10 โบสถ์ที่ไม่ธรรมดาของโลก
ฮาราจุกุ : โบสถ์ญี่ปุ่นแบบอนาคตกาล
โบสถ์ แบบทันสมัยให้ความรู้สึกแบบอนาคตนี้ตั้งอยู่ในโตเกียวประเทศญี่ปุ่น เป็นโบสถ์ที่นับได้ว่าเป็นผลงานการออกแบบชิ้นแรกของบริษัทการออกแบบ ซิเอล โร๊ก ครีเอชั่น ในปี 2005 ส่วนเพดานออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อให้เสียงธรรมชาติสะท้อนกังวาลค้างในอากาศนาน 2 วินาที เพื่อให้บรรดาผู้ศรัทธาและนักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์การได้ยินแบบ พิเศษ
วิหาร นักบุญบาซิลตั้งอยู่ที่จัตุรัสแดงในมอสโควประเทศรัสเซีย ซึ่งเป็นโบสถ์แบบรัสเซีย ออร์โธด็อกซ์ ส่วนยอดมหาวิหารประกอบด้วยโดมโป่งหลากสีสันเรียวชี้ที่ส่วนปลาย มีชื่อเรียกโดยทั่วไปว่า “โดมหัวหอม” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างอาคารแบบเครมลินในมอสโคว
ฮอลล์กริมสเกิร์ตจา หรือ โบสถ์แห่งฮอลล์กรีเมอร์ เป็นโบสถ์ของทางลูเธอรันที่ตั้งอยู่ที่ เริร์คจาวิค ในไอแลนด์
โบสถ์ แห่งนี้สูง 74.5 เมตร และนับได้ว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงเป็นอันดับ 4 ในไอแลนด์ ชื่อของโบสถ์ถูกตั้งตามนามของนักกวีและนักบวชชาวไอแลนด์ นาม ฮอลล์กรีเมอร์ ปีเตอร์สสัน (1614-1674) ผู้ประพันธ์บทขับแห่งพระมหาทรมาน
สถาปนิคของรัฐ กัดจอน ซามูเอลส์สัน ได้เริ่มลงมือออกแบบและก่อสร้างในปี 1937 และใช้เวลาร่วม 38 ปีในการก่อสร้าง
เทมพ์ เพเลียคิโอ คิร็อคโค่ หรือ โบสถ์ศิลาหิน เป็นผลงานการสร้างของสถาปนิคร่วมสมัย ใน เฮลซิงกิ โบสถ์ทั้งหลังถูกสร้างใต้ดินโดยมีเพดานที่ทำมาจากเส้นลวดทองแดง ส่วนการออกแบบเป็นผลงานของพี่น้องสถาปนิค ทีโม และ ทัวโม ซัวมาเลเนน และเสร็จสมบูรณ์ในปี 1969 ทั้งคู่เลือกหินที่สูงขึ้นมาจากชั้นผิวโลก 40 ฟุต เหนือระดับถนน และทุบสร้างกำแพงขึ้นมาจากภายใน
โบสถ์แห่งนี้จัด ได้ ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ที่ดึงดูดบรรดานักท่องเที่ยวที่มาเยือนเฮลเซงกิ ให้แวะเวียนมาเยี่ยมชมอยู่เสมอ
วิหารเมโทรโพลิทาน่า นอสซ่า เซนโฮร่า อพาเรซิดา ในนครหลวงของบราซิล เป็นผลงานรังสรรค์ของ สถาปนิค ออสคาร์ เนียร์เมเยอร์
โครงสร้างโครงคอนกรีตรูปทรงโค้งคว่ำ และงดงามด้วยหลังคากระจกชี้ขึ้นสูงด้านบนสู่ฟ้าสวรรค์
วิหาร แห่งนี้สร้างเสร็จสมบูรณ์ในวันที่ 31 พฤษภาคม ปี 1970 มีเส้นผ่าศูนย์กลางยางเพียงแค่ 70 เมตร ของพื้นที่ทรงกลมในส่วนที่มองเห็นได้
ผลงานชิ้นนี้ตั้งอยู่บนแนวคิด การ ปฏิวัติทางรูปทรงโค้ง ในการสร้างพื้นที่แต่ละส่วนให้ไม่สมมาตรกัน ขณะที่ตัววิหารทั้งหมดเป็นผลของการนำเสาคอนกรีต 16 เสาที่เหมือนกันทุกประการมาประกอบรวมกัน เสาแต่ละต้นมีรูปทรงโค้งคว่ำและหนักกว่า 90 ตัน เป็นการสื่อแสดงถึงมือ 2 มือที่ประณมกรขึ้นหาฟ้าสวรรค์เบื้องบน
โบสถ์ ไม้ บอร์กันด์ ในลาเออร์ด้า เป็นโบสถ์ไม้อนุรักษ์ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ และได้ชื่อว่าเป็นโบสถ์ไม้ที่ดีที่สุดในบรรดาโบสถ์ไม้ทั้ง 28 แห่งในนอร์เวย์ โบสถ์ไม้แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 12 และไม่เคยเปลี่ยนแปลงหรือถูกก่อร่างสร้างใหม่เลยมาจนถึงปัจจุบัน และโบสถ์แห่งนี้ยังถือว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์สำหรับอารยธรรมไวกิ้งในเกม Age of Empires II : The Age of King ด้วย
วิหาร ลาส ลาจาส ตั้งอยู่ในโคลัมเบียตอนใต้ ถูกสร้างขึ้นในปี 1916 ภายในแคนย่อนของแม่น้ำ ไช้างน้อยตารา
ตาม ตำนานแล้ว ที่นั่นคือสถานที่ซึ่งสตรีอินเดียแดงนาม มาเรีย มูเอเซส เดอร์ ควีโนเนซ ได้อุ้ม โรซ่า ธิดาหูหนวกตาบอดของเจ้าหล่อนเอาไว้บนหลัง ใกล้ๆ กับ ลาส ลาจาส (ภูผาศิลา) ด้วยความเมื่อยล้าจากการปีนป่าย มาเรียได้นั่งลงบนก้อนหินในบริเวณนั้น และเป็นตอนนั้นนั่นเองที่โรซ่าเปิดปากพูดได้เป็นครั้งแรก หลังเห็นภาพนิมิตปริศนาในถ้ำ ซึ่งภายหลังจากนั้นก็มีการพบภาพวาดของพระนางพรหมจารีย์มารีอาอุ้มพระกุมาร ถูกวาดไว้ในผนังของถ้ำนั้น ที่น่าอัศจรรย์คือ จากการศึกษาพบว่าภาพวาดนั้นไม่ได้เกิดจากการวาดภาพลงบนหิน หรือมีเศษสีปรากฏอยู่เลย เป็นเรื่องแปลกประหลาดที่สีดังกล่าวติดประทับแน่นจากในตัวหินเอง ลึกเข้าไปหลายฟุต
ไม่ ว่าตำนานดังกล่าวจะจริงหรือเท็จ ตำนานดังกล่าวก็เป็นเรื่องที่โด่งดังพอที่จะดึงดูดให้สร้างโบสถ์สำหรับเหตุ อัศจรรย์ขึ้น ณ สถานที่แห่งนี้ได้
โบสถ์ นักบุญยอแซฟผู้รับหมั้น เป็นที่เลื่องลือถึงศิลปะแบบร่วมสมัยของเพดานโดมทองคำทั้ง 13 ที่สื่อถึงอัครสาวก 12 คนและพระเยซูคริสต์ ที่ถูกถ่ายทอดผ่านยอดโดมตรงกลางที่ใหญ่ที่สุด
โบสถ์แห่งนี้ตกแต่งภาย ในด้วยรูปแบบแบบภาพไอคอนนูนแบบไบเซนไทน์ (เฟรสโก้) โชคไม่ดีนักที่ช่างทำภาพนูนนี้ถูกเนรเทศออกจากประเทศไปก่อนที่เค้าจะสลักนาม นักบุญตามธรรมเนียมของภาพนูนไอคอนเสร็จ
โบสถ์เหนือปราการ คาเลเมคดัน ใน เบลกราเด้ เซอร์เบีย
โบสถ์ รูซิคา เป็นวัดน้อยเล็กๆ ที่ตกแต่งด้วยศิลปะสนามเพาะ และมีโคมระย้าที่สร้างจากปลอกกระสุนปืน