ไม่ว่าคุณต้อง การลดน้ำหนัก 5 กิโลกรัม หรือ มากกว่า 22 กิโลกรัม ก็ต้องใช้หลักการเดียวกันในการลดน้ำหนัก วิธีลดน้ำหนัก วิธีลดความอ้วน ที่รวดเร็ว จะเกิดขึ้นด้วยคำแนะนำง่ายๆ ต่อไปนี้ เพียงแค่คุณมี ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการลดน้ำหนัก และนำมันไปปฏิบัติ คุณก็สามารถลดน้ำหนักได้ดั่งใจนึก โดยไม่ต้องอดอาหารมากเกินไป ไม่ต้องใช้ยา ไม่ต้องซื้อหนังสือมาอ่าน
น้ำหนักของร่างกายเรา จะถูกกำหนดโดย ปริมาณของพลังงานจากอาหารที่กินเข้าไปและปริมาณของพลังงานที่เราใช้ไป ผ่านกิจกรรมในแต่ละวันของเรา พลังงานมีหน่อยวัดเป็นแคลอรี่ ถ้าน้ำหนักของคุณคงที่ คุณอาจจะได้รับแคลอรี่เท่ากับที่คุณใช้ไปในแต่ละวัน หากน้ำหนักคุณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละวัน มีแนวโน้มว่า คุณบริโภคแคลอรี่ มากเกินกว่าที่คุณใช้ไปในแต่ละวันผ่านกิจวัตรประจำวันของคุณ
ทุกคนสามารถ ควบคุมปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับผ่านการกินในแต่ละวัน โดยการควบคุมอาหารที่เรากินเข้าไป คุณสามารถเลือกอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำและมีคุณค่าทางอาหารสูงได้ตามใจต้องการ และคุณยังสามารถควบคุมการใช้แคลอรี่หรือก็คือการเผาผลาญแคลอรี่ในแต่ละวัน การเผาผลาญแคลอรี่ในแต่ละวันขึ้นอยู่กับ
อัตราการเผาผลาญเป็นมูลฐาน(BMR) ของเรา
ระดับการออกกำลังกาย
การออกกำลังกาย และอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ หาอ่านได้ที่เว็บไซต์ 18Fat.com
สำหรับบางคน เนื่องจาก พันธุกรรม หรือ ปัจจัยและเงื่อนไขอื่นๆ อัตราการเผาผลาญขณะพัก(BMR) จะสูงขึ้นเล็กน้อยหรือต่ำกว่าค่าเฉลี่ย น้ำหนักของเรายังมีบทบาทในการกำหนดอัตราการเผาผลาญแคลอรี่ของเรา เพื่อรักษาร่างกายเราให้คงที่มากที่สุด อย่างเช่น คงที่หนัก 45 กิโลกรัม จะใช้พลังงาน(อาหาร) น้อยกว่าคนที่หนัก 90 กิโลกรัม เพื่อรักษาน้ำหนักให้คงที่
นิสัย การดำเนินชีวิต และการทำงาน ก็จะกำหนดแคลอรี่ที่เราต้องการในแต่ละวัน ใครบางคนที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการใช้แรงงาน ใช้ร่างกายทำงานหนัก จะเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่า คนที่ ทำงานนั่งโต๊ะทั้งวัน สำหรับคนที่ทำงานไม่หนัก การออกกำลังกายสามารถช่วยเพิ่มการผลาญผลาญแคลอรี่ได้
ประมาณการคร่าวๆ ผู้หญิง อายุ 31 – 50 ปี ต้องการแคลอรี่ 1800 แคลอรี่ต่อวัน เพื่อรักษาน้ำหนักปกติ ถ้าใครต้องการที่จะลดน้ำหนัก ทำเพียงแค่ ลดแคลอรี่ที่รับเข้าไปผ่านการกินให้น้อยลงกว่าแคลอรี่ที่ใช้ออกไปผ่านการทำกิจกรรมระหว่างวัน คนที่ไม่ต้องการลดอาหาร ก็ให้เพิ่มกิจกรรมเข้าไป เช่นการออกกำลังกาย
ที่มา: http://www.18fat.com/