แต่อย่าลืมว่า ต่อมาคือข่าวเศร้า คือข่าวการตกของเครื่องแบล็กฮอร์ค ซึ่งเจ้าของศรีษะไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับอุบัติดังกล่าวแต่อย่างใด

อาถรรพ์ - ปักธูปไม่ลง

เรื่องนี้เกิดขึ้นขณะ พ.ต.ประพันธ์ เจียมสูงเนิน นักบินที่ 1 ประจำเครื่องแบล็กฮอว์ก พร้อมทหารจากกองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 9 กองพลทหารราบที่ 9 ได้จุดธูปไหว้เจ้าที่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์และดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิต ให้ดลบันดาลการปฏิบัติภารกิจนำศพ 5 ทหารออกมาจากฐานต้นน้ำเพชร สำเร็จลุล่วงด้วยดี แต่ทั้งหมดไม่สามารถปักธูปลงบนพื้นดินได้ ต้องเปลี่ยนอยู่หลายจุด จึงจะสามารถปักธูปได้ก็เป็นอีกเรื่องที่ถูกพูดถึง

กรณีนี้ก็เช่นกัน เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเคยปักธูปที่ไม่ได้ปักลงในกระถางที่ทางเจ้าของสถานที่เตรียมไว้ และก็ปักไม่ลงเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงใด ๆ ตามมา ไม่มีแม้นกระทั้งใครมาเข้าฝันให้ไปปักธูปใหม่

กรณีนี้ โดยส่วนตัวเชื่อว่า เป็นเพราะดินมันแข็ง การแข็งของดิน อาจจะแข็งเป็นบางจุด หรือแข็งทั้งบริเวณก็เป็นได้

อีกอย่างชุดปฏิบัติการดังกล่าว ก็เข้าไปทำ "ภาระกิจเพื่อชาติ" เข้าไป "ดูแลพื้นที่ป่า" เป็นการปกปักรักษาพื้นป่า ที่ท่านเจ้าป่าเจ้าเขาอยู่อาศัย จึงไม่มีเหตุผลอันใด ที่ท่านเจ้าป่าเจ้าเขาจะไม่รับการบอกกล่าวเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ หรือมองว่าเป็นการรบลู่แต่อย่างใด

ดูแต่ไอ้พวกตัดไม้ทำลายป่า ท่านยังเมตตาไม่ทำลายพวกมัน แล้วไฉนเลยจะมาทำร้ายหรือสร้างอาถรรพให้กับเหล่าทหารผู้ปกป้อง

อาถรรพ์ - พูดเป็นลาง

"ผมจะเดินทางไปด้วยตัวเอง เพื่อนำน้องๆ ผู้ประสบเหตุทั้ง 5 คน กลับมาให้ได้ภายในวันนี้"

คือคำพูดของ พล.ต.ตะวัน เรืองศรี ผบ.พล.ร.9 ผู้นำทีมขึ้นแบล็กฮอว์ก และที่น่าแปลกอีกก็คือ พล.ต.ตะวัน นับเป็น ผบ.พล ร.9 คนที่ 2 ที่ประสบอุบัติเหตุ ฮ.ตก เพราะก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 25 ก.พ. 43 พล.ต.สัญชัย รัชตะวรรณ ประสบอุบัติเหตุ ฮ.ตกและเสียชีวิตที่บ้านท่ามะนาว อ.เมืองกาญจนบุรี

นอก จากนี้ ยังมีคำพูดก่อน-หลังขึ้นเครื่อง ที่ถูกเปิดเผยในทำนองหยอกล้อกันว่า "ไม่ต้องกลัวเครื่องตก" หรือ "เครื่องไม่ตกหรอก" เป็นต้น จะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจพูดก็ตาม แต่คำพูดทำนองนี้โบราณเขาถือกัน

จริงอยู่การพูดดังกล่าว "โบราณ" เขาถือ ว่าเป็นการพูดที่เป็นลาง แต่มองในทางกลับกัน กลับเป็นการเตือนสติ ไม่ให้ผู้ที่กำลังทำอะไรกิจกรรมอันใดอยู่นั้น ระลึกว่า "อย่าประมาท" และในกรณีนี้ เป็นการพูดเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับทีมงาน ที่กำลังจะฝากชีวิตไว้กับอากาศยาน และสภาพอากาศที่ไม่สามารถควบคุมได้ ให้มีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่

แต่ด้วยสภาพอากาศที่เลวร้ายดังกล่าว  ต่อให้ไม่พูดอะไร อากาศยานที่มีสมรรถนะยอดเยี่ยมเพียงใด ก็ตกได้เช่นกัน

อาถรรพ์เจ้าป่า เจ้าป่าเซ่นสังเวย เวลาหยุดพักกินอาหาร

เรื่องการพิธีเปิด-ปิดป่าก็มีการพูดถึง นายพยัพ คำพันธุ์ เซียนพระเครื่องและเครื่องรางชื่อดัง และผู้เชี่ยวชาญเรื่องการเดินป่าให้ความรู้เรื่องการ ทำพิธีเปิดป่าแบบ "ฉบับโบราณ" ผ่านไทยรัฐออนไลน์ ว่า

การเดินป่าทุกๆ ครั้งต้องทำพิธีเปิดป่าด้วยการจุดธูป 9 ดอก พร้อมกับอธิฐานขอให้เจ้าที่เจ้าทาง เจ้าป่า เจ้าเขา ผีเหย้า ผีเรือน เจ้าของที่ เจ้าของทาง ลูกขอเปิดป่า ถ้าหากลูกทำผิดสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็ตามแต่ ขอกราบ ขอขมาไว้ ณ ที่นี้ด้วย แล้วก็กลั้นใจเอามีดทิ่มดินแล้วก็พลิกดินขึ้นมา 3 ครั้ง พร้อมกับพลิกใบไม้ทั้งสด-แห้งที่ตกอยู่ข้างๆ ให้จับหงายขึ้นมาให้หมด

ส่วนพิธีปิดป่าเมื่อเราทำภารกิจเดินป่าเสร็จแล้วก็ต้องนำดินที่พลิกขึ้นมาแล้วใบไม้ที่เราจับพลิกปิดเอาไว้อย่างเดิม นี่กรณีเราเดินออกมาทางเดิม แต่ถ้าเดินออกจากป่าอีกด้านหนึ่งก็ยกมือไหว้บอกเล่าและขอขมาเจ้าป่าธรรมดา

"แต่หากไม่มีธูปเทียน ก็สามารถหักกิ่งไม้แห้งที่อยู่บริเวณนั้น อธิฐานและปักกิ่งไม้เอาไว้ หลังจากนั้นก็นำมีดทิ่มดิน 3 ครั้ง แล้วก็พลิกใบไม้ทั้งสดและแห้งบริเวณนั้นเป็นอีกด้านห นึ่งด้วย เรื่องแบบนี้พูดไปไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เพราะว่าป่าทุกๆ ป่า กระเหรี่ยงและชาวเขาเขาทำพิธีโบราณแบบนี้เพื่อป้องกั นตัวเองทั้งหมด"  พยัพ กล่าว

นอกจากนี้ เรื่องเวลาหยุดพักรับประทานอาหาร พรานหลายคนก็แนะนำว่าจะต้องแบ่งอาหารส่วนหนึ่งใส่ใบไม้ถวายเจ้าป่าเจ้าเขา และบรรดาผีป่าผีดงทั้งหลาย เป็นการแสดงความคารวะตามประสาผู้มาเยือนที่ดี หรืออีกนัยหนึ่งก็คือช่วยคนเดินป่าให้เกิดความรู้สึก สบายใจ เพราะได้กระทำถูกต้องตามทำนองคลองธรรมแล้ว ไม่ได้ละเมิดหรือดูหมิ่นดูแคลนแต่อย่างใด

หากมีการล่าสัตว์ พรานอาจจะตัดเนื้อสัตว์ที่ล่าได้ส่วนหนึ่งวางไว้ในที่อันควร เพื่อเป็นการถวายแต่เจ้าป่าเจ้าเขา พรานสมัยก่อนจะล่าสัตว์และตัดไม้เท่าที่มีความจำเป็น สำหรับเลี้ยงชีพเท่านั้น ไม่ใช่ตัดเ...้ยนไปหมดจนแทบจะสูญพันธุ์เหมือนอย่างวันนี้

กรณีนี้ก็เช่นกัน หากมองกันในอีกแง่หนึ่ง เหมือนกับจะบอกว่า เหตุที่เกิดขึ้นนั้น เนื่องมากจาก "ไม่ได้มีการเซ่นสังเวยเจ้าป่า เจ้าเขา" จึงบรรดาลให้เกิดเหตุการดังกล่าวขึ้น ย้อนกลับไปทางด้านพวกตัดไม้ทำลายป่า หรือคนพวกนั้น "เซ่นสังเวย" เจ้าป่าเจ้าเขา พวกมันถึงได้ตัดไม้ทำลายป่าจนป่าไม้บ้านเรานั่นหดหายไปจนเกือบหมด แทบจะไม่มีที่ให้เจ้าป่าเจ้าเขาท่านสิงสถิตย์อยู่

ในขณะที่ผู้รักษา ดูแลให้คงอยู่ชั่วลูกชั่วหลาน กลับประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต การพูดเช่นนั้น ดูจะเป็นการโยนความผิดให้สิ่งศักดิ์สิทธิ่ที่ไม่สามารถออกมาแก้ต่างให้ตนเองได้ไปสักหน่อย (ถ้าออกมาก็ตัวใครตัวมันนะค่ะเจ้านาย) เป็นการโทษสิ่งที่มองไม่เห็น ด้วยข้อหา "รับสินบน"กันเลยทีเดียว

ดิฉันเชื่อมาตลอดค่ะว่า คนทำดีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมคุ้มครอง ไม่ใช่จ้องทำลาย แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือ "เหตุสุดวิสัย" ที่ท่านเจ้าป่าเจ้าเขาท่านจะช่วยได้ที่ความสูง 1,200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

ขณะเดียวกัน ฟากโหราศาสตร์ยังมีการพูดถึงดาวอังคาร ที่ถือว่าเป็นดาวทหารจะมีการสูญเสียจากเครื่องยนต์กลไกขัดข้อง หรือแม้กระทั่งดวงของคนที่เสียชีิวิตชุดแรกมีเข้าเคราะห์แทบจะทุกคน ดังนั้นเมื่อคนมีเคราะห์มาอยู่่รวมกันมาก ๆ ก็เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น

ส่วนเรื่องฮวงจุ้ยหรือชัยภูมิที่เขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรีนั้น ก็มีการกล่าวขานกันมากว่า ลักษณะคล้ายกับความอาถรรพ์ของ"สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า" แต่ก็ยังไม่มีใครออกมาการันตีข้อมูลนี้

ที่สุดแล้วเหนืออื่นใด ไม่ว่าหลังจากนี้ผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร ขอให้ทุก ๆ คนรู้ว่าคนไทยทั้งประเทศกำลังนั่งภาวนาส่งกำลังใจไปช่วยเหลือแน่นอน!!!

Twitter raydo_thairath / http://www.fwdder.com/topic/346175

กรณีนี้ดูจะเข้าเค้ากว่า ๆ ในทุก ๆ เหตุผล เพราะใช้อ้างด้วยหลักทางโหราศาสตร์ ซึ่งเป็นหลักทางสถิติที่ได้รับการยอมรับกันในวงกว้าง เพียงแต่จะดูประจวบเหมาะ และเหมารวมไปสักหน่อย หากจะเปรียบอาถรรพ์ของแก่งกระจานเป็น "สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า" เพราะหากขึ้นชื่อเช่นนั้นจริง มันน่าจะมีคดีแจ้งคนหายในเกือบทุก ๆ ฤดูกาลท่องเที่ยว นักข่าวต่างประเทศน่าจะมาตั้งกล้องแอบส่องอะไรต่ออะไรกันมากมายเพื่อค้นหาความจริงไปแล้ว

แต่นี่ "อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน" ยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อศึกษาทางธรรมชาติ ที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้ามารับความเพลิดเพลินและเรียนรู้ทางธรรมชาติ เป็นโรงเรียนสอนทางธรรมชาติชั้นดีของประเทศไทย อย่าได้สร้างความตื่นตระหนกเพื่อหวังผลในด้านหนึ่งด้านใดเลยค่ะ

ที่กล่าวมาทั้งหมด มิใช่จะลบหลู่ดูหมิ่นใด ๆ แต่อยากให้คนไทยตั้งอยู่บนพื้นฐานของเหตุผลและความจริง ที่ควรทำการค้นหาให้กระจ่าง ไม่ใช่ตื่นตัวเพียงตอนต้น และปล่อยให้เรื่องราวต่าง ๆ เงียบหายไป โดยไม่มีการชี้แจงที่กระจ่างจากผู้เกี่ยวข้อง

เราควรใช้เหตุการณ์ดังกล่าวมาย้ำเตือนให้เห็นถึงความรักและห่วงแหนในผืนป่าของผู้ปฏิบัติงาน ความมีน้ำใจ และเสียสละของผู้อยู่ในเหตุการณ์ทุกผู้ทุกนาย ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เข้าไปให้การช่วยเหลือ หรือผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ทุกภาคส่วน ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่และสละชีวิตไปแล้ว

ลองกลับมาคิดกันนะค่ะ ว่าเราได้อะไรจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากโทษ "อาถรรพ์" ที่ไม่มีตัวตน !!!

 

ที่มา: http://www.oknation.net/blog/print.php?id=733604
Credit: http://board.postjung.com/733505.html
1 ม.ค. 57 เวลา 08:02 8,583 4 160
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...