คำพูดนี้ปกติคนที่ใช้คือดาราที่จำเป็นต้องซื้อชุดใหม่ทุกวันเพื่อการทำงาน แต่การเสียเวลาเพื่อเลือกเสื้อผ้าเก่าๆ ในตู้นั้นไม่ค่อยสมควรเท่าไหร่ สำหรับคนทั่วไปนั้นลองใช้วิธี mix&match จับเสื้อตัวเก่ามาใส่กับกางเกงตัวใหม่ หรือลองเย็บปักถักร้อยเข้าไปเพื่อเพิ่มลูกเล่นและความสวยงาม เพียงเท่านี้ก็ประหยัดเงินในกระเป๋า แถมเพื่อนๆ ยังไม่รู้อีกด้วยว่าเราใส่ชุดเดิม

ออกแนวหาตัวช่วยเสริมเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง กว่าจะผสมผสานทุกสิ่งทุกอย่างจนลงตัวก็เลยใช้เวลานานไปหน่อยค่ะ

แบบนี้เสื้อผ้าเต็มตู้ แต่ไม่รู้จะใส่ชุดใดดี ลองชุดใด ตัวไหนก็อึดอัดไปซะหมดทุกชุด กว่าจะหาชุดที่รัดตัวเองได้น้อยที่สุดก็เปลี่ยนไปเป็นสิบเหมือนกันค่ะ แบบนี้คงไม่ต้องสงสัยเรื่องเวลานานกว่าปกติแน่นอน

เห็นใจเลยค่ะ สำหรับคนที่มีรูปร่างสมบูรณ์ไปนิด เพราะใส่ชุดไหนออกมาต่างก็คิดว่ามันไม่สวย มันดูไม่ดี หมดความมั่นใจในตัวเอง กรณีแบบนี้ไม่ใช่เสื้อผ้าแต่คงเป็นที่ความคิดและความมั่นใจในตนเองมากกว่านะคะ

ปัญหาสำหรับสาวสวยที่ไม่ว่าจะใส่ชุดไหนก็ออกมาดูดี คนภายนอกมองเข้ามาอาจคิดว่าแต่งแบบใดก็ได้ สวยหมด แต่กลับเจ้าตัวแล้วกว่าจะเลือกที่ถูกใจและให้ตัวเองดูดีได้นั้นมันยากเหลือเกิน

คนเรามีหน้าที่ มีความรับผิดชอบ มีหลายสิ่งที่ต้องทำ การพบเจอผู้คนแต่ละครั้งจึงต้องคำนึงถึงสถานะการณ์ต่างๆ ที่ต้องทำ การเลือกเสื้อผ้าถือว่าสำคัญมาก วันหนึ่งอาจไปในหลายสถานที่จึงต้องเลือกที่เหมาะสมที่สุด แบบว่าชุดเดียวไปได้หมด

ออกแนวจิตหลอนนิดๆ สำหรับสาวๆ ประเภทนี้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนแบบนี้มีจริง ถ้าถึงที่ทำงานแล้วเริ่มมีคนทักถึงความไม่สวยงามบางอย่างของเธอ วันนั้นทั้งวันเธอจะไม่มีสมาธิทำงานเลยทีเดียว มัวแต่กังวลถึงความไม่สวยของตัวเอง

ไม่ว่าใครๆ ก็อยากให้คนที่พบเห็นประทับใจด้วยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสาวๆ การออกจากบ้านแต่ละครั้งนั่นหมายถึงต้องพบเจอผู้คนนับร้อยนับพัน ต้องขอสวยกันบ้างนิดหน่อย

ปัญหาหนักใจของบรรดาสาวๆ ที่เปิดตู้เสื้อผ้ามาแต่ไม่รู้จะใส่ชุดไหนดี เห็นชุดนี้ก็ชอบ เลือกไปเห็นชุดใหม่ก็ชอบ กว่าจะตัดสินใจได้เลยใช้เวลานานไปหน่อย

นัดกับคนสำคัญทั้งที ต้องสวยที่สุดเพื่อความประทับใจที่ไม่รู้ลืม จึงจำเป็นต้องเลือกชุดที่สวยที่สุดและดูดีที่สุด ทำให้เกินเวลามานิดหน่อยเท่านั้นเอง