…..เมื่อห้าร้อย กว่าปีก่อน อันเป็นรัชสมัยของพระเจ้าติโลกราช กษัตริย์แห่งนครพิงค์เชียงใหม่ อาณาจักรล้านนาได้เรืองอำนาจจนขึ้นสู่จุดสูง สุด เป็นที่เลื่องลือไปในบรรดาแว่นแคว้นใหญ่น้อยใกล้เคียง จนแม้กระทั่งมหาอาณาจักรจีนยังได้บันทึกไว้ถึงความเกรียงไกรของล้านนาภายใต้การปกครองของจอมราชันย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งแดนเหนือ พระองค์นี้เอาไว้
…..พระเจ้าติโลกราช ทรงเป็น กษัตริย์พระองค์ที่เก้า แห่งราชวงศ์เม็งราย ผู้ปกครองนครพิงค์เชียงใหม่ ทรงมีพระนามเดิมว่า เจ้าลก เสด็จพระราชสมภพเมื่อ พ.ศ. 1952 ทรงเป็นพระโอรสองค์ที่ 6 ของพระเจ้าสามฝั่งแกน ครั้นเมื่อพระองค์ทรงเจริญพระชันษาถึงกาลสมควร พระราชบิดาก็ทรงโปรดให้ไปครองเมืองพร้าววังหิน(ปัจจุบันคือ อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่)ต่อมาเกิดราชการสงครามขึ้น ทัพของเจ้าลกยกไปสมทบพระราชบิดาช้า พระเจ้าสามฝั่งแกนจึงลงพระราชอาญา เนรเทศให้เจ้าลกไปครองเมืองยวมใต้(อำเภอแม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอนในปัจจุบัน) ต่อมามีอำมาตย์คนหนึ่งชื่อ สามเด็กย้อย คิดเอาราชสมบัติให้เจ้าลก จึงได้ซ่องสุมกำลังและลอบไปรับเจ้าลกจากเมืองยวมใต้มาไว้ที่เชียงใหม่ ในขณะที่พญาสามฝั่งแกนได้แปรพระราชฐานไปอยู่ที่เวียงเจ็ดริน เชิงดอยสุเทพ หลังจากนั้นกลุ่มผู้ก่อการก็ยกกำลังไปเผาเวียงเจ็ดรินแล้วจึง บังคับให้พระเจ้าสามฝั่งแกนสละราชย์ จากนั้นจึงไปกราบทูลเชิญเจ้าลก มาขึ้นเป็นพระเจ้าเชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 1985 โดยทรงมีพระนามว่า พระมหาศรีสุธรรมติโลกราช เมื่อทรงมีพระชนมายุ 32 พรรษา ส่วนพระราชบิดานั้น พระเจ้าติโลกราชทรงโปรดให้ไปประทับอยู่ที่เมืองสาดในรัฐฉาน ประเทศพม่า และปูนบำเหน็จความชอบสามเด็กย้อยเป็น “เจ้าแสนขาน” แต่อยู่มาได้เพียง 1 เดือน 15 วัน เจ้าแสนขานก็คิดก่อการเป็นกบฎอีก พระเจ้าติโลกราช จึงให้หมื่นโลกนคร พระเจ้าอาของพระองค์ ผู้ครองเมืองลำปาง เข้าจับตัวเจ้าแสนขานไปคุมขังแต่ไม่ให้ทำร้าย เมื่อพ้นโทษได้ลดยศเป็น หมื่นขาน และให้ไปครองเมืองเชียงแสน หลังขึ้นครองราชย์ พระองค์ทรงมีชัยชนะเหนือกองทัพอโยธยาของพระบรมราชาธิราช(เจ้าสามพระยา)ที่ยก มารุกราน จากนั้นจึงทรงขยายแสนยานุภาพไปยึดครองเมืองน่านและเมืองแพร่ได้สำเร็จ ทำให้เชียงใหม่สามารถรวมดินแดนทั้งหมดในล้านนาให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้ ก่อนจะขยายอาณาเขตต่อไปถึงแคว้นเชียงรุ่งสิบสองปันนา แคว้นเชียงตุงและหัวเมืองไทใหญ่ทั้งสิบเอ็ดหัวเมืองในเขตรัฐฉานทางภาคตะวัน ออก รวมทั้งยังแผ่อำนาจเข้าครอบงำอาณาจักรล้านช้าง อีกทั้งยังทำสงครามได้ชัยชนะเหนือกับกองทัพจีนจากมณฑลยูนนานที่ยกมารุกราน ล้านนาอีกด้วย
…..ใน ปี พ.ศ.1994 พญาสองแคว ยุทธิษเฐียร ได้แปรภักดิ์จากอโยธยามาขอสวามิภักดิ์ต่อล้านนา ครั้น เมื่อทางอโยธยาทราบเรื่อง จึงยกทัพมาตี เมืองสองแคว ทว่าพญาสองแควได้อพยพผู้คนมาพึ่งพระเจ้าติโลกราช และจากนั้น สงครามระหว่างเชียงใหม่กับอโยธยาก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง
…..ต่อมา ทางอโยธยาได้วางอุบายส่งไส้ศึกมาสร้างความปั่นป่วนในเมืองเชียงใหม่ โดยส่งพระเถระจากภุกามลอบเข้ามากระทำให้พระเจ้าติโลกราชเลื่อมใสและหลอกให้ ทรงตัดไม้นิโครธ อันเป็นศรีเมือง จนทำให้เชียงใหม่เกิดเรื่องวุ่นวายถึงขั้นที่พระเจ้าติโลกราชได้สั่งให้ ประหาร ท้าวศรีบุญเรือง พระโอรสองค์เดียวของพระองค์ด้วยข้อหากบฏ และยังสั่งประหาร เจ้าหลวงหมื่นด้งนคร แม่ทัพใหญ่คู่บัลลังก์ ด้วยทรงเกิดระแวงว่า หมื่นด้งจะแปรภักตร์ไปเข้ากับอโยธยา เหตุการณ์วุ่นวายทั้งหลายนี้ทำให้กองทัพเชียงใหม่อ่อนแอลง เป็นโอกาสให้ฝ่ายอโยธยาสามารถชิงเอาเมืองเชลียงกลับคืนไปได้ในปี พ.ศ.2017 และในปีต่อมา ล้านนาและอโยธยาก็ได้เจรจาสงบศึกกัน หลัง สงครามกับอโยธยายุติลง พระเจ้าติโลกราชได้ทรงหันมาใฝ่พระทัยในทางศาสนา โดยทรงโปรดให้สร้างวัดวาอารามเป็นอันมาก และที่สำคัญคือ ทรงโปรดให้ทำสังคายนา พระไตรปิฎกในปี พ.ศ.2020 ณวัดเจ็ดยอด อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นการสังคายนา ครั้งที่8 ของโลก
…..ลเข้าปี พ.ศ.2023 เวียตนามยกทัพใหญ่มารุกรานล้านช้างและเมืองน่านที่เป็นประเทศราชของล้านนา พระเจ้าติโลกราชจึงทรงยกทัพไปปราบปรามและสามารถตีทัพใหญ่รี้พลสี่แสนนายของ เวียตนามจนแตกพ่ายยับเยิน ชัยชนะในครั้งนี้ ทำให้ทางจีนที่เป็นคู่ศึกกับเวียตนามในเวลานั้น ได้ยกย่องพระองค์ให้เป็นราชันย์ผู้พิชิตแห่งตะวันตกโดยให้มีฐานะรองลงมาจาก องค์ฮ่องเต้ นอกจากนั้นฮ่องเต้แห่งราชวงศ์หมิงของจีนยังทรงพระราชทานเครื่องยศและทองคำ จำนวนมากมามอบให้พระเจ้าติโลกราชเพื่อเป็นพระเกียรติอีกด้วย
…..พระเจ้าติโลกราช เสด็จสวรรคตในปี พ.ศ.2030 พระชนมายุ 78 พรรษา ครองราชย์รวมทั้งสิ้น 46 ปี หลังจากนั้นพญายอดเชียงราย พระนัดดาของพระองค์ได้ขึ้นครองราชย์สืบต่อ