10 สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของโลกที่กำลังจะหายไป

1. หมู่เกาะกาลาปากอส 
ระยะเวลที่เหลืออยู่ : ยังไม่แน่ใจ
สาเหตุที่กำลังจะหายไป : ระบบนิเวศถูกทำลาย 




หมู่เกาะกาลาปากอสเป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลกหลังจากที่ ชาร์ลส์ ดาร์วิน ได้ไปสำรวจและศึกษาเพื่อประกอบการคิดค้นทฤษฎีวิวัฒนาการ เกาะแห่งนี้เป็นบ้านของสัตว์กว่า 9,000 สปีชีส์ ซึ่ง 75% ของสัตว์ทั้งหมดสามารถพบได้ที่นี่ที่เดียวในโลก แต่ทุกวันนี้เกาะนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับมนุษย์ มีโรงแรม ร้านอาหาร รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เกิดขึ้นมากมายบนเกาะ จนทำให้ระบบนิเวศของหมู่เกาะกาลาปากอสถูกทำลายลงเรื่อยๆ แถมจำนวนนักท่องเที่ยวยังเพิ่มขึ้นทุกปีอีกต่างหาก 




2. มัลดีฟส์ 
ระยะเวลที่เหลืออยู่ : ไม่ถึง 100 ปี
สาเหตุที่กำลังจะหายไป : จมทะเล 




มัลดีฟส์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีพื้นที่และประชากรน้อยที่สุดในโลก แถมกว่า 80% ของจำนวนเกาะทั้งหมด 1,200 เกาะ ยังสูงกว่าระดับน้ำทะเลไม่ถึง 1 เมตร นอกจากนี้ 90% ของแนวปะการังในประเทศยังเป็นปะการังฟอกขาวไปหมดแล้วด้วย (ปะการังตายแล้วเหลือแต่หินปูนขาวซีดๆ) เมื่อปี 2008 ประธานาธิบดีของประเทศยังประกาศว่ารัฐบาลกำลังขอซื้อที่ดินจากประเทศข้างเคียงอย่างอินเดีย เพื่อรองรับประชากรชาวมัลดีฟที่จะไม่มีถิ่นที่อยู่ในอนาคต 




3. แนวปะการัง เกรท แบริเออร์ รีฟ 
ระยะเวลที่เหลืออยู่ : ไม่ถึง 100 ปี
สาเหตุที่กำลังจะหายไป : ปะการังฟอกขาว 




แนวปะการังนี้เป็นแนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นสิ่งมีชีวิตเดียวที่สามารถมองเห็นได้จากอวกาศ เพราะพื้นที่มากกว่าสหราชอาณาจักร สวิตเซอร์แลนด์และเนเธอร์แลนด์รวมกันเสียอีก ประกอบไปด้วยปะการังกว่า 350 สปีชีส์ กรมรักษาสิ่งแวดล้อมของออสเตรเลียคาดการณ์ไว้ว่าภายในปี 2070 อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นกว่า 6 องศาเซลเซียส และด้วยอุณหภูมิที่สูงขึ้น มลพิษทางน้ำ ความเป็นกรดของน้ำทะเลที่สูงขึ้น และพายุไซโคลนที่ถล่มอยู่เป็นประจำ จึงคาดว่า 60% ของปะการังที่นี่จะเผชิญกับปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวภายในปี 2030




4. เมืองเวนิส 
ระยะเวลที่เหลืออยู่ : ไม่ถึง 70 ปี
สาเหตุที่กำลังจะหายไป : จมทะเล 




หนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดในโลก และกำลังจมลงเรื่อยๆ อยู่ตลอดเวลา เพราะแต่ละปีมีจำนวนการเกิดน้ำท่วมเมืองเพิ่มขึ้น จากที่ปี 1900 มีน้ำท่วมเมืองไม่ถึง 10 ครั้ง เมื่อปี 2000 กลับมีน้ำท่วมมากกว่า 60 ครั้ง นอกจากนี้นักท่องเที่ยวก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เมืองจมเร็วขึ้น เพราะแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมากเป็น 40 เท่าของจำนวนชาวบ้าน รวมถึงปัญหาต่างๆ ในโลกที่ทำให้น้ำทะเลเพิ่มขึ้นอีกปีละ 4-6 มิลลิเมตร ทำให้ชาวเวนิสกังวลว่าบ้านของตัวเองจะยังลอยอยู่เหนือน้ำได้อีกนานเท่าไร 




5. ทะเลเดดซี 
ระยะเวลที่เหลืออยู่ : ไม่ถึง 50 ปี
สาเหตุที่กำลังจะหายไป : ได้รับน้ำจากแม่น้ำจอร์แดนลดลง 





ทะเลเดดซีเป็นสถานที่เค็มกว่าทะเลทั่วไปถึง 10 เท่า เพราะมีความเข้มข้นของเกลือสูงมากจนคนสามารถลอยบนผิวน้ำได้เลย แต่ในช่วงสี่สิบปีที่ผ่านมาทะเลสาบแห่งนี้มีความกว้างลดลงกว่าเดิมถึง 1 ใน 3 และยังมีระดับน้ำต่ำลงอีกกว่า 240 เมตร เพราะขาดน้ำจากแม่น้ำจอร์แดน เพราะแทบจะเป็นแหล่งน้ำเดียวที่ให้น้ำแก่ทะเลสาบแห่งนี้ เนื่องจากประเทศต่างๆ โดยรอบมีความเจริญขึ้น และต้องการน้ำจากแม่น้ำจอร์แดนมากขึ้นเช่นกัน ปัจจุบันทะเลเดดซีมีน้ำลึกสุดเพียง 377 เมตร และคาดว่าระดับน้ำจะยิ่งลดลงเรื่อยๆ จนกระทั่งไม่เหลือเลยในอีก 50 ปี 




6. เทือกเขาแอลป์ 
ระยะเวลที่เหลืออยู่ : ไม่ถึง 40 ปี
สาเหตุที่กำลังจะหายไป : น้ำแข็งละลาย 




เทือกเขาแอลป์ชื่อดังของยุโรปที่เต็มไปด้วยสกีรีสอร์ตสวยๆ และธารน้ำแข็งหนากว่า 60 เมตร กำลังได้รับผลกระทบจากสภาวะโลกร้อน ทุกวันนี้เรายังรู้สึกได้เลยว่าอากาศร้อนขึ้นทุกวีน แต่บนเทือกเขาแอลป์นั้นอุณหภูมิกลับสูงขึ้นเร็วกว่าที่อื่นเป็นเท่าตัว ธารน้ำแข็งบนยอดเขาทุกวันนี้ถือว่าน้อยลงกว่าเมื่อ 30 ปีที่แล้วถึง 20% ทำให้คาดการณ์กันว่าอีก 40 ปีข้างหน้าธารน้ำแข็งชื่อดังทั้งหลายจะไม่เหลืออยู่อีกเลย

7. มาดากัสการ์ 
ระยะเวลที่เหลืออยู่ : ไม่ถึง 35 ปี
สาเหตุที่กำลังจะหายไป : ป่าไม้ถูกทำลาย 




มาดากัสการ์เป็นเกาะใหญ่อันดับ 4 ของโลก 80% ของพืชและสัตว์ที่นี่ไม่สามารถพบได้ที่ไหนในโลกอีกแล้ว และยังเป็นบ้านของพวกลีเมอร์ (Lemur) อีกกว่า 20 สปีชีส์ แต่ปัจจุบันป่าไม้ของเกาะนี้ลดปริมาณลงมากจาก 120,000 ตารางไมล์ เหลือเพียง 20,000 ตารางไมล์เท่านั้น ทั้งจากการตัดไม้ เผาป่า ลักลอบทำไร่เลื่อนลอย และการรุกล้ำเข้ายึดครองพื้นที่ป่า นอกจากนี้เขตป่าสงวนยังมีพื้นที่เพียง 5% ของเกาะเท่านั้น ต่อไปมาดากัสการ์คงเหลือแต่ในภาพยนตร์การ์ตูนเท่านั้น 




8. ลุ่มน้ำคองโก 
ระยะเวลที่เหลืออยู่ : ไม่ถึง 25 ปี
สาเหตุที่กำลังจะหายไป : ป่าฝนถูกทำลาย 




ลุ่มน้ำคองโกเป็นป่าฝนที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากลุ่มน้ำอะเมซอน และมีพื้นที่ครอบคลุมถึง 7 ประเทศในทวีปแอฟริกา และยังช่วยผลิตออกซิเจนให้โลกมากถึง 40% ทว่าป่าไ้ม้กลับถูกทำลายลงถึงปีละ 250 ล้านไร่ คาดการณ์กันว่าในปี 2040 จะเหลือพื้นที่่ป่าไม้เพียง 30% เท่านั้น 




9. อุทยานแห่งชาติแกลซิเออร์ สหรัฐอเมริกา 
ระยะเวลที่เหลืออยู่ : ไม่ถึง 20 ปี
สาเหตุที่กำลังจะหายไป : น้ำแข็งละลาย 




อุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกาที่กินพื้นที่กว่า 4,000 ตารางกิโลเมตร ประกอบไปด้วยน้ำตก 200 แห่ง และทะเลสาบอีก 712 แห่ง ที่ตั้งชื่อได้เพียง 131 แห่งเท่านั้น และยังเป็นบ้านเกิดของนก 260 สายพันธุ์ พันธุ์พืชที่ระบุได้แล้ว 1,132 สายพันธุ์ และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอีก 62 ชนิด เมื่อร้อยปีก่อนอุทยานแห่งชาตินี้มีธารน้ำแข็งมากถึง 150 สาย แต่เมื่อปี 2005 พบว่าเหลือเพียง 27 สายเท่านั้น เพราะสภาวะโลกร้อนทำให้กระแสน้ำเย็นหายไปจากบริเวณนี้แล้ว และคาดว่าระบบนิเวศก็ต้องเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยเมื่อไม่มีธารน้ำแข็งเหลืออีกเลยในปี 2030




10. ทัชมาฮาล 
ระยะเวลาที่เหลืออยู่ : อาจจะ 5 ปี 



อันดับนี้มาแปลกกว่าเพื่อน เพราะไม่ใช่ธรรมชาติที่ถูกทำลาย และไม่ได้ถูกระเบิดทิ้งหายไปไหน เพียงแค่จะปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้อีกต่อไป เพราะจำนวนนักท่องเที่ยว 3-4 ล้านคนในแต่ละปี และปัญหามลพิษทางอากาศที่อินเดียกำลังเผชิญอยู่ ทำให้หินอ่อนสีขาวของสถาปัตยกรรมแห่งนี้ได้รับผลกระทบไปด้วย ทางการอินเดียจึงคิดออกกฎห้ามนักท่องเที่ยวเข้าไปชม และอนุญาตให้ถ่ายรูปได้จากที่ไกลๆ เท่่านั้น เพื่ออนุรักษ์มรดกโลกแห่งนี้ไว้ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด (แต่ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนทบทวนนโยบายนี้อยู่)
 

ที่มา: http://www.dek-d.com/studyabroad/32013/
Credit: http://www.unigang.com/Article/16844
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...