อาหารการกินสมัยสงครามโลกหนึ่งและสอง
เรามาดูกันดีกว่าว่าสมัยสงครามโลกประเทศต่างๆ เขากินอยู่กันอย่างไร!!
เยอรมัน
หาก คุณเป็นชาวเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ลืมไส้กรอกเยอรมันไปได้เลย ขอแค่มีอะไรจะกินก็พอแล้ว เมื่อปี ค.ศ.1914 เยอรมันสามารถผลิตอาหารได้แค่ 80% นอกนั้นต้องนำเข้า และเมื่ออังกฤษทำการปิดล้อมเยอรมันด้วยกองทัพเรือ ชาวเยอรมันก็ต้องเผชิญกับภาวะอดอยากอย่างหนัก
ถึงกระนั้นในการปิด ล้อมช่วงแรกชาวเยอรมันยังคงหัวเราะเยาะการกระทำของอังกฤษอยู่ เรือเหาะเชปเปอลินของเยอรมันได้เคยทิ้งระเบิดลงกรุงลอนดอน 7oลูก มีคนตายไป 26 คน และบาดเจ็บนับร้อย แต่เรื่องของเรื่องก็คือ นักบินเชปเปอลินได้บรรจงหย่อน ขาหมูรมควันผูกติดร่มชูชีพลงมาด้วย พร้อมขอความ ‘ของขวัญจากเยอรมันที่กำลังจะอดตาย’
ซึ่งสมพรปากเพราะพวกเขาแทบจะอดตายจริงๆ!! (และไม่มีขาหมูรมควันแล้วด้วย)
และเพราะอาหารแท้ๆ นั่นหายากเย็นชาวเยอรมันเลยต้องหันไปพึ่งสิ่งที่เรียกว่า อาหารเทียม หรือ แอร์ซาตซ์ (Ersatz) เช่น
ขนมปัง - ทำจากแป้งถั่วและถั่วลันเตา ผสมขี้เลื่อยเพิ่มปริมาณ
ขนมเค้ก - ทำจากแป้งเกาลัดและแป้งจากต้นโคลเวอร์
ไข่เทียม - ข้าวโพดผสมมันฝรั่ง
เนื้อ - ข้าวสับผสมเนื้อแกะ (เนื้อจริงๆ เท่าที่หาได้คือม้าไม่ก็หมา แล้วก็หายากด้วย) หรือไม่ก็เป็นสเต็กผักสีเขียวทำจากผักขม มันฝรั่ง ถั่วลิสง ไข่เทียม
เนย - เพิ่มปริมาณด้วยการผสมแป้ง หรือไม่ก็ทำจากนมที่จับตัวเป็นก้อนผสมสีเหลือง และน้ำตาล
พริกไทย – เพิ่มปริมาณด้วยการผสมขี้เถ้า
กาแฟ - ทำจากลูกนัตอบผสมน้ำมันดิน จ่อมาก็กลายเป็นลูกสนกับลูกบีชแต่เมื่อต้องน้ำลูกไม้ไปเลี้ยงหมู กาแฟก็ทำจากแครอทกับหัวผักกาด(แล้วมันเรียกว่ากาแฟเรอะ?!)
ไขมัน - สุดจะบรรยาย เพราะพยายามผลิตจากวัตถุดิบต่างๆ เช่น หนูนา อีกา แมลงสาบ หอยทาก หนอน หรือกระทั่งรองเท้าบู้ตหนัง!
อังกฤษ
ข้าม ฝั่งไปที่เกาะอังกฤษกันบ้าง ช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งชาวอังกฤษโชคดีกว่าชาวเยอรมันมากกว่าเพราะแม้พวก เขาจะอดๆ อยากๆ แต่ก็เป็นช่วงๆ เท่านั้น (ทั้งนี้ความโชคดีไม่นับรวมเรื่องรสชาติของอาหาร เพราะยามปกติมันยัง---ติ๊ด---ขนาดนั้นแล้วยามสงครามมันจะขนาดไหนกัน!)
ว่ากันว่าอาหารของอังกฤษนั้นแสนสาหัส ชาสำหรับทหารอังกฤษมีการเติมผงฟอกขาวเพื่อฆ่าเชื้อโรคและทำให้รสชาติชาเหมือนน้ำในสระว่ายน้ำ
ส่วน นมยามสงครามก็ไม่น่าไว้วางใจ ปี ค.ศ.1917 วิลเลี่ยม แซ็กบี้ คงส่งนมในลอนดอนถูกจับหลัง ขายนมที่ ‘เจือน้ำเสียที่ได้จากอ่างน้ำในส้วมสาธารณะ’....แหวะ
อาหารหลักของ ทหารอังกฤษยามสงคราม คือเนื้อกระป๋อง (คล้ายเนื้อแช่เกลือ) กินกับหัวหอมดิบ ไม่ก็ขนมปังกรอบ ว่ากันว่าชาวนาฝรังเศสที่ให้ที่พักทหารอังกฤษถึงกับดีใจมากที่ได้ขนมปังกรอบ เพราะ มัน แทน หินเหล็กไฟ ได้ ดี เยี่ยม!
นอกจากนี้แม้แต่ขนมเค้กที่ทางบ้านส่งไปให้ทหารที่สนามรบ ทหารรายหนึ่งถึงกับบอกว่ามันแย่ยิ่งกว่าลูกปืนเยอรมันเสียอีก
ว่าอังกฤษก็ต้องพูดถึง อเมริกา ด้วยสิ
ข้าม ไปที่สงครามโลกครั้งที่สอง อเมริกาได้แจกคู่มือภาคสนามให้ทหารในสังกัด ข้อความมีดังนี้...คู่มือทหารเรือ หน้า 21 วิธียังชีพ เมื่อคุณอยู่ไกลจากฐานทัพเรือ และเสบียงก็เหลือน้อยมาก ให้คุณเอาตัวรอดโดยหันไปพึ่งธรรมชาติ
จำไว้ว่า - สัตว์ทุกชนิดกินได้
- ต้องระวังเวลากินงูพิษ
- ตัวอ่อนของแมลงเป็นอาหารที่กินดี
- ตั๊กแตนมีรสอร่อย แต่ต้องดึงปีกและขาออกก่อนกิน
- ห้ามกินดักแด้ หรือหนอนผีเสื้อ
ระหว่าง สงครามว่ากันว่าทหารสหรัฐดื่มโค้กไปทั้งสิ้นหมื่นล้านกระป๋อง ก็นะ เนื่องจากว่าน้ำธรรมดานั้นสกปรกเกินไป บางทีกองทัพพยายามแก้ด้วยการเติมคลอรีน รสชาติน้ำจึงเหมือนน้ำตามสระ แถมยังบรรจุมาในกระป๋องน้ำมันเก่าๆ หรือถังน้ำมันเชื้อเพลิง
กาแฟรึก็ห่วยสนิท
น้ำผลไม้ เจ้านี่ได้รับสมญาว่า น้ำกรดแบตเตอรี่
น้ำมะนาวเกล็ด ผสมน้ำแล้วรสชาติผ่านในฐานะน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
แอลกอฮอล์ ห้ามดื่ม
ดื่ม โคล่า ดีแล้วอัลฟ์เอ๊ย...
ที่มา : บอร์ดเฮตาเลีย และ http://archive.wunjun.com/yaoiland/3/244.html