รู้กันอยู่แล้วใช่ไหมว่า "กาแฟ" และ "บุหรี่" เป็นสองตัวการใหญ่ที่ทำให้ "ฟัน" เปลี่ยนสี แต่เชื่อหรือไม่ว่า การที่ฟันเปลี่ยนสีกลายเป็นคราบเหลือง ๆ ยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่เราคาดไม่ถึงอีกมากมาย ว่าแล้วก็มาดูกันเลย
1. ยา
ยาปฏิชีวนะ และยาที่ซื้อหากันเองตามร้านขายยาอาจทำให้คุณยิ้มได้ไม่เต็มปาก นั่นเพราะตัวยา "เตตร้าซัยคลิน" จะทำให้เด็ก ๆ ฟันเหลืองได้ ขณะที่ในผู้ใหญ่เอง "เตตร้าซัยคลิน" ยังจะทิ้งคราบสีเทาสีฟ้าติดอยู่ที่ฟันอย่างถาวร และนอกจาก "เตตร้าซัยคลิน" แล้ว "แอนตี้ฮีสตามีน" หรือ "ยาแก้แพ้" บางชนิดยังทำให้ฟันเปลี่ยนสีไปด้วย
ดังนั้นแล้ว เวลาที่คุณไปพบทันตแพทย์ คุณควรนำใบสั่งยา หรือยาที่คุณรับประทานอยู่ไปพบแพทย์ด้วย เพื่อสอบถามว่า ยาชนิดนี้มีผลกระทบต่อฟันของคุณหรือไม่ เผื่อจำเป็นต้องเปลี่ยนยา
2. รับฟลูออไรด์มากเกินไป
ใคร ๆ ก็รู้ว่า "ฟลูออไรด์" ดีต่อสุขภาพฟันของคุณ แต่ไม่น่าเชื่อว่า หากได้รับ "ฟลูออไรด์" ในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจทำให้ฟันของคุณกลายเป็นสีเทาจุด ๆ ก็เป็นได้
โดยคนทั่วไปสามารถได้รับ "ฟลูออไรด์" ที่เกินขนาดจากการดื่มน้ำที่มีความเข้มข้นของ "ฟลูออไรด์" สูงเกินไป รวมทั้งการใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของ "ฟลูออไรด์" เข้มข้นสูง ฉะนั้นแล้ว ให้ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของ "ฟลูออไรด์" ในปริมาณที่พอเหมาะก็เพียงพอแล้ว
3. กรรมพันธุ์ และวัย
มันเป็นไปตามธรรมชาติที่คุณต้องยอมรับว่า หากคุณมีอายุมากขึ้น โอกาสที่ฟันจะยังคงความขาวไว้ได้ก็ยิ่งมีน้อยลง เพราะเคลือบฟันของคุณจะบางลง สีเหลือง หรือสีน้ำตาลธรรมชาติของชั้นเนื้อฟันที่อยู่ข้างใต้จะปรากฏออกมาให้เห็นแทน ซึ่งเนื้อฟันตามธรรมชาติของคุณจะขาว เหลืองน้อย หรือเหลืองมาก ก็ขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ของคุณแล้วล่ะ
4. ฟันถูกทำลาย
บ่อยครั้งที่อาการบาดเจ็บก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ฟันเปลี่ยนสีได้ โดยเฉพาะหากฟันถูกกระทบจากการประสบอุบัติเหตุ หรือตกจากที่สูง ก็ทำให้ฟันเปลี่ยนสีได้ เพราะฟันซี่นั้นได้ถูกทำลายไปแล้ว
5. เครื่องดื่ม
ไม่เพียงแต่ "กาแฟ" และ "ชา" เท่านั้น ที่จะทำให้ฟันของคุณเปลี่ยนสี แต่เครื่องดื่มสีเข้ม ๆ หลาย ๆ ชนิด เช่น ไวน์แดง โซดา น้ำผลไม้ รวมทั้ง "เบียร์" ก็ทำให้ฟันเปลี่ยนเป็นสีเหลืองได้เช่นกัน
"ง่าย ๆ เลย น้ำอะไรก็ตามที่ทำให้พรมของคุณเปื้อนเป็นคราบได้ ก็ทำให้ฟันของคุณเป็นคราบได้เช่นกัน" ดร.ฮาร์ม จากสมาคมทันตแพทย์อเมริกันบอก
นอกจากนี้แล้ว หากต้องการดื่มเครื่องดื่มอะไร ควรใช้หลอดดูดแทนจะดีกว่าการยกแก้วขึ้นดื่มพรวดเดียว เพื่อไม่ให้หน้าฟันสัมผัสกับเครื่องดื่มโดยตรง ซึ่งจะช่วยปกป้องไม่ให้ฟันเกิดคราบเหลืองได้บ้าง
6. สีสันในอาหาร
เชอร์รี่หนึ่งกำมืออาจทำให้คุณสุขภาพร่างกายดี แต่ไม่น่าเชื่อว่า มันกลับทำลายสุขภาพฟันได้ เพราะสีย้อมจำนวนมากที่ผสมมาในผลไม้ อย่างเช่น บลูเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ รวมทั้งซอสถั่วเหลือง จะทิ้งคราบหลงเหลือไว้ที่ฟัน
ดังนั้นแล้ว ง่ายที่สุดเลยก็คือ หากทานอาหารจำพวกนี้ ให้รีบแปรงฟันโดยเร็วเท่าที่จะทำได้ เพื่อไม่ให้คราบติดฝังแน่นที่ฟันนั่นเอง
7. นิสัยแย่ ๆ
การแปรงฟันไม่ถูกวิธี และไม่ยอมใช้ไหมขัดฟัน จะทำให้คราบที่ติดอยู่ที่ฟันไม่ถูกกำจัดหมดไปนอกจากนี้ การดูแลสุขภาพฟันที่ไม่เหมาะสมยังทำให้แบคทีเรียเติบโตในช่องปากได้เร็วขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดคราบเหลืองที่ฟันได้
ทางแก้ง่าย ๆ ที่ ดร.ฮาร์ม แนะนำไว้ก็คือ ควรแปรงฟันให้ได้เวลานานเท่า ๆ กับการฟังเพลงหนึ่งเพลง หรือประมาณ 3 นาที เพื่อจะได้กำจัดคราบสกปรกต่าง ๆ ให้หมดไปได้นั่นเอง
ซ้ำขออภัยค่ะ
ที่มา: http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=africa&month=12-2013&date=05&group=22&gblog=113