เริ่มต้นอันดับที่ 10 ของทีมงาน toptenthailand หมัด เป็นแมลงที่เกาะอาศัย และหากินกับสัตว์เลือดอุ่น เช่นสุนัข แมว หนู เป็นต้น หมัดจัดเป็นแมลงที่ไม่มีปีกแต่สามารถเคลื่อนที่ได้รวดเร็ว เนื่องจากมีขาคู่หลังที่ใหญ่ และแข็งแรง เพื่อใช้ในการกระโดด ด้วยสาเหตุนี้ ทำให้หมัดสามารถแพร่กระจายได้ง่ายและรวดเร็ว อาหารของหมัด คือเลือดจากสิ่งมีชีวิตที่หมัดไปอยู่อาศัย หมัดส่วนมากจะพบอยู่บริเวณกลางหลังและโคนหางของสัตว์ และเมื่อหมัดเมื่อโตตัวเต็มวัยจะวางไข่ในบริเวณขนของสัตว์ หรือ บริเวณที่สัตว์นอนอยู่ โดยวางไข่ครั้งละ 3-18 ฟอง ซึ่งตลอดช่วงอายุของตัวเมียจะวางไข่ได้หลายร้อยฟอง
อันดับที่ 9 ของทีมงาน toptenthailand เรือด เป็นแมลงมวนชนิดหนึ่ง ตัวเล็กประมาณ 3-5 ซม. รูปร่างเป็นรูปไข่ ตัวแบน ปล้อง ปากเป็นแบบเจาะ-ดูด มีลักษณะโค้งงอและสามารถพับเก็บภายในร่องด้านหน้าส่วนหัวได้ เรือดเป็นแมลงที่อาศัยตามร่องเพดานหรือรอยแตกของพื้นบ้าน เตียงไม้ และซอกตะเข็บของที่นอน เรือดเป็นแมลงที่แพร่กระจายได้รวดเร็ว แพร่จากบ้านหนึ่งไปยังอีกบ้านหนึ่งโดยไต่ไปตามฝาผนัง ท่อน้ำ การระบาดของเรือดมักพบที่บริเวณที่อยู่อาศัยที่ขาดการดูแลและเอาใจใส่เรื่องของความสะอาดของเครื่องนอน รวมไปถึงอาคารที่สาธารณะต่างๆ เช่นโรงภาพยนตร์ โรงแรม โรงเรียน ในพื้นที่สกปรก โดยเรือดจะดูดกินเลือดสัตว์และคนเป็นอาหารโดยมักออกมาดูดเลือดในเวลากลางคืน โดยผู้ถูกกินเลือดจะรู้สึกเจ็บในบริเวณที่ถูกดัดโดยมองไม่เห็นโดนเรือดแต่จะทิ้งรอยผื่นแดงเอาไว้ ถ้าบ้านใครรกมากๆระวังมันจะมาดูดเลือดไม่รู้ตัว !!
อันดับที่ 8 ของทีมงาน toptenthailand Calyptra เป็นสกุลผีเสื้อกลางคืนพบมากที่ประเทศมาเลเซียในเทือกเขายูแร็ล สและภาคใต้ของยุโรป โดยส่วนใหญ่หลายคนรู้จักในชื่อสามัญว่าผีเสื้อแวมไพร์ เนื่องจากมันมีงวงที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษในการที่สามารถเจาะผิวหนังของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหรือแม้แต่ผิวหนังของมนุษย์ได้ จากการศึกษาก็ พบเรื่องประหลาดใจเนื่องจากผีเสื้อชนิดดังกล่าวที่ดูดเลือดมนุษย์จะเป็นเพศผู้เท่านั้น โดยมีวัตถุประสงค์กินเลือดเป็นอาหาร ส่วนผีเสื้อกลางคืนตัวเมีย ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการพักผ่อนและรอคอยการจับคู่ผสมพันธุ์มากกว่า แตกต่างจากยุงที่มีเฉพาะตัวเมียเท่านั้นที่กินเลือดมนุษย์เพื่อใช้ในการวางไข่
อันดับที่ 7 ของทีมงาน toptenthailand ปลิงและทากดูดเลือด เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ลักษณะลำตัวเป็นข้อปล้องและยืดหยุ่น ชอบอยู่ในน้ำนิ่งตามหนอง หรือตามพื้นที่ชื้นแฉะเช่นบริเวณป่าดงดิบเขตร้อน ดำรงชีพโดยการดูดเลือดจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์เลื้อยคลาน ปลาบางชนิดเป็นอาหาร รวมไปถึงมนุษย์ด้วย และเนื่องจากไม่มีดวงตาจึงอาศัยการจับแรงสั่นสะเทือนจากการเคลื่อนไหวของเหยื่อด้วยแรงสั่นสะเทือนในน้ำ เมื่อเหยื่อเข้าใกล้มันจะใช้อวัยวะที่เรียกว่าแว่นดูดเกาะเข้ากับตัวเหยื่อ ซึ่งอวัยวะนี้มีทั้งด้านหน้าและด้านท้าย โดยมันจะใช้แว่นท้ายในการยึดเกาะเมื่อมันสามารถเกาะผิวเนื้อของเหยื่อแล้ว มันจะค่อยๆ ไต่อย่างแผ่วเบาเพื่อหาที่ซ่อนตัว (ในช่วงนี้ใช้เวลาประมาณ 80-90 วินาที ที่เราจะปัดหรือดึงปลิงออกโดยไม่ต้องเสียเลือด) หลังจากนั้นมันจะใช้แว่นหน้าลงบนผิวเนื้อของเหยื่อเพื่อดูดเลือด โดยปลิงจะปล่อยสารชนิดหนึ่งคล้ายกับยาชาและเวลาที่ปลิงดูดเลือดมันจะปล่อย สารออกมา 2 ชนิด ซึ่งได้แก่ สารฮีสตามีนช่วยกระตุ้นให้หลอดเลือดขยายตัว และสารฮีรูดีนมีคุณสมบัติต้านทานการแข็งตัวของเลือด ด้วยเหตุนี้เลือดของเหยื่อจะไหลไม่หยุด เมื่อปลิงหรือทากดูดเลือดอิ่มจนมีลักษณะตัวอ้วนบวมแล้ว มันจะปล่อยตัวร่วงลงสู่พื้นดินเอง สำหรับในวงการแพทย์สมัยโบราณมีการนำปลิงมาดูดพิษหรือเลือดเสียออกจากร่างกาย ในปัจจุบันแพทย์นำคุณสมบัติของปลิงมาทำให้เส้นเลือดในร่างกายไม่อุดตัน โดยเฉพาะเส้นเลือดหัวใจหรือนำมาช่วยให้เลือดในร่างกายหมุนเวียนได้ดีขึ้น อืม.. เข้าใจที่คนเค้าบอกกันเลยจริงๆว่าพวกเกาะผัวเกาะเมียกิน ไม่ทำงานทำการ เป็นปลิงดูดเลือด!!
อันดับที่ 6 ของทีมงาน toptenthailand ค้างคาวดูดเลือด เป็นค้างคาวชนิดหนึ่งมีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ ตั้งแต่เม็กซิโกไปจนถึงบราซิล ชิลีและอาร์เจนตินา มักอาศัยอยู่ตามเพิงหินหรือตามโพรงไม้ ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง มีพฤติกรรมชอบดูดเลือดสัตว์ชนิดอื่นเป็นอาหารหลังจากพระอาทิตย์ตกดิน แล้วโดยค้างคาวดังกล่าวมีฟันหน้าที่คมกริบเพื่อใช้กรีดผิวหนังเหยื่อ โดยเวลาเจอเหยื่อค้างคาวจะบินเข้าไปใกล้เหยื่อและจะเกาะบนพื้นก่อนที่จะ ค่อยๆ คลานเข้าไปหาเหยื่อ ทำให้เกาะเหยื่อได้โดยที่เหยื่อไม่รู้สึกตัว และใช้ฟันหน้าที่คมกรีดผิวหนังเหยื่อบริเวณที่ไม่มีขน พร้อมทั้งปล่อยสารกันเลือดแข็ง ทำให้เลือดแข็งตัวช้า แล้วจึงค่อยๆ เลียกินเลือดที่ไหลออกมาจนอิ่ม จนมีลำตัวกลมป้อม หรือได้จนกว่ามันจะพอใจก่อนที่จะจากไป เหยื่อของค้างคาวดูดเลือดส่วนมากเป็นสัตว์เลี้ยง เช่น วัว ควาย แพะ ม้า หมู หรือแม้กระทั่งคน เหยื่อที่ถูกค้างคาวกัดและกินเลือด จะมีรอยแผลที่เกิดจากค้างคาวกัด อาจมีเชื้อโรคหรือจะมีแมลงเข้าไปไข่ไว้ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายหากไม่ป้องกันไว้ก่อนจากพฤติกรรมของค้างคาวดูดเลือดนี้เอง ที่ส่งผลให้มีผู้เขียนนวนิยายนำมาดัดแปลงเป็น แวมไพร์ผีดูดเลือดในเวลาต่อมา ต้องยกเครดิตให้ค้างคาวดูดเลือดเลยได้ไอเดียแจ่มไปทำหนังดังๆขายตั้งหลายเรื่องแน่ะ!!
อันดับที่ 5 ของทีมงาน toptenthailand แลมป์เพรย์ เป็นปลาปรสิตชนิดหนึ่ง(และบางชนิดก็ไม่ปรสิต)และเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังที่เก่าแก่อีกชนิดของโลกที่มีชีวิตจากโลกล้านที่ครั้งนั้น ปกครองโดยหอบและแมลงมาแล้ว อาศัยมีทั้งในน้ำจืดและน้ำทะเลและมีกระจายอยู่ทั่วโลก คือ อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ยุโรป แอฟริกาตะวันตก ญี่ปุ่น ชิลี นิวซีแลนด์ และ ทาสเมเนียลำตัวยาวลักษณะคล้ายปลาไหล ลำตัวด้านหลังมักจะเป็นสีดำ มีครีบหลังและครีบหาง แต่ไม่มีครีบคู่ ไม่มีเกล็ด ปากจะอยู่ค่อนลงมาทางด้านท้อง มีลักษณะคล้ายแว่นใช้สำหรับดูดที่มีฟันเล็กๆ มากมาย โดยปลาชนิดนี้มีพฤติกรรมกินอาหารโดยใช้ปากและฟันการเจาะเข้าไปในเนื้อแล้ว กินเลือดปลาตัวอื่น คือเมื่อมันพบเจอเหยื่อมันจะใช้ปากเกาะเหยื่อและใช้ฟันและลิ้นครูดเอาเนื้อ ออก และให้เลือดของเหยื่อไหลผ่านได้สะดวก นอกจากนี้มันยังสามารถที่จะสร้างสารป้องกันการตกตะกอนของเลือดส่งไปที่ปากแผล ทำให้เลือดเหยื่อไหลเรื่อยโดยไม่หยุด เมื่อดูดเลือดของเหยื่อจนตัวเหยื่อแห้งก็จะปล่อยแล้วหาเหยื่อใหม่ ชาตินี้ขออย่าถูกปลาแบบนี้ดูดเลือดเลย หน้าตาหน้าเกลียดจริงๆ
อันดับที่ 4 ของทีมงาน toptenthailand สัตว์ในตระกูลแวมไพร์ดูดเลือด Cancellaria cooperi เป็นสปีชีส์ของหอยทากทะเล หรือเรียกสั้นๆ ว่าหอยตอร์ปิโต!! โอ้วแม่เจ้า!! เป็นหอยที่พบเห็นในทิศตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก โดยกินเลือดสัตว์ทะเลเป็นอาหาร โดยมันมีความสามารถพิเศษคือปล่อยกระแสไฟฟ้าคล้ายกับกรณีของปลากระเบน มันสามารถปล่อยไฟฟ้าได้ถึง 220 โวลต์ทำให้เหยื่อที่เป็นปลาเป็นอัมพาตอย่างง่ายดาย และหลังจากนั้นมันจะใช้หลอดที่บากมันสูบฉีดเลือดเหยื่อเพื่อเป็นอาหารสำหรับมันต่อไป เห็นตัวเล็กๆแบบนี้ โหดใช่เล่นนะเนี่ยเรา
อันดับที่ 3 ขอทีมงาน toptenthailand ปลาแคนดิรูดหรือปลาดุกเลือดเป็นปลาชนิดหนึ่งที่มีขนาดเล็กมากและโปร่งใส คือยาวประมาณ 1-2.5 นิ้ว มีถิ่นอาศัยอยู่ในบริเวณลุ่มน้ำอเมซอนและแม่น้ำ Orinoco ทวีปอเมริกาใต้ พวกมันไม่ชอบแสงแดดและมักจะฝังตัวอยู่กับโคลนหรือทราย บริเวณท้องแม่น้ำใต้ขอนไม้หรือใต้หิน และชาวพื้นเมืองในบริเวณแถบนั้นกลัว ปลาชนิดนี้มากเนื่องจากเป็นเป็นปลาปรสิตที่กระหายเลือดปลา สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมรวมถึงมนุษย์ด้วย โดยพฤติกรรมส่วนใหญ่ของมันจะหาปลาที่จะเป็นเจ้าบ้าน โดยการว่ายตามหากระแสน้ำที่ผ่านเหงือกปลา เมื่อเจอแล้วมันจะแทรกตัวเข้าไปในแผ่นปิดเหงือก หลังจากนั้นมันจะใช้เงี่ยงรอบๆ หัวของมันเกาะยึดกับปลาและใช้ปากดูดเลือดเพื่อเป็นอาหาร และหากเป็นมนุษย์ มันจะโจมตีมนุษย์เมื่อลงไปปัสสาวะในน้ำ เจ้าปลาชนิดนี้เมื่อรับรู้ถึงกระแสน้ำที่มีปัสสาวะปนมาด้วย มันจึงว่ายตามหาที่มาของกระแสน้ำนั้น เมื่อมันว่ายมาเจอรูทวารมันจะมุดเข้าไปในทางเดินปัสสาวะพร้อมกับฝังตัวและดูดเลือดและเนื้อเยื่อเป็นอาหารจนลำตัวมีขนาดใหญ่ขึ้น เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่เคยผ่านเหตุการณ์เหล่านี้มาก่อน ต่างกล่าวว่ามันเป็นความเจ็บปวดที่แสนจะทุกข์ทรมานและเป็นการยากมากที่จะเอาปลาชนิดนี้ออกจากร่างกายของคนครั้งหนึ่ง เมื่อนักวิทยาศาสตร์จับเจ้าปลาแคนดิรูดได้ แต่มันดันเข้าไปในบาดแผลเปิดที่มือของเขามันเคลื่อนที่อยู่ใต้ผิวหนังเพื่อว่ายไปหาเส้นเลือดดำ!! นึกภาพตามแล้วเสียวโว้ย!!!
ณ หมู่เกาะกาลาปากอสมีชื่อเสียงความหลากหลายชีวพันธ์ ณ ที่แห่งนี้มีสัตว์ต่างๆ มากมายที่แปลกประหลาดที่หลายคนไม่รู้จักมาก่อนและมีอยู่ใน ณ ที่แห่งนี้อย่างเดียว และสัตว์หลายชีวิตที่พยายามปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมเหล่านั้น และอันดับที่ 2 ของทีมงาน toptenthailand นกกระจิบแวมไพร์ ก็คือหนึ่งในสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น มันเป็นนกขนาดเล็กสีดำ ตัวเมียสีเทาปนน้ำตาลหน่อย มีงอยปากแหลมและใหญ่ โดยชื่อแวมไพร์นั้นมาจากการพฤติกรรมแปลกๆ ของมัน โดยอาหารของมันคือเลือดสดๆ นกขนาดใหญ่บนเกาะ (นก Nazca Booby และ นก Blue-footed Booby) โดยมันจะเอางอยปากที่คมจิกที่ผิวของนกเหล่านั้นแล้วก็ลิ้มรสเลือดอุ่นๆ จากแผลของนกดังกล่าวอย่างเอร็ดอร่อย และที่น่าแปลกคือนกที่ถูกจิกเหล่านั้นไม่ได้ต่อต้านอะไรเลยจากการกระทำของนกกระจิบแวมไพร์ ส่วนสาเหตุที่มันมีพฤติกรรมเหล่านี้ก็มีหลายสาเหตุ แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นการเอาตัวรอดของนกกระจิบเนื่องจากอาหารบนเกาะเริ่มลดน้อยลง เห็นตัวเล็กๆน่ารักๆแบบนี้ แต่จิกกินเลือดเป็นอาหาร เหมือนผู้หญิงที่ตัวเล็กๆหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม แต่ซ่อนร้ายเหมือนแวมไพร์ผีดูดเลือดรอเวลาได้ดื่มด่ำเลือดของผู้ชายที่ตกเป็นเหยื่อ บรื๋อ!!!
อันดับที่ 1 ของทีมงาน toptenthailand ได้แก่ Diptera หรือ Fly เป็นสกุลแมลงที่บินได้หลากหลายสายพันธุ์ โดยแมลงที่ดูดเลือดเราที่รู้จักกันดีนั้นก็คือยุง เป็นแมลงที่พบได้ทั่วโลกแต่พบมากในเขตร้อนและเขตอบอุ่น โดยปกติ ตัวเมียมักจะกินเลือดเป็นอาหาร ส่วนตัวผู้มักจะกินน้ำหวานในดอกไม้ ยุงยังเป็นแมลงที่เป็นพาหะแพร่เชื้อโรคอีกด้วย เช่น โรคมาเลเรีย, ไข้เลือดออก, เวสต์ไนล์ไวรัส, ไข้เหลือง, ไข้สมองอักเสบ ยุงทั่วโลกมีอยู่ประมาณ 3,450 ชนิด นอกจากนี้ยังมีตัวเหลือบ สัตว์ตระกูลแมลงวันก็เป็นแมลงอีกชนิดที่ดูดเลือดมนุษย์เพื่อเป็นอาหารที่น่ากลัวพอๆ กับยุง โดยเหลือบนั้นมีรูปร่างโตกว่าแมลงวัน พบได้ทั่วไปแทบทุกที่ยกเว้นขั้วโลกเหนือและใต้ (แข็งตายหมดซะก่อน) มีปีกคู่เดียวซึ่งมักใส มีหลายสีแล้วแต่ชนิด เช่น สีนํ้าตาล สีนํ้าเงิน โดยมีเพียงตัวเมียเท่านั้นที่จะดูดเลือดมนุษย์และสัตว์เกือบทุกชนิด โดยมันมีปากเป็นแผ่นคมคล้ายใบมีดเพื่อตัดเนื้อให้ขาด และมันมีอวัยวะเป็นท่อดูดของเหลวกิน โดยมันเป็นพาหะนำโรคพอๆ กับยุง และสัตว์หลายชนิดสูญเสียเลือดจากการการถูกเหลือบดูดกินเลือด มีรายงานว่าสัตว์บางชนิดสูญเสียเลือดถึง 300 มิลลิลิตร ในการถูกเหลือบฝูงใหญ่โจมตีเลยทีเดียว!!