อ่วมพลังงานจ่อขึ้นน้ำมัน-ก๊าซ อ้างลดภาระกองทุนฯรองรับเออีซี (ไทยโพสต์)
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
กระทรวงพลังงานดีเดย์ขึ้นราคาดีเซลและเอ็นจีวี ปี 2557 เหตุลดภาระกองทุนน้ำมันฯ และรองรับการเปิดเออีซี พร้อมสั่ง ปตท. จับตาราคาแอลพีจีตลาดโลก หลังราคาพุ่งแตะ 1,000 เหรียญสหรัฐต่อตัน เตรียมมาตรการขอความร่วมมือกลุ่มอุตสาหกรรมเซรามิกและภาคครัวเรือนลดใช้แอลพีจี พร้อมเดินหน้าขึ้นราคาแอลพีจีขนส่ง เดือนมีนาคม 2557
วันนี้ (11 ธันวาคม 2556) นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานเตรียมแผนจะปรับขึ้นราคาดีเซลและก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ (เอ็นจีวี) ในปี 2557 นี้ ส่วนอัตราการปรับขึ้นนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา เพื่อลดภาระกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต้องนำไปอุดหนุนเป็นประจำลง และรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) เพราะหากไม่ปรับราคาให้เหมาะสมกับตลาดโลก จะทำให้ต่างชาติแห่มาใช้น้ำมันและก๊าซฯ ราคาถูกในประเทศกันมาก ซึ่งจะทำให้กองทุนแบกรับภาระการชดเชยไม่ไหวในระยะยาว
นอกจากนี้ได้สั่งการให้ บมจ. ปตท. เร่งศึกษาราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ในตลาดโลก เนื่องจากขณะนี้ราคาแอลพีจีตลาดโลกปรับขึ้นสูงมากถึง 1,096 เหรียญสหรัฐต่อตัน ทั้งที่ยังไม่เข้าสู่ช่วงฤดูหนาวอย่างเต็มที่นัก ซึ่งต้องติดตามว่าจะขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 1,200 เหรียญสหรัฐต่อตันหรือไม่อย่างไรก็ตาม ส่วนหนึ่งเกิดจากความต้องการใช้ของโลกที่เพิ่มขึ้นเพื่อเตรียมรองรับฤดูหนาวของประเทศแถบยุโรป ประกอบกับประเทศญี่ปุ่นมีความต้องการใช้ผลิตไฟฟ้าทดแทนนิวเคลียร์ จึงทำให้ราคาขยับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงนี้
สำหรับประเทศไทยนั้น กระทรวงพลังงานได้เตรียมรับมือกับราคาแอลพีจีที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยจะดึงมาตรการประหยัดการใช้แอลพีจีมาดำเนินการเป็นอันดับแรก ซึ่งจะขอความร่วมมือกับภาคเอกชน อุตสาหกรรมที่เคยลงนามให้ความร่วมมือลดใช้แอลพีจีกรณีพิเศษไว้ โดยเฉพาะกลุ่มโรงงานเซรามิก รวมถึงขอความร่วมมือภาคครัวเรือนให้ประหยัดการใช้แอลพีจีลงในช่วงนี้ด้วย ทั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยลดภาระนำเข้าแอลพีจีของไทยลงได้
นอกจากนี้ ในปี 2557 กระทรวงพลังงานมีแผนลดการใช้พลังงานในประเทศลงด้วย โดยยังคงให้ภาคราชการลดการใช้พลังงานลง 10% จากการใช้งานปกติ นอกจากนี้ จะมุ่งส่งเสริมให้มีการลดใช้พลังงานในครัวเรือน รถยนต์ และอาคารสำนักงานต่าง ๆ ลงด้วย
แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า สำหรับราคาแอลพีจีในประเทศไทยขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับขึ้นราคาในส่วนของภาคครัวเรือนจาก 18.13 บาทต่อกิโลกรัม ปัจจุบันปรับขึ้นมาอยู่ที่ 20.13 บาทต่อกิโลกรัม และจะทยอยปรับขึ้นเดือนละ 50 สตางค์ต่อกิโลกรัมต่อไปจนถึงราคา 24.82 บาทต่อกิโลกรัม ในปี 2557 ส่วนภาคขนส่งปัจจุบันจำหน่ายอยู่ที่ 21.38 บาทต่อกิโลกรัม จะเริ่มทยอยปรับขึ้นราคาเดือนละ 50 สตางค์ต่อกิโลกรัมเช่นกัน โดยจะมีผลประมาณเดือนมีนาคม 2557 นี้ และจะทำให้ราคาแอลพีจีครัวเรือนและขนส่งกลายเป็นราคาเดียวกันในที่สุด
ส่วนราคาแอลพีจีภาคอุตสาหกรรมในเดือนธันวาคม 2556 นี้ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ยังคงยึดประกาศราคาเพดานสูงสุดต่อไปเป็นเดือนที่ 5 ที่ราคา 30.13 บาทต่อกิโลกรัม เนื่องจากราคาตลาดโลกปรับขึ้นสูง หากไม่ตรึงราคาไว้ที่เพดานสูงสุดตามที่รัฐบาลกำหนด จะทำให้ราคาแอลพีจีอุตสาหกรรมต้องเพิ่มขึ้นเป็น 40 บาทต่อกิโลกรัมแทน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก