10 จุดแปลกประหลาดและไม่ธรรมดาที่สุดในโลก
มี สระน้ำหลายแห่งนอกฝั่งทะเล Belize อยู่ที่เกาะปะการัง Lighthouse Reef Atoll ห่างนคร Belize ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 50 ไมล์ ด้วยเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบ 305 เมตร ลึก 125 เมตร ที่นี่เป็นสระน้ำที่สามารถมองเห็นชัดเจนที่สุดด้วยตาธรรมดาขณะบินผ่านและก็ เป็นจุดนัดพบสำหรับใครๆที่หลงใหลดำน้ำทะเล ไม่เพียงเท่านั้น ที่ Blue Hole กัปตันเรือผู้ล่วงลับ Jacques Cousteau และคณะภาพยนตร์ของเขาได้ค้นพบอุโมงค์ใต้น้ำที่เพดานยุบลงเมื่อ 10,000 ปีก่อน
ถูก ต้องเหมือนชื่อที่เรียกพวกมัน ภูเขาหิน The Wave ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกเหมือนกำลังหลงเข้าไปในอีกโลกหนึ่งที่เต็มไปด้วย สิ่งลวงตา ด้วยคลื่นหินวนเวียน อวดตัวเองใต้แสงแดดของทะเลทราย บินสูงตามจิตนาการของนักท่องเที่ยวแต่ละคน ภูเขาหินแห่งนี้สามารถเปลี่ยนเป็นถุงขนมช็อกโกแลตกว้างใหญ่ ด้วยผนังภูเขาสูงถึง 15 เมตร มีนักท่องเที่ยวหลายคนเปรียบเทียบ The Wave เหมือนสระว่ายน้ำยักษ์ ด้วยกำแพงระลอกคลื่นโลดแล่นเปลี่ยนรูปร่างต่อเนื่อง บางครั้งแล่นลึกไปทางขอบฟ้า บางครั้งม้วนตัวเป็นทางซิกแซ็ก
แยก ออกจากแผ่นดินใหญ่ห่างจากนี่ 18 ล้านปี เกาะ Socotra ของเยเมน มองดูไม่ต่างอะไรกับดินแดนนอกโลกด้วยพืชและสัตว์สุดจะแปลกประหลาด ด้วยระบบนิเวศวิทยาหลากหลายที่สุด Socotra จึงได้รับการตั้งชื่อว่า Galpagos ของมหาสมุทรอินเดีย เป็นเกาะใหญ่ที่สุดในจำนวน 4 เกาะสังกัดหมู่เกาะ Socotra การแยกโดดเดี่ยวได้นำมาให้ Socotra กลุ่มพืชและสัตว์ หนึ่งไม่มีสอง ในโลก 37% ในจำนวนพืช 825 ชนิด สัตว์เลื้อยคลาน 90% และสัตว์น้ำมีเปลือกชนิดต่างๆ 95% ที่ Socotra ในแบบเฉพาะถิ่น ไม่สามารถพบเห็นในไม่ว่าสถานที่อื่นใด เหตุนั้น จึงไม่มีอะไรน่าแปลกใจเมื่อการท่องเที่ยวทางนิเวศพัฒนายอดเยี่ยมที่สุดที่ เกาะนี้
อยู่ ที่ระดับลึก 5 เมตรจากผิวน้ำทะเล ร้านค้า Ithaa อยู่ในเกาะ Conrad Maldives Rangali เขต resort หรูหราแห่งหนึ่งของกลุ่มโรงแรมมีชื่อเสียง Hilton ถ้าโชคดี จอง ได้ 1 ในทั้งหมด 12 ที่นั่งของร้านค้านี้ ลูกค้าจะได้รับรางวัลรับประทานอาหารภายในกำแพงแก้วกับฝูงปลาที่ว่ายน้ำอย่าง คึกคะนองอยู่รอบๆ เปิดร้านตั้งแต่เวลา 1100 ถึง 2400 ทุกวัน Ithaa บริการอาหาร 2 มื้อ เที่ยงและค่ำด้วยอาการและเครื่องดื่มตามรสนิยมยุโรป ประสานกับประเพณี Maldives ประเทศที่มีเกาะประมาณ 1,200 เกาะและตั้งอยู่ห่างอินเดียประมาณ 480 กม.
ตุรกี ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากที่สุด พื้นดิน Cappadocia ตั้งอยู่ที่ภาคกลาง มีชื่อเสียงด้วยกลุ่มหินเหมือนก้าวออกมาจากเรื่องเทพดา ได้รับการเรียกชื่อว่า ปล่องควันโบราณ กลุ่มหินเหล่านี้เป็นรูปร่างจากการเซาะกร่อนขัดเกลาจาดลมฝนธรรมชาติผ่านมา หลายพันปี
ความจริงอาจพบเห็นปล่องควันโบราณในที่อื่นๆ บนโลก เช่น ภูเขาหิน Bryce ที่ Utah หรืออนุสาวรีย์แห่งชาติ Badlands ที่ Nam Dakota (อเมริกา) แต่มีเพียงที่ Cappadocia บรรดา ปล่องควันโบราณ เพิ่งได้รับพลเมืองที่ตั้งหลักแหล่งมานานเปลี่ยนเป็นระบบบ้านเรือนและโบสถ์ กว้างใหญ่
ในช่วงต้นพันปีแรก บรรดาผู้นับถือศาสนาคริสต์ได้วิ่งไปถึง Cappadocia อาศัยภูมิประเทศภูเขาหินเพื่อหลบซ่อนการไล่ติดตามของชาวโรมัน ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 4 ประชาคมโบสถ์แห่งหนึ่งได้ก่อตั้งขึ้นที่ใจกลาง Cappadocia
ต้อง การว่ายน้ำผ่อนคลาย 2-3 รอบก่อนอาหารเช้า ? เช่นนั้นก็อย่าเลือกสระว่ายน้ำของ resort San Alfonso del Mar ที่บริเวณฝั่งทะเล Algarrobo ชิลีนะ เพราะว่าที่นั่นเป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้งใหญ่ที่สุดในโลก ว่ายน้ำรอบเดียวก็พอทำให้ขาดลมหายใจแล้ว! ตั้งอยู่ใกล้ฝั่งทะเล สระน้ำนี้ใช้แหล่งน้ำจากมหาสมุทรแปซิฟิก ก่องสร้างเสร็จเมื่อ ธ.ค.2549 มันได้รับบันทึกในรายชื่อที่สุดของโลก Guinness รับรองเป็นสระว่ายน้ำใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อปี 2550 ด้วยความยาวคร่าวๆกว่า 1,000 เมตร
โครง สร้างรูปแกะสลัก Spiral Jetty ได้รับศิลปิน Robert Smithson รังสรรค์บนพื้นดิน bazan เมื่อปี 2510 มันตั้งอยู่ห่างจากนคร Brigham ของ Utah ไปทางทิศตะวันตก 30 ไมล์และทางทิศเหนือติดทะเลสาบ Great Salt เป็นรูปร่างของดินบิดม้วนขนาดใหญ่ยาว 304 เมตรตรงไปลงในกลางทะเลสาบ Great Salt Spiral Jetty ได้สร้างขึ้นในช่วงเวลาที่บริเวณนี้แล้งยืดเยื้อ 2-3 ปีต่อมา Spiral Jetty จมน้ำหมดเนื่องจากระดับน้ำทะเลสาบสูงขึ้นมาอีก จนถึงปี 2542 มันจึงปรากฏบนพื้นดินอีกครั้งหนึ่ง
อุทยาน ซากสัตว์และพืชกลายเป็นหินแห่งชาติอเมริกา ที่รัฐ Arizona เป็นอุทยานแห่งชาติหนึ่งเดียวที่ป้องกันและรวบรวมหลายภูมิภาคเลียบตามถนนสาย 66 ได้รับประเมินเป็นอนุสาวรีย์ที่ระลึกมากที่สุด ในอุทยานแห่งนี้มีทั้งโครงสร้างหินแกะสลักอินเดียและบ้านหินโมรา Agate โดยชนเผ่าผิวแดงก่อสร้างด้วยไม้ที่กลายเป็นหิน
กว้าง กว่า 3,600 เฮกตาร์ ประกอบด้วยหินทรายสูงนูนขึ้นมาจากพื้นทราย หุบเขาภูตผีทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกชอบเมื่อย่างเหยียบที่นี่ ก็ไม่แปลกใจมากนักเมื่อรู้ว่าในทศวรรษ 2463 Arthur Chaffin ผู้บริหารจัดการเรือข้ามฟากแม่น้ำ Colorado (อเมริกา) ได้หลงใหลผืนดินประหลาดนี้และตั้งชื่อให้มันว่า หุบเขากองดิน ช่วงเวลาดีที่สุดเพื่อไปดูหุบเขาภูตผีคือในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง ช่วงเวลาที่เหลือประจำปี (ตั้งแต่ มิ.ย. ถึง ส.ค.) แดดร้อนที่สุด นักท่องเที่ยวสามารถอยู่เล่นในเวลากลางวันหรือปักเต็นท์กลางคืนแล้วแต่ชอบ