19 ที่เที่ยวในเมืองไทย แต่เหมือนไปเมืองนอก บทความของ คุณตงตง
‘เมืองไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก’ คำนี้มันใช้ได้จริงๆนะจ้ะ เมืองไทยของเราแพ้ใครซะที่ไหน ทั้งวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ค่าครองชีพ อาหารการกิน รวมถึงสถานที่เที่ยวก็มีให้เลือกเยอะแยะไม่หวาดไม่ไหว ใครอยากเที่ยวแบบไหน พี่ไทยเรามีให้หมด แต่ถ้ารู้สึกว่า ‘ในชีวิตนี้อยากจะไปเมืองนอกกับเค้ามั่ง แต่ไม่มีตังค์ซะนี่!’ ฟังทางนี้ให้ดี! ตงตง♥จะทำความฝันของคุณให้เป็นจริง พาคุณไปเที่ยวกันในธีมที่มีชื่อว่า ‘เที่ยวเมืองไทยเหมือนไปเมืองนอก’ ทริปเที่ยวเมืองไทยสุดคุ้มสบายกระเป๋า แต่ได้ฟิลลิ่งและบรรยกาศคล้ายเมืองนอกเป๊ะ! จะมีที่ไหนบ้างน้า? อยากรู้มาดูกันเล้ย!
1. อินเดียในเมืองไทย: มัสยิดกลาง ถนนลพบุรีราเมศวร์ จังหวัดสงขลา
สำหรับคนที่หลงใหลในเสน่ห์ของทัชมาฮาล อนุสาวรีย์แห่งความรักในอินเดีย ลองล่องใต้ลง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คุณจะได้พบกับ ‘มัสยิดกลาง’ ที่ถอดแบบจากวิหารทัขมาฮามาลมาได้อย่างเหมือนเป๊ะ! ถึงแม้จะไม่ใช่อนุสรณ์แห่งความรักเหมือนต้นฉบับ แต่ที่นี่ก็เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจของชาวไทยมุสลิมทุกคน
2. มัลดีฟส์ในเมืองไทย: เกาะพยาม จังหวัดระนอง
ถ้าพูดถึงทะเล ร้อยทั้งร้อยต้องยกให้ ‘มัลดีฟส์’ เป็นอันดับต้นๆอย่างแน่นอน แต่ก็นะ...ที่สวยๆแบบนี้ราคาก็ต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว ซึ่งหากคุณกำลังทรัพย์จางล่ะก็...ลองมาที่นี่แทนดูมั้ยคะ ‘เกาะพยาม’ จังหวัดระนอง ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘มัลดัฟส์เมืองไทย’ เลยทีเดียวนะ เพราะน้ำทะเลสีเขียวสะอาดใสเหมือนกระจก รอบล้อมด้วยรีสอร์ทที่ตั้งอยู่กลางทะเลในบรรยากาศแบบธรรมชาติสุดๆ จำลองมาจากมัลดีฟส์ทุกกระเบียดนิ้วขนาดนี้ จะไม่ให้กด Like ยังไงไหว
3. ญี่ปุ่นในเมืองไทย: Hako Town - เลียบทางด่วนรามอินทรา
สาวกอาหารญี่ปุ่นห้ามพลาด! ‘Hako Town’ ฟู้ดคอร์ทย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา ที่ยกเอาบรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นขนานแท้ผสมกับทิวทัศน์ร่วมสมัยมาให้คนไทยสัมผัสกันถึงแก่น รวบรวมร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่น ร้านต้นตำรับแห่งแรกในประเทศไทย เมืองญี่ปุ่นขนาดย่อมแห่งนี้มีไว้ให้คุณที่นี่แล้วค่ะ ทั้งอิ่มท้อง อิ่มตา อิ่มบรรยากาศเจเปนจริงจริ๊ง
4. สวิตเซอร์แลนด์ในเมืองไทย: Swiss Sheep Farm – ชะอำ
ถ้านึกถึงประเทศสวิสเซอร์แลนด์ สถานที่ในเมิองไทยที่ตอบโจทย์ได้มากที่สุดต้องยกให้ที่นี่เลยค่ะ ‘Swiss Sheep Farm’ ฟาร์มแกะสุดน่ารักน่าเอ็นดูในเมืองชะอำ ด้วยทำเลท่ามกลางธรรมชาติเขียวชอุ่ม โอบล้อมด้วยทิวเขาซับซ้อน ได้อารมณ์โรแมนติกเป็นอย่างดี แถมยังมีน้องแกะวิ่งเล่น ขี่ม้าชมวิว ก็สร้างความสนุกได้ไม่น้อย ไฮไลท์อีกอย่างที่ไม่ควรพลาด ‘คล้องกุญแจแห่งรัก’ เล่ากันว่าถ้าใครมาคล้องร่วมกันล่ะก็ จะสามารถครองรักกันได้นิรันดร์เลยล่ะค่ะ!
5. ฮ่องกงในเมืองไทย: Asiatique The River Front – ถนนเจริญกรุง
ใครที่เคยไปเที่ยวฮ่องกง ไฮไลท์ที่สุดคงต้องยกให้สีสันในยามค่ำคืนที่กว่า 44 อาคารริมอ่าว Victoria ต่างพร้อมใจกันปล่อยแสงไฟสลับกันไปสลับมา ซึ่งถ้าจะหาแบบนี้ที่เมืองไทยต้องที่นี่เลย ‘Asiatique The River Front’ ที่พอจะสู้กับเค้าได้หน่อย ถึงแม้จะไม่จัดจ้านเท่าต้นตำรับ แต่ก็ฟิลลิ่งคล้ายกัน ให้คุณหยุดทอดน่องริมแม่น้ำเจ้าพระยาชมวิวยามค่ำคืน สวยงามไม่ใช่เล่นเหมือนกันแหละค่ะ
6. กัมพูชาในเมืองไทย: ปราสาทสัจธรรม - พัทยา
‘ปราสาทสัจธรรม’ สถาปัตยกรรมงานไม้แกะสลักที่ใหญ่ที่สุดในโลกในเมืองพัทยา ดันไปคล้ายกับ ‘นครวัด’ มรดกทางวัฒนธรรม 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในประเทศกัมพูชาซะนี่! ใครที่เคยไปมาทั้งสองที่ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ได้กลิ่นอายความรู้สึกคล้ายกันมาก อาจเป็นเพราะทั้งสองแห่งได้สะท้อนเรื่องราว ศาสนา รายละเอียดในด้านศิลปกรรม งานปั้นและการแกะสลักเทวรูปต่างๆ ที่เป็นสัญลักษณ์ให้นักท่องเที่ยวต่างจดจำได้เป็นอย่างดีก็ได้มั้ง
7. เม็กซิโกในเมืองไทย: Pather Creek Resort – อ.ปากช่อง
หากอยากสัมผัสความเป็นคาวบอยสไตล์เม็กซิกันให้ถึงแก่น ไม่ต้องบินไปไกลถึงเม็กซิโกหรอกค่ะ แค่ขับรถมาอ.ปากช่อง จังหวัดนครราชสีมาก็พอ ตรงดิ่งมาด่วนเร็วที่ ‘Pather Creek Resort’ รีสอร์ทสบายๆที่จำลองบรรยากาศของเมืองสไตล์ตะวันตกยุค Indian-Cowboy มาไว้อย่างเต็มรูปแบบ แถมยังมีบริการต่างๆไว้เอาใจนักท่องเที่ยวมากมายทั้ง เช่าชุดคาวบอยถ่ายภาพเท่ห์ๆ รับจัดงานอีเว้นท์ งานปาร์ตี้ หรือนอนพักค้างคืนแบบคาวบอยในบรรยากาศธรรมชาติร่มรื่นที่รายรอบก็ยังมีนะคะ
8. จีนในเมืองไทย: ศาลเจ้าหน่าจาไท้จื้อ จังหวัดชลบุรี
แค่ก้าวเข้าสู่วิหารก็ช็อคเลยค่ะ เหมือนอยู่เมืองจีนยังไงยังงั้น ‘ศาลเจ้าหน่าจาไท้จื้อ’ ตรึงใจนักท่องเที่ยวทุกคนด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ไชน่าสุดวิจิตรตระการตา ทั้งมังกรน่าเกรงขามพันรอบเสาทุกต้น แถมเป็นวิหารขนาดใหญ่ 4 ชั้น แต่ละชั้นประดิษฐานของทวยเทพต่างๆ นักท่องเที่ยวนิยมมากราบไหว้เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล ได้อิ่มบุญแถมยังอิ่มตากับการตกแต่งในสไตล์จีนสุดเริ่ดอลังการยังงี้อีก ดีจริงๆเลยเนอะ
9. อิตาลีในเมืองไทย: Palio อ.ปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
‘Palio’ Landmark แห่งเขาใหญ่ที่สีสันเจ็บจี๊ด จำลองมาจากหมู่บ้านทัสคานี ประเทศอิตาลี ทั้งสวนหย่อมสไตล์อิตาลีแท้ๆ บรรยากาศสุดชิลล์ น้ำพุเก๋ๆไว้โพสต์ท่าถ่ายรูป หอชมวิวเขาใหญ่สุดลูกหูลูกตา ลั่นล้ากับร้านขายของนานาชนิด หรือพักผ่อนใน Boutique Hotel ก็ได้ทั้งนั้น คือถ้ามาแล้วก็อาจจะงงๆนิดหน่อย เพราะทางเดินอาจจะซับซ้อนไปนิด แต่ก็สามารถเดินทะลุถึงกันได้หมดแหละค่ะไม่ต้องกังวล
10. กรีซในเมืองไทย: Santorini park – ชะอำ
ใครที่มาแล้วต้องยกนิ้วให้ทุกราย ‘Santorini Park’ อ.ชะอำเค้ากินขาดในด้านความครีเอทจริงๆค่ะ เพราะจำลองบรรยากาศเมืองซานโตรินี่ ประเทศกรีซไว้ได้อย่างเป๊ะมาก สถาปัตยกรรมโทนฟ้าขาว แจมด้วยสีสันเล็กๆพอเรียกความสดชื่น แถมยังเอาใจนักท่องเที่ยวด้วยสวนสนุก แหล่งช้อปปิ้ง และร้านอาหารชั้นนำไว้ให้เลือกกันตามใจชอบเลยค่ะ
11. ทะเลทรายซาฮาร่าในเมืองไทย: หาดหงส์ จังหวัดอุบลราชธานี
พื้นที่กว้างใหญ่เหมือนกำลังอยู่ในทะเลทรายซาฮาร่า ทางตอนเหนือของแอฟริกา ‘หาดหงส์ แก่งสามพันโบก’ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นทะเลทรายกว้างใหญ่ซึ่งเกิดจากการพัดพาของน้ำและตะกอนทรายมาทับถมกัน เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งที่น่าไป ไฮไลท์ของที่นี่ต้องยกให้ ช่วงเวลาพระอาทิตย์กำลังตกในยามเย็น ยลโฉมความสวยงามจากแสงทองๆ ที่ส่องลงกระทบทรายสีขาวระยิบระยับประทับใจผู้คนมากๆค่ะ
12. ภูฏานในเมืองไทย: วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว จังหวัดเพชรบูรณ์
‘ภูฏาน’ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่พุทธศาสนิกชนทุกคนต่างอยากไปเยือน แต่ด้วยเส้นทางการเดินทางที่แสนลำบาก ก็อาจทำให้ท้อใจ ขอบอกว่า ไม่ต้องถ่อไปไกลถึงที่นั่นหรอกค่ะ เพราะเมืองไทยของเราก็มีภูฏานขนาดย่อมๆ ไว้ให้เราชื่นชมอยู่เหมือนกันค่ะ ณ ‘วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว’ ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงกว่า 900 เมตร นอกจากจะชมวิวทิวทัศน์เขียวชอุ่มได้แบบ 360 องศาแล้ว ยังมีสถาปัตยกรรม ศิลปะอันงดงามคล้ายคลึงกับ วัดทักซังหรือวัดรังเสือ ของประเทศภูฏานยังกับแกะแหน่ะ
ไฮไลท์ของที่นี่คือ ถ้ำที่อยู่ปลายยอด ชาวบ้านหลายคนเห็นลูกแก้วลอยเหนือฟ้าแล้วหายลับเข้าไปในถ้ำ จึงเป็นที่เชื่อกันว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมา ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่มงคล ศักดิ์สิทธิ์ ใครผ่านไปผ่านมาก็ต้องลงมาสักการะบูชาทั้งนั้น
13. นครรัฐวาติกันในเมืองไทย: อาสนวิหารอัสสัมชัญ บางรัก
เพียงก้าวแรกที่ได้เข้ามา ก็คล้ายถูกสะกดด้วยความสวยงามแบบสถาปัตยกรรมสไตล์เรเนอซองส์ ทั้งผนัง เพดาน ปะติมากรรมปูนปั้น ที่แสดงเรื่องราวความเชื่อทางศาสนาคริสต์ ‘โบสถ์อัสสัมชัญ บางรัก’ ดูช่างคล้ายกับมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ในนครรัฐวาติกันจริงๆเลยล่ะค่ะ ด้วยอายุที่เก่าแก่ถึง 200 ปี โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อรองรับการขยายตัวของคริสต์ศาสนิกชนที่เพิ่มมากขึ้น ถูกใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่างๆ หรือใช้จัดเป็นสถานที่ wedding ก็งดงามที่สุดที่นึงเลยล่ะ
14. พุทธคยาในเมืองไทย: วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ จังหวัดนครสวรรค์
เมื่อกี้เราพูดถึงศาสนาคริสต์กันไปแล้ว มาที่ศาสนาประจำชาติของเราบ้างดีกว่า หากเราพูดถึงพุทธสถานที่สำคัญที่สุด 1 ใน 4 แห่งต้องยกให้ ‘พุทธคยา’ ในประเทศอินเดีย เนื่องจากเป็นสถานที่ตรัสรู้ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นจุดหมายปลายทางของนักแสวงบุญทั้งหลายทั่วโลกที่อยากมาสักการะสักครั้ง แต่สำหรับชาวพุทธในเมืองไทย ไม่ต้องไปไกลถึงอินเดียแล้วค่ะ มาที่ ‘วัดพระพี่นาง’ หรือ 'วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์' จังหวัดนครสวรรค์ก็เหมือนกันเลย
นอกจากจะจำลองพุทธคยาที่อินเดียมาได้เหมือนแล้ว รายละเอียดยังดูงดงามไม่แพ้ต้นตำรับ ทั้งสถาปัตยกรรมสไตล์อินเดีย บริเวณโดยรอบ ทางเดินขึ้น รวมถึงเสาของพระเจ้าอโศกมหาราชที่สร้างไว้ ณ สวนลุมพินีวัณ สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้าก็เก็บดีเทลได้ครบ ชั้นบนประดิษฐานพระศรีอริยเมตตรัย ส่วนชั้นล่างเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธเมตตา
15. เกาะนามิในเมืองไทย: สวนสนบ่อแก้ว จังหวัดเชียงใหม่
แฟนละครซีรี่ย์เกาหลีห้ามพลาด! ใครที่อยากอินกระแส ‘เกาะนามิ’ เกาะสวรรค์แดนกิมจิต้องมาเยือนที่นี่! ‘สวนสนบ่อแก้ว’ สวนทิวสนที่ตั้งเรียงรายสุดสายตาในจังหวัดเชียงใหม่ สถานที่ท่องเที่ยวไม้ตายที่ทุกทัวร์ต้องมาลง สัมผัสความเขียวชอุ่ม อากาศแสนสดชื่นจากภูเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเลว่า 1,100 เมตร ชมทิวสนกว่าร้อยต้นเรียงกันยาวเหยียด ตากล้องต้องไม่พลาดแชะภาพแจ่มๆกลับไปดูเล่นแน่นอนค่ะ เพราะบอกตรงๆเลยว่า ที่นี่ก็โรแมนติกไม่แพ้เกาหลีหรอก!
16. ทะเลสาปอินเลในเมืองไทย: อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
‘ทะเลสาปอินเล’ ประเทศพม่า เป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวระดับ World Class ที่ใครๆก็อยากจะลองไป เพราะด้วยวิถีชีวิตของชุมชนที่อาศัยอยู่บนน้ำ ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม จึงกลายเป็นเสน่ห์ที่แปลกตา ไม่ซ้ำใคร! ความจริงจะว่าอย่างนั้นก็ไม่ถูกเพราะที่เมืองไทยของเราก็มีทะเลสาปอินเลกับเค้านะ ตั้งอยู่ที่ ‘อ.สังขละบุรี’ จังหวัดกาญจนบุรี อำเภอเล็กๆติดชายแดนพม่า ที่มีวิถีชีวิตกลางน้ำ สบายๆ ไม่รีบร้อน เป็นที่อยู่ของชาวไทย กะเหรี่ยงและมอญ ไฮไลท์ของที่นี่ต้องยกให้ ‘สะพานมอญ’ สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย (ประมาณ 1 กิโลเมตร) สร้างขึ้นเพื่อให้ชาวบ้านสัญจรไปมาหาสู่กันได้สะดวกขึ้นค่ะ
17. กุ้ยหลินในเมืองไทย: เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฏร์ธานี
คำว่า ‘สวรรค์บนพื้นพิภพ’ เป็นนิยามที่นักท่องเที่ยวทุกคนพร้อมใจกันยกให้ ’กุ้ยหลิน’ แห่งมณฑลกวางซี ประเทศจีนอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะด้วยขุนเขาที่เขียวขจี สายน้ำใสดุจกระจก ภูเขาหินแปลกตานับหมื่นยอด ก็คงยากที่จะปฏิเสธถึงความงดงามตรึงใจ แต่หารู้ไม่ว่า ที่เมืองไทยก็มีกับเค้าเหมือนกันนะจ้ะ ‘เขื่อนรัชชประภา’ ในอุทยานเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี สวยงามไม่แพ้ใครเหมือนกัน ทั้งภูเขาหินสูงชันล้อมรอบผืนน้ำสีเขียวมรกต วิวทิวทัศน์ที่สวยงามเกินบรรยาย ทำให้นักท่องเที่ยวต่างพากันมาดื่มด่ำความสุขกับแบบใกล้ชิด จนได้รับการขนานนามกันว่าเป็น ‘กุ้ยหลินเมืองไทย’ เลยล่ะค่ะ
18. โมร็อคโคในเมืองไทย: Villa Maroc Resort – ปราณบุรี
‘Villa Maroc Resort’ รีสอร์ทแสนเก๋ในปราณบุรี ถูกตกแต่งในสไตล์โมร็อคโคทุกรายละเอียด นักท่องเที่ยวที่ไปพักทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เหมือนกำลังหลงเข้ามาในโมร็อคโคจริงๆ เพราะนอกจากจะสวยงามถอดแบบต้นฉบับมาเป๊ะแล้ว หาดทรายขาวเงียบสงบที่ติดกับตัวรีสอร์ทกว่า 153 เมตรก็ทำให้รู้สึกหลงใหล ได้อารมณ์ และเป็นเอกลักษณ์สุดๆ เชื่อว่าใครที่เคยได้มาแล้วต้องหาโอกาสพิเศษพาคนรู้ใจกลับมาเยือนอีกอย่างแน่นอน
19. เวนิสในเมืองไทย: The Venezia หัวหิน
ความเป็นเอกลักษณ์ที่ยากจะเลียนแบบของอิตาลีอาจจะถูกสั่นคลอน เพราะ ‘The Venezia หัวหิน’ ของเราถอดแบบเมืองเวนิช ประเทศอิตาลีได้เหมือนอะไรอย่างนี้ โดยนำเอาความโดดเด่นจากต้นฉบับทั้ง ทิวทัศน์เลียบแกรนด์คาแนลที่ยาวกว่า 200 เมตร การล่องเรือกอนโดล่า จัตุรัสเซ็นต์มาร์ค หอระฆังสัญลักษณ์ประจำเมืองเวนิส หอคอยชมวิวสูงกว่า 23 เมตร และปะติมากรรมสไตล์อิตาลี ที่ดีไซน์ออกมาได้อย่างลงตัวสุดๆ เชื่อว่าใครที่ฝันอยากเที่ยวอิตาลี ลองมาที่นี่ดูก่อนสิคะ ไม่ต้องเสียค่าเครื่องบินไปไกลถึงนู่นก็ได้ฟิลลิ่งเหมือนกันแหละ
เอาเป็นว่า...สถานที่เที่ยวในไทย แต่เหมือนไปเมืองนอกทั้ง 19 ที่นี้ เพื่อนๆลองไปเที่ยวดูนะคะ รับรองได้อารมณ์เหมือนไปเที่ยวรอบโลกยังไงยังงั้นเลย แต่ว่า...ฮัลโหล๊ ขอโทษนะจ้ะ นี่อยู่แค่เมืองไทยเองค่า สบายใจ สบายกระเป๋า ไม่เปลืองสตางค์ แถมยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศอีกด้วยน้า รู้อย่างงี้แล้วอย่ารอช้า...วันหยุดยาวที่จะถึงนี้ ไปเที่ยวกันเถอะนะวัยรุ่น!