ข้าวโพดต้ม เมล็ดสีเหลืองทองดูน่ากิน รู้กันหรือไม่ว่า นอกจากความอร่อยของเมล็ดข้าวโพดแล้ว ไหมข้าวโพด ที่อยู่บริเวณเปลือกข้าวโพดยังมีประโยชน์ทางยาอีกด้วย
ในหนังสือ สมุนไพร 91 ชนิด พิชิตโรค ชุด ตำรายาล้ำค่าของหมอโฮจุน ที่ยูเนสโกคัดเลือกให้เป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก จากสำนักพิมพ์อินสปายร์ บันทึกไว้ว่า
ไหมข้าวโพดใช้แก้อาการบวมได้ วิธีการคือ นำไหมข้าวโพด 50 กรัม กับเมล็ดเทียนเกล็ดหอย 15 กรัมมาต้มน้ำ แบ่งดื่มวันละ 3 ครั้ง จะเกิดผลดีต่อร่างกายส่วนคนที่ป่วยเป็นโรคเยื่อหุ้มปอดอักเสบ อาการคือเจ็บหน้าอกที่มีลักษณะจำเพาะ กล่าวคือ เจ็บแปลบที่หน้าอกเพียงจุดใดจุดหนึ่ง (ตรงกับตำแหน่งที่มีอาการอักเสบ) อาจเป็นซีกซ้ายหรือขวาก็ได้ และเจ็บเพียงชั่วขณะที่หายใจเข้าลึก ๆ
ซึ่งปอดขยายตัวเต็มที่ ทำให้ส่วนที่อักเสบเกิดการเสียดสีกัน ขณะหายใจออกหรือหายใจแบบค่อย ๆ จะไม่มีอาการเจ็บหน้าอก ถ้าเป็นเยื่อหุ้มปอดอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสชนิดที่ไม่รุนแรง ก็จะไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ สำหรับอาการที่เห็นทั่วไปจะมีเหงื่อเย็น ๆ ออกจนเปียกข้างลำตัว ปรุงยาโดยนำไหมข้าวโพด 1 กิโลกรัม มานึ่ง แล้วพอกบริเวณปอด อาการจะดีขึ้น หรือนำมาต้มแล้วก็ดื่มได้ผลดีเช่นกัน
โรคไตอักเสบจะทำให้รู้สึกเหมือนมีน้ำเย็น ๆ ในช่องท้อง, โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรังหรือเฉียบพลัน โรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ, โรคดีซ่าน, โรคตับอักเสบ มะเร็งถุงน้ำดี นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
รวมทั้งนิ่วในอวัยวะอื่น ๆ ซึ่งเกิดได้ทั้งในไต กระเพาะปัสสาวะ ถุงน้ำดี หรือท่อของต่อมบางชนิดในร่างกาย เช่น ต่อมน้ำลาย ตับอ่อน อาการหลัก ๆ ของโรคคือ รู้สึกปวดหนัก ๆ ในท้องเป็นบางเวลา ทำให้เกิดการอาเจียน มีไข้ และเป็นโรคดีซ่าน
โดยปกติแล้วพบมากในผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป วิธีแก้อาการคือ ให้นำไหมข้าวโพด 10-20 กรัม มาต้มดื่มทุกวัน อาการจะทุเลาลง แต่ถ้าเกิดบาดแผล ให้นำไหมข้าวโพดสด ๆ มาตำให้ละเอียดแล้วพอกไว้จะทำให้อาการดีขึ้น สรุปชัด ๆ ได้ว่า ไหมข้าวโพดมีฤทธิ์ในการห้ามเลือด ลดไข้ แก้อักเสบ และช่วยขับปัสสาวะ