มาดูขนมญี่ปุ่นกัน

มาดูขนมญี่ปุ่นกัน เป็นขนมที่นิยมทานกันมากในญี่ปุ่น รวมทั้งนิยมซื้อเป็นของฝากด้วย

Tokyo Banana Nokurobe (東京ばな奈の黒ベエ)

เค้กฟองน้ำรสโกโก้ที่ห่อหุ้มครีมคัสตาร์ดรสกล้วย มีรสเข้มข้นและขมนิด ๆ

Youkan (羊羹)

ขนมเก่าแก่ทำจากถั่วแดงและวุ้น มีหลายประเภท

Imo Youkan (芋羊羹)

ส่วนผสมจะมีแค่มันเทศ น้ำตาลและเกลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และไม่ใช้สารกันบูดหรือสารให้ความหอมใด ๆ ทั้งสิ้น

Goma Tamago (ごまたまご)

แป้งเค้ก Castella ที่ห่อหุ้มงาดำกวน แล้วก็เคลือบด้วยช็อกโกแลตขาวอีกที จากนั้นก็ปั้นให้เหมือนกับไข่

Age Manju (揚げ饅頭)

เหมือนกับซาลาเปาทอดบ้านเรา แต่เป็นไส้ถั่วแดง

Komekome Senbei (こめ米せんべい)

ขนมเซมเบ้ ที่มีส่วนผสมของอัลมอนด์และข้าว มี 2 รสชาติ คือข้าวขาวและข้าวแดง

Dorayaki (どらやき)

ขนมเก่าแก่ที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีว่าเป็นของว่างของโดราเอมอน ทำจากแป้งเค้ก Castella ผสมกับน้ำผึ้ง บวกกับไส้ถั่วแดงที่ทั้งหอมและหวาน

Karinto (かりんとう)

ขนมเก่าแก่ที่ทำจากแป้งสาลีที่ปั้นเป็นแท่งเล็ก ๆ แล้วนำไปทอด และเคลือบด้วยน้ำตาล

Ningyo Yaki (人形焼)

ทำจากแป้งเค้ก Castella ไส้ถั่วแดง รูปร่างหน้าตาเป็นรูปการ์ตูนน่ารัก

Kaminariokoshi (雷おこし)

ข้าว ธัญพืชทอดกรอบกับน้ำตาล

Tokyo Banana Mitsuketa (東京ばな奈「見ぃつけたっ」)

ขนมยอดนิยมตลอดกาลของโตเกียว ทำจากเค้กฟองน้ำนุ่มๆ ที่ห่อหุ้มครีมคัสตาร์ดรสกล้วยที่ทั้งหอมและหวาน

Akafuku (赤福)

ขนมดั้งเดิม เป็นขนมโมจิไส้ถั่วแดงที่มีรสหวาน คนญี่ปุ่นจะนิยมกินกับชาเชียว และถือว่าเป็นขนมมงคลด้วย

เอบิเซมเบ้ (ข้าวเกรียบรสกุ้ง)

นอกจากข้าวเกรียบรสกุ้งแล้ว ยังมีรสลูกพลัม รสวาซาบิ หรือข้าวเกรียบกุ้งที่มีส่วนผสมของปลาหมึกอีกด้วย แต่ที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษดูจะเป็นชุดข้าวเกรียบที่มีข้าวเกรียบรสยอดนิยมทั้ง 5 ชนิดรวมอยู่ด้วยกัน

Tako Yaki (たこ焼き)

ปลาหมึกชิ้นใหญ่ๆ รวมไปถึงเนื้อแป้งอันนุ่มนิ่ม พบได้ทุกหนทุกแห่ง แต่ของโอซาก้านับว่าอร่อยที่สุดทีเดียว

Haginotsuki (萩の月)

รสชาติจะเป็นแนวสอดไส้ครีมคัสตาร์ดรสหวานกำลังพอเหมาะ

Choko Sosu Shu (チョコソースシュー)

ชูครีม ส่วนผสมที่ลงตัวของครีมสดที่ทำมาจากนมของฮอกไกโด กับช็อกโกแลตที่มีรสชาติไม่หวานจนเกินไป

Marusei Butter Sando (マルセイバターサンド)

บิสกิตแบบนิ่มๆ สอดไส้ด้วยครีม White Chocolate และลูกเกด

Momiji Manju (もみじまんじゅう)

ซาลาเปาไส้ถั่วแดงที่คนญี่ปุ่นนิยมทานกับน้ำชา หรือชาเขียวที่ขมๆ

Shiroi Koibito (白い恋人)

คุ้กกี้สอดไส้ White Chocolate ซี่งเนื้อคุ้กกี้จะถูกอบด้วยความเกรียมที่กำลังพอดี บวกกับ White Chocolate ที่ทำจากน้ำนม

KitKat Uji-Matcha (คิทแคทชาเขียว)

เกิดจากการนำผงชาเขียวผสมลงในช็อกโกแลต บ่งบอกถึงความเป็นญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี

Uirou (ういろう)

ขนมดั้งเดิม คล้ายๆ ขนมเข่งสีแดงของคนไทยมากๆ การกินนั้นต้องกินแบบร้อนจะอร่อย โดยขนมนี้จะทำมาจากแป้งข้าวเจ้าที่นำไปนึ่ง รสหวานอ่อน ๆ นุ่ม ๆ มีทั้งรสน้ำตาลขาว น้ำตาลดำ ถั่วแดง และชาเขียว

Gougouichi no Butaman (551の豚まん)

ซาลาเปาไส้หมูบดรวมกับหอมหัวใหญ่ เป็นซาลาเปาที่เรียกว่า ดังที่สุดในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เป็นขนมขึ้นชื่อของโอซาก้า

“โอะทาเบะ”

ทำำมาจากการนำถั่วแดงบดอันเลื่องชื่อของเกียวโตมาห่อด้วยนามะยัทสึฮาชิ (แป้งแผ่นบาง) นอกเหนือจากไส้ถั่วแดงแล้วยังมีไส้ช็อคโกแลตด้วย

Trappist Cookie (トラピストクッキー)

เป็นคุ้กกี้เนย นมรสชาติละมุนละไม ที่เล่าขานกันว่านักบวชจากโบสถ์ Trappist เป็นผู้ปรุงขึ้น ตั้งแต่สมัยโชวะที่ 11 (ปี 1937) และได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน โดยที่กรรมวิธีในการผลิตยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง

Karashi Mentaiko (辛子明太子)

ขนมชิ้นนี้เป็นการนำไข่ปลาคอตไปหมักกับเกลือแล้วปรุงรสเผ็ดด้วยพริก ที่จริงเหมาะจะเป็นอาหารคาวมากกว่าอาหารหวาน คนญี่ปุ่นนิยมกินแกล้มเหล้าหรือเบียร์

Yamaoyaji (山親爺)

เป็นขนมเซมเบ้นมชั้นดี ที่ทั้งหอมและหวานด้วยส่วนผสมของนม เนย แล้วก็ไข่

Cheese Omelette (チーズオムレッ)

ชีสเค้กที่มีลักษณะเนื้อเค้กฟู เป็นขนมยอดนิยมของฮอกไกโด ใช้วัตถุดิบในฮอกไกโดล้วนๆ ทำสดใหม่ทุกวัน

Monasuku (モナスク)

ทำโดยเอาแป้งของ Monaka (แป้งแผ่นบาง ๆ ของขนมญี่ปุ่น) มาประกบกับขนมปัง Shortbread

Dango (団子)

ขนมโบราณ มักจะเป็นก้อนแป้งข้าวจ้าว เสียบไม้ไผ่ นำไปย่างไฟอ่อนๆ หรือจะไม่ย่างก็ได้ แล้วราดหน้าด้วยรสต่างๆ เช่น น้ำเชื่อมโชหยุ ถั่วแดงบดกวน มิโซะหวาน ถั่วแระกวน หรือห่อด้วยสาหร่าย และยังมีฮานามิดังโงะ (ดังโงะสามสี คือ ชมพู ขาว เขียว) ด้วย

Daifuku : 大福

เป็นขนมโมจิชนิดหนึ่ง ปั้นแป้งเป็นก้อนกลมสอดใส้ถั่วแดงบด แป้งเหนียว ๆ เข้ากับไ้ส้ได้กลมกลืนมาก

Jaga Pokkuru (じゃがポックル)

รูปร่างเหมือนมันฝรั่งแท่งทอดกรอบทั่วไป แต่รสชาตินั้นแตกต่างจริงๆ

Ganpeki Ame (岩壁飴)

ลูกอมที่คนญี่ปุ่นนิยมซื้อเป็นของฝากจากแห่งท่องเที่ยวชื่อดังของฮอกไกโด เป็นลูกอม 3 รส (นม ช็อกโกแลต ชาเขียว) ถูกออกแบบให้มีลักษณะเหมือนกับก้อนหินบนภูเขา

ที่มา : http://www.marumura.com/top_japan/?id=2472, http://shiawase31.exteen.com/20111018/entry,http://travel.mthai.com/travel_tips/57682.html, http://www.pantown.com/board.php?id=13261&name=board2&topic=3&action=view และhttp://www.toptenthailand.com/280-top.html