สักการะเจดีย์ไจ๊ตะหลั่น

           มาถึงเมืองหลวงของรัฐมอญก็ต้องไปสักการะเจดีย์ที่ยิ่งใหญ่และศักดิ์สิทธิ์สูงสุดประจำรัฐ เจดีย์ไจ๊ตะหลั่นตั้งอยู่บนเนินเขาที่สามารถมองเห็นทุกมุมเมืองมะละแหม่งได้เด่นชัด ไม่ว่าจะเป็นสะพาน Than Lwin หรือสะพานข้ามแม่น้ำสาละวิน เส้นโลหิตสำคัญที่หล่อเลี้ยงชาวมอญและพม่า บ้านเรือน วัดวา และโบสถ์ต่าง ๆ ตลอดจนคุกสไตล์โคโลเนียล นับเป็นจุดชมวิวซึ่งนักท่องเที่ยวมักจะขึ้นมารอชมภาพอาทิตย์ลับฟ้าเหนือลุ่มน้ำสาละวินที่งามตรึงใจสุด ๆ

 อลังการพระปางไสยาสน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

           เมืองมุด่ง เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องการทอผ้าของชาวมอญ ถึงขนาดส่งขายไปทั่วพม่าเพราะเป็นสินค้าที่นักท่องเที่ยวนิยมซื้อเป็นของฝาก นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของวัดสำคัญอีกแห่งหนึ่งของชาวมอญนั่นคือ วัดป่าวินเส่งตอว์ยะ โดยทางเข้าสู่วัดด้านซ้ายมือจะมีรูปปั้นพระพุทธรูป 500 องค์ นำทางเราเข้าสู่เขตวัด เพื่อไปสักการะองค์พระไสยาสน์ที่มีความยาวถึง 200 เมตร ประดิษฐานอยู่บนเนินเขา และเป็นพระไสยาสน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

 โบสถ์คริสต์ต้องไปชม

           สองฝั่งถนนในมะละแหม่งเรียงรายไปด้วยบ้านเรือนสไตล์โคโลเนียลจากยุคที่อังกฤษเข้ามาปกครอง ทำให้เมืองนี้มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมทั้งพุทธ คริสต์ ฮินดู และมุสลิม ปัจจุบันศาสนสถานหลายแห่งอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ เช่น โบสถ์โฮลี แฟมิลีที่งดงามชวนตะลึง โบสถ์เซนต์แพททริกซึ่งเดิมทีเป็นโรงเรียนกินนอนของลูกหลานคหบดี รวมถึงเจ้าน้อยสุขเกษม ณ เชียงใหม่ ที่ได้มาพบรักกับมะเมียะ ภายหลังถูกรัฐบาลยึดแล้วเปิดเป็นโรงเรียนสอนอาชีพแทน และโบสถ์

 สักการะพระมหามุนี

           ท่องวัดยาตานาบงมิน ทั้งสองวัดนี้ได้รับอิทธิพลจากมัณฑะเลย์ เริ่มจากภายในวัดมหามุนีจะเป็นที่ประดิษฐานของพระมหามุนีที่ถอดแบบมาจากพระมหามุนีแห่งเมืองมัณฑทะเลย์ เช่นเดียวกับวัดยาตานาบงมิน มีสิ่งสำคัญที่ต้องไปชมคือ บัลลังก์สิงห์จำลองมาจากพระราชวังมัณฑทะเลย์ไว้สำหรับประดิษฐานพระเขี้ยวแก้ว ซึ่งปัจจุบันภายในยังมีพระเขี้ยวแก้วองค์จำลองให้สักการะด้วย

 ชมพระปางจะลุกจะนั่ง หนึ่งเดียวในพม่า

           จากเมืองมะละแหม่ง เราเดินทางไปสักการะพระพุทธรูปปางจะลุกจะนั่งแห่งวัดไจ๊มะยอ ระหว่างทางเราต้องผ่านถนนที่มีต้นตาลเรียงราย สองข้างทางปูพรมเขียวขจีไปด้วยทุ่งนาข้าวสุดสายตา สำหรับพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ เล่ากันว่ามีพระนางองค์หนึ่งตั้งใจมาสร้างวัด เมื่อมีคนแนะนำว่าในสมัยพระพุทธกาลนั้นพระพุทธเจ้าเคยนั่งแบบนี้จึงสร้างองค์พระในปางจะลุกจะนั่ง แล้วนำพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุไว้ด้านใน ต่อมาชาวบ้านนำโซ่มาล่ามองค์พระไว้เพราะกลัวว่าจะลุกหนีไป โดยรอบ ๆ พระประธานยังมีพระพุทธรูปปางต่าง ๆ มากมาย ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินชมได้อย่างทั่วถึง

 รำลึกถึงทหารสัมพันธพันธมิตร

           จากเมืองมะละแหม่ง เราลงไปทางใต้ประมาณ 64 กม. สู่เมืองตันบิวสะแย็ต เพื่อไปร่วมรำลึกถึงการสูญเสียของเหล่าทหารสัมพันธมิตรที่มาจบชีวิตในพม่าช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จากการถูกเกณฑ์มาก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายมรณะ ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวกับที่เชื่อมต่อมายังกาญจนบุรีของไทยเรานั่นเอง

Fast Facts 

            การเดินทาง : สายการบินนกแอร์มีเที่ยวบินเชื่อมต่อจากแม่สอดสู่มะละแหม่งวันละ 1 เที่ยวบิน ด้วยเครื่องนกมินิ 34 ที่นั่ง พร้อมโปรโมชั่นฉลองเส้นทางใหม่เริ่มต้นเพียง 1,590 บาทต่อเที่ยว (รวมค่าธรรมเนียมต่าง ๆ) คลิกดูรายละเอียดที่ nokair.com หรือคอลเซ็นเตอร์ โทร. 1318

            การขอวีซา : นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปประเทศพม่า ต้องขอวีซ่าก่อนการเดินทาง ที่สำนักงานเพื่อการยื่นขอวีซาพม่า ถนนสาทรเหนือ ซอย 71 กรุงเทพฯ เปิดวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-15.00 น. โทร. 0-2233-7250, 0-2234-4789

            ทัวร์มะละแหม่ง : เที่ยวมะละแหม่งแบบแบ็กแพ็กเกอร์ อาจติดขัดเรื่องภาษาและบางแห่งต้องเหมารถไป หากสนใจทัวร์มะละแหม่งพร้อมไกด์มากประสบการณ์ สอบถามที่คุณฐิติพร กาสมสัน บริษัท เอเชีย วัน แทรเวล โทร. 08-1962-8915

            ที่พัก : มะละแหม่งมีโรงแรมที่พร้อมให้บริการนักท่องเที่ยวไม่ถึง 10 แห่ง โรงแรมมะละแหม่ง สแตนท์ เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว ที่นักท่องเที่ยวนิยมที่สุดเพราะห้องพักสะดวกสบาย คนไม่พลุกพล่าน และตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำสาละวิน เว็บไซต์ mawlamyine.com 

            การเข้าวัดในพม่า : ต้องถอดรองเท้า ถุงเท้า และถุงน่อง อนุโลมให้นักท่องเที่ยวไม่ต้องนุ่งผ้าถุง แต่ห้ามนุ่งสั้นและเสื้อแขนกุด นอกจากนี้ บางวัดยังเก็บค่าเข้าชมและค่ากล้องด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเงิน : 100 จ๊าดเท่ากับ 3-3.50 บาทโดยประมาณ

Credit: http://travel.kapook.com/view76961.html