เรื่องราวของ "อัจฉริยะบุรุษผู้ไม่เต็ม บาท" ที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นตัวอย่างอันดีที่สุด ของความมหัศจรรย์ทางจิต ที่มนุษย์ บางคนได้รับเป็นพิเศษ ด้วยวิธีการลึกลับ ไม่มีใครล่วงรู้ได้ ด้วยวิชาการทันสมัยใดๆ ทั้งสิ้น
เมื่อเขาบอกแก่ผู้คนว่า พระเจ้าแผ่นดินทรงต้องการ พึ่งสติปัญญาของเขานั้น เด็กชาวนาโง่ทึ่มเจ้าของ คำบอกเล่าก็พลันถูกโห่ฮา จากผู้ฟังอย่างขบขันที่สุด ด้วยว่าเด็กหนุ่มคนนี้เป็นคนสติไม่เต็มบาท ซึ่งใครๆ ในหมู่บ้าน โอเวอร์รู้กันดีอยู่แล้ว
แต่คนไม่เต็มบาทคนนี้แหละ ที่ประวัติศาสตร์ได้จดจารึกไว้ในฐานะบุคคลประหลาด ผู้มีความสามารถเยี่ยมยอดที่สุดคนหนึ่งของอังกฤษในสมัยกลาง
โรเบิร์ต นิกซัน เป็นชื่อของเขา เกิดมาในตระกูลชาวนาผู้ยากจน และเป็นลูกชายคนเดียว เคยเข้าเรียนหนังสือได้ไม่เท่าไหร่ ทางโรงเรียนก็ส่งตัวคืนมา เพราะทึ่มเกินไป เรียนไม่ไหว พ่อแม่จึงให้มาช่วยไถนาดังเดิม
ขณะนั้นเป็นปี ค.ศ.1485 ชะตากรรมของประเทศอังกฤษแขวนอยู่กับการรบพุ่งที่สมรภูมิบอสเวิร์ธ กองทัพของพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 ถูกปิดล้อมโดยกองทัพของเฮนรี่ เอิร์ล แห่งริชมอนด์ ณ บริเวณที่ห่างจากสมรภูมิหลายไมล์นั่นเอง โรเบิร์ต นิกซัน คนบ๊องกำลังไถนาวุ่นอยู่
ทันใดนั้น นิกซันก็หยุดไถเสียเฉยๆ เขายืนก้มศีรษะตํ่าครู่หนึ่งเหมือนเงี่ยหูฟังเสียง อะไรอยู่แล้วพลันก็กระทำอาการประหลาดขึ้น
นั่นคือ กระโดดโลดเต้นไปมารอบๆ นาที่ไถเสร็จแล้ว แล้วโบกมือโบกไม้วุ่นวาย ชี้ไม้ชี้มือพลางวิ่งตะโกนเสียงหลง
เด็กหนุ่มผู้นี้เคยทำอะไรวิตถารอยู่บ่อยๆ แต่ทุกครั้งไม่เหมือนอย่างขณะนี้ คนที่พบเห็นการกระทำของเขาจึงวิ่งข้ามทุ่งนามาหมาย จะห้ามปรามแล้วไล่ให้กลับไปทำงานดังเดิม
แต่แล้ว บุคคลที่วิ่งเข้ามาถึงเป็นคนแรกก็ต้องหยุดชะงัก เพราะขณะนั้นนิกซันท่าทาง เหมือนคนสติวิปลาสอย่างแรง นัยน์ตาของเขาจ้องค้างเขม็ง นํ้าลายฟูมปาก มือโบกไปมาพลางตะโกนก้อง
"นั่นแน่! ริชาร์ด...นั่นแน่! เฮนรี่ เอาเข้าไป...เอาเข้าไปเลย!"
แล้วก็หยักรั้งตั้งท่าเหมือนเชียร์คนต่อสู้กัน ปากก็ตะโกนลั่นอีกว่า
"ลุกขึ้น เฮนรี่! ลุกขึ้นจับอาวุธเข้า ข้ามสนามเพลาะไป เฮนรี่ข้ามสนามเพลาะไป และเอาชนะให้ได้!"
เขายืนอยู่ที่นั่นราว 2-3 นาที ขณะที่ผู้พบเห็นเหตุการณ์พากันตะลึงตะไล แล้วเด็กหนุ่มผู้มีท่าทางไม่เต็มบาทก็ยิ้มออกมาได้ มองดูผู้คนที่พากันจ้องดูเขาแล้วกล่าวหน้าตาเฉย
"สงครามชนะแล้ว เฮนรี่ชนะเด็ดขาด!"
แล้วเขาก็หันไปไถนาต่อราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ผู้เห็นเหตุการณ์ กลับไปบอกกับเจ้านายของตน ซึ่งเป็นลอร์ดแห่งชลมอนเดลลี่ เพราะเขารู้แล้วว่าโรเบิร์ต นิกซัน คนไม่เต็มเต็งนั้น สามารถมองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไกลๆได้ และยังล่วงรู้ต่อไปอีกด้วยว่าอะไรจะเกิดขึ้นในโอกาสหน้า
เขาได้พยากรณ์ถึงการเกิดเพลิงไหม้หมู่บ้าน ถัดไปอย่างแม่นยำ พยากรณ์ความตายของบุคคลในตระกูลชลมอนเดลลี่ พยากรณ์พายุร้ายได้ ล่วงหน้าถึง 2 สัปดาห์
แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ เขาพยากรณ์ว่า เฮนรี่และริชาร์ดที่กำลังรบกันที่สนามบอสเวิร์ธนั้น ริชาร์ดเป็นฝ่ายแพ้ และไม่ได้เป็นกษัตริย์อีกต่อไป
ขณะนั้น ยังไม่มีใครรู้ระแคะระคายเรื่องริชาร์ดตกบัลลังก์เลย จึงเฝ้ารอดูกันด้วยใจจดใจจ่อ ซึ่งปรากฏว่าอีก 2-3 วัน ต่อมาก็มีข่าวมาจากในราชสำนักว่า เฮนรี่ที่ 7 ได้เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์องค์ต่อไป เมื่อผู้สื่อข่าวมาถึงหมู่บ้านโอเวอร์ ต่างก็รู้สึกสนเท่ห์ไปตามๆ กันที่พบว่าชาวบ้านต่างก็รู้ล่วงหน้าแล้วว่าพระเจ้าเฮนรี่ได้เป็นกษัตริย์
ในไม่ช้า พระเจ้าแผ่นดินองค์ใหม่ก็ได้ข่าวของนิกซันผู้มีพรประหลาด คราวนี้ชาวเมืองโอเวอร์ต้องได้รับความขบขันอีกครั้ง เมื่อเด็กหนุ่มบ๊องคนนี้เที่ยววิ่งไปรอบหมู่บ้านหาที่ซ่อนตัว โดยอ้อนวอนชาวบ้านว่าให้ซ่อนตัวเขาไว้จากคนของพระราชาทีเถิด เพราะทหารของพระองค์กำลังจะมาพาตัวเขาเข้าไปในวัง เขากลัวไปอดตายอยู่ที่นั่น
ชาวบ้านหัวเราะกันก๊ากใหญ่...อะไรกัน พระราชาจะมีพระประสงค์ จะได้เด็กหนุ่มโง่ทึ่ม แถมยังบ๊องคนนี้ ไปทำอะไรที่ในวัง? และยังจะทำให้เด็กคนนี้อดตายเสียอีก ยิ่งเป็นไปไม่ได้ มีใครกันจะอดตาย ที่ในวังของพระราชา?
ทว่า ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ นิกซันพิสูจน์ให้ เห็นว่าเขามีพรสวรรค์ เหนือธรรมดาจริงๆ เพราะพระเจ้าเฮนรี่ทรง ส่งทหารมาตามตัว เขาไปในวัง และพระราชทานเงินทอง ให้กับมารดาผู้ยาก ไร้ของอัจฉริยบุรุษไม่เต็มบาทมากมาย เพื่อขอตัวลูกชายไปก่อนหน้าที่นายทหาร จะมาถึงไม่กี่นาที นิกซันมีท่าทางเศร้าหมอง ลุกจากโต๊ะกินข้าวที่นั่งพร้อมหน้ากัน แล้วว่า
"ทหารในวังกำลังมาถึงในไม่ช้านี้แล้วผมต้องไป และจะไม่ได้กลับมาอีก"
เมื่อเด็กหนุ่มไปถึงพระราชวัง ทุกคนรวมทั้งพระเจ้าแผ่นดินรู้สึกผิดหวังไปตามๆ กันที่เห็นเขาเป็นเด็กโง่ๆ เซ่อๆ คนหนึ่ง สารรูปดูไม่ได้เลย แถมท่าทาง ยังเป็นคนเบาเต็งด้วย
พระเจ้าเฮนรี่ที่ 7 จึงทรงลองเชิงเขาด้วยการถอดธำมรงค์ออกซ่อนไว้ และตรัสสั่งให้เขาทำนายว่าอยู่ที่ใด
โรเบิร์ตเพ่งพระพักตร์พระองค์ท่านไม่เกรง พระทัย แล้วพูดว่า
"แหวนไม่ได้หายนี่พระเจ้าข้า เพราะผู้ที่เอามันไปซ่อนย่อมเป็นผู้รู้ที่ซ่อนเอง"
คำตอบนี้ทำให้พระเจ้าแผ่นดินพอพระทัยมาก ทรงโปรดให้อาลักษณ์อยู่คู่เคียงเขาตลอดเวลา คอยจดคำพยากรณ์ของนิกซัน
บันทึกคำพยากรณ์นั้นปรากฏเป็นหลักฐานสืบมาจนเดี๋ยวนี้ ในนั้นมีข้อความกล่าวถึงนิกซัน พยากรณ์เหตุการณ์ล่วงหน้าได้เป็นเวลานานและแม่นยำยิ่งนัก เช่น พยากรณ์ว่าจะเกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในมหานครลอนดอนในปี ค.ศ.1666 และพยากรณ์ความยืนยาวของราชบัลลังก์แห่งพระเจ้ายอร์จที่ 4 แห่งราชวงศ์แฮนโนเวอร์
บันทึกเหล่านั้นกล่าวต่อไปว่า เด็กหนุ่มนิกซันพยากรณ์เหตุการณ์ ที่จะเกิดขึ้นในกาลอนาคตต่างๆ เช่น การรุกรานเกาะอังกฤษ ของกองทหาร ผู้มีก้อนนํ้าแข็ง ติดอยู่บนหมวก เฮลเมท ด้วยคำพยากรณ์ดังนี้
"หมีซึ่งถูกล่ามโซ่ไว้กับหลักบูชายัญ จะสลัดหลุดออกจากโซ่ตรวน แล้วจะทำให้เกิดความขัดแย้ง จนถึงต้องใช้กำลังกัน..."
แต่แล้ว ชะตากรรมของนิกซัน ผู้มีอัจฉริยะก็มาถึง
พระเจ้าเฮนรี่ไม่นำพาต่อคำขอร้องของเขา ที่ว่าอย่าปล่อยเขาให้อยู่ในวังตามลำพังเลย ในขณะที่พระองค์เตรียมเสด็จไปล่าสัตว์ พระองค์โปรดให้มหาดเล็กคอยดูแลเขา อย่างใกล้ชิดตลอดเวลาที่พระองค์ไม่อยู่
ปรากฏว่าคำพยากรณ์ของนิกซัน เกี่ยวกับตัวเองเป็นความจริงขึ้นมาอย่างน่าพิศวงที่สุด
นั่นคือ เจ้ามหาดเล็กเหลวไหลคนนั้นจับเขาขังในห้องห้องหนึ่งแล้วลั่นกุญแจ ตัวเองหลบไปเที่ยวสบายใจเฉิบ และก็เลยลืมว่าได้ขังเด็กหนุ่มไว้ในห้องใด เมื่อพระเจ้าเฮนรี่เสด็จกลับจากการล่าสัตว์ก็สายเกินไปเสียแล้ว
ได้มีการค้นหานิกซันเป็นการใหญ่ เพียงเพื่อที่จะพบว่าเขาถูกขังอยู่ในห้องเล็กๆ ห้องหนึ่ง และสิ้นชีวิตแล้วด้วยความหิว เพราะอดอาหารในพระราชวังอันโอ่อ่า ของพระราชาธิบดีแห่งอังกฤษนี่เอง!