เมื่อสมัยที่เรายังเป็นเด็กตัวน้อยมักมีความฝันว่าจะได้เลี้ยงน้องหมาสักตัวไว้ในบ้าน อยู่เล่นเป็นเพื่อนกับเรา วิ่งเล่นในสนามหญ้าด้วยกัน แต่พอเดินเข้าไปขอพ่อกับแม่ทีไรมักจะได้คำปฏิเสธตอบกลับมาแทนด้วยสาเหตุต่างๆ นานาประการไม่ว่าจะเป็น เด็กๆ อาจจะยังมีความรับผิดชอบไม่พอ ถ้าเลี้ยงอาจทำให้เป็นภาระ หรือ น้องหมามีเชื้อโรค สกปรก มีเห็บ หมัด ขนร่วงเดี๋ยวเป็นภูมิแพ้ อย่าเข้าไปใกล้เดี๋ยวมันกัดจะติดโรคพิษสุนัขบ้า เด็กตัวน้อยหลายๆ คนก็เลยเดินคอตกเหลือไว้แค่ความฝันเช่นเคย
แต่สำหรับครอบครัวไหนที่เลี้ยงน้องหมาเป็นสมาชิกหนึ่งของครอบครัวอยู่ก่อนแล้วจะรู้ว่า การให้ชีวิตของเด็กๆ ได้อยู่ร่วมกับน้องหมามีข้อดีมากมาย สามารถช่วยยกระดับพัฒนาการของพวกเขาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ไม่ว่าจะเรื่องสุขภาพกาย สุขภาพจิตใจ และความรับผิดชอบ ถ้าเพื่อนๆ อยากรู้ว่ามีข้อดีอะไรบ้างติดตามได้ในบทความนี้ค่ะ
1. เลี้ยงน้องหมาแล้วทำให้ ... เด็กๆ มีสุขภาพแข็งแรง จิตใจแจ่มใส
มีงานกรณีหลายสถาบันและวารสารโรคเฉพาะเด็กในต่างประเทศหลายชิ้นระบุว่า เด็กๆ ที่เติบโตท่ามกลางสัตว์เลี้ยง ซึ่งรวมไปถึงน้องหมาจะช่วยลดโอกาสเสี่ยงเป็นโรคภูมิแพ้และหืดหอบในเด็ก สร้างภูมิคุ้มกัน อีกทั้งยังช่วยลดความเครียด และลดระดับความดันในเส้นเลือดได้อีกด้วย เพียงการลูบตัวน้องหมาจะช่วยทำให้หัวใจเต้นช้าลง รู้สึกผ่อนคลายสบายใจ
งานวิจัยชิ้นหนึ่งในประเทศฟินแลนด์ได้ทำการเก็บข้อมูลจากเด็ก 397 คนระหว่างปีค.ศ. 2002-2005 ที่อยู่ในครอบครัวที่เลี้ยงสัตว์และไม่เลี้ยงสัตว์ พบว่า 31 เปอร์เซ็นต์ของเด็กๆ ที่เติบโตในครอบครัวที่เลี้ยงน้องหมามีแนวโน้มที่จะมีสุขภาพแข็งแรงมากกว่าเด็กๆ ที่เติบโตมาโดยไม่ได้เลี้ยงน้องหมาค่ะ นอกจากนี้ยังมีระบุด้วยว่า 44 เปอร์เซ็นต์ของเด็กที่ครอบครัวเลี้ยงสัตว์มีแนวโน้มที่จะติดเชื้อทางหูน้อยกว่าเด็กที่อยู่ในครอบครัวซึ่งไม่ได้เลี้ยงสัตว์ และ 29 เปอร์เซ็นต์ของเด็กที่ครอบครัวเลี้ยงสัตว์นั้นมีแนวโน้มที่จะมีได้รับการติดเชื้อของแบคทีเรีย เชื้อโรคต่างๆ น้อยกว่าเด็กที่อยู่ในครอบครัวซึ่งไม่ได้เลี้ยงสัตว์อีกด้วยค่ะ แต่ถึงแม้งานกรณีศึกษาหลายๆ ชิ้นไม่สามารถระบุได้แน่นอนว่าเลี้ยงน้องหมาจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้นกันได้ทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ แต่การที่เด็กๆ ได้มีกิจกรรมร่วมกับน้องหมาออกไปเดินเล่น พาน้องหมาไปวิ่งสูดอากาศนอกบ้านแทนการนั่งดูโทรทัศน์ เล่นเกมหน้าคอมก็ช่วยให้พวกเขามีสุขภาพแข็งแรง กระปรี้กระเปร่า ร่าเริงแจ่มใสแล้วล่ะค่ะ
ในส่วนของสภาพจิตใจได้มีงานวิจัยของมหาลัยเวอร์จิเนียระบุว่า การสัมผัสสัตว์เลี้ยง หรือแม้การจับมือกันของมนุษย์จะช่วยลดความตึงเครียด ความดันโลหิตลดลง ลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล (cortisol) ที่กระตุ้นความตื่นกลัว กดระบบภูมิคุ้มกันไว้ แต่จะเพิ่มระดับฮอร์โมนระดับเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้เกิดความสุข ลดความเครียด ช่วยควบคุมอารมณ์และอุณหภูมิในร่างกาย ด้วยเหตุนี้เอง การให้เด็กๆ ได้กอด หรือได้ลูบน้องหมาจะช่วยให้พวกเขาใจเย็นลง รู้สึกดีกับตนเอง มีจิตใจอ่อนโยน อารมณ์แจ่มใส ภูมิคุ้มกันโรคสูงขึ้น พลอยทำให้สุขภาพกายดีไปด้วย
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเมื่อเลี้ยงเด็กอยู่ร่วมกับน้องหมาก็คือการดูแลความสะอาดของน้องหมา โดยเฉพาะน้องหมาที่เลี้ยงอยู่ในบ้าน หรือนอนในห้องเดียวกับเจ้าของ ควรมีการกำจัดเห็บหมัดเป็นประจำ ถ่ายพยาธิให้น้องหมาตามกำหนด ฉีดยาป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ดูแลเรื่องโรคผิวหนัง กลากเกลื้อน เพื่อป้องกันโรคที่มีโอกาสแพร่กระจายมาสู่คนได้ค่ะ ยิ่งประเทศเขตร้อนชื้น มีฝนตกเฉอะแฉะอย่างเมืองไทยจำเป็นต้องดูแลเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษค่ะ
2.เลี้ยงน้องหมาแล้วทำให้ ... เด็กๆ รู้จักความรับผิดชอบ
เมื่อเด็กๆ คิดจะขอคุณพ่อ คุณแม่เลี้ยงน้องหมาสักตัว อาจจะคิดแค่ว่าได้มีน้องหมามาเล่น มาอยู่เป็นเพื่อน เหมือนเป็นตุ๊กตาคู่ใจ แต่เมื่อได้น้องหมามาเลี้ยงแล้ว เด็กๆ ก็จะรู้ว่าพวกเขาต้องช่วยคุณพ่อคุณแม่หาข้าว หาน้ำให้น้องหมา พาน้องหมาไปอาบน้ำ พาน้องหมาไปออกกำลังกาย เวลาน้องหมาไม่สบายก็จะต้องดูแล พาไปรักษา เป็นกำลังใจให้กันและกันเมื่อน้องหมากำลังจากไป ซึ่งความรับผิดชอบต่อการเลี้ยงน้องหมาจะช่วยให้พวกเขารู้สึกผูกพัน เข้าใจความสำคัญ เห็นคุณค่าของน้องหมาว่าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวที่พวกเขาต้องดูแลร่วมกันค่ะ
3.เลี้ยงน้องหมาแล้วทำให้ ... เด็กๆ รู้จักกฏระเบียบมีวินัย
สิ่งสำคัญของการเลี้ยงสุนัขไม่ใช่การให้ความรัก การประคบประหงม การเอาใจน้องหมา หาอาหารรสเลิศให้กิน แต่การเลี้ยงน้องหมาคือการสร้างกฏระเบียบของบ้านที่ชัดเจน การทำตามกิจวัตรประจำวันอย่างสม่ำเสมอ และการฝึกวินัยให้แก่น้องหมา เพื่อที่พวกเขาจะมีความรู้สึกมั่นคง ไม่ก้าวร้าว ไฮเปอร์จนเกินควบคุม สร้างความสุขสงบให้กับครอบครัว ซึ่งเด็กๆ ที่อยู่ในครอบครัวก็จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฏระเบียบที่ตั้งไว้เหมือนกัน เช่น ห้ามแอบให้อาหารน้องหมาใต้โต๊ะอาหารเวลากินข้าว ห้ามให้น้องหมากินช็อกโกแลต ไม่ควรตะโกนเรียกน้องหมาเมื่อกลับมาจากโรงเรียน ควรสั่งให้น้องหมานั่งก่อนให้ข้าวกิน และ พาไปวิ่งออกกำลังกายเป็นประจำหลังทำการบ้านเสร็จ เป็นต้น การฝึกให้เด็กๆ เรียนรู้กฏระเบียบ และวินัยจากการเลี้ยงนี้เอง เป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่ของการมีวินัยในชีวิต สามารถจัดการวางแผนชีวิตของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเรื่องเล่นหรือเรื่องเรียน นั่นเองค่ะ (อ่านเพิ่มเติมบทความ การฝึกน้องหมาให้รู้จักกฎระเบียบของบ้าน ค่ะ)
4.เลี้ยงน้องหมาแล้วทำให้ ... เด็กๆ มีความรู้เกี่ยวกับการอยู่ร่วมกับสุนัข
เนื่องจากเด็กๆ มีประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับการเลี้ยงสุนัข พวกเขาจึงมีโอกาสเรียนรู้พฤติกรรม อารมณ์ ความรู้สึก และข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับน้องหมา รู้ว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำ เช่น ไม่ควรเข้าไปยุ่งกับน้องหมาเวลาที่พวกเขากินข้าว ไม่ควรจ้องตาน้องหมาแปลกหน้า เวลาน้องหมาตื่นเต้นมากๆ ไม่ควรร้องเรียกเสียงสูงๆ หรือตะคอกใส่ ไม่ใครใช้ความรุนแรงกับน้องหมา เป็นต้นค่ะนอกจากนี้เด็กๆ ยังสามารถมีโอกาสเรียนรู้การใช้ชีวิตร่วมกับน้องหมา อย่างเช่น ให้เด็กๆ ติดตามพาน้องหมาไปหาหมอ พวกเขาจะเรียนรู้วิธีการจัดการต่างๆ เมื่อน้องหมาไม่ยอมให้ฉีดยา หรือเรียนรู้ว่าน้องหมาควรฉีดยาอะไรบ้าง และในกรณีที่น้องหมาตั้งครรภ์มีลูก เด็กๆ ก็จะได้เห็น และเรียนรู้การคลอดลูกของน้องหมา ค่อยๆ มองดูน้องหมาเติบโต เห็นวัฏจักรชีวิต ถือได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่แสนจะมีคุณค่าสำหรับพวกเขาค่ะ (อ่านเพิ่มเติมบทความ ถึงเวลาทำความเข้าใจ "ความรู้สึกน้องหมา" อย่างถูกต้อง ไว้สำหรับสอนเด็กๆ ได้นะคะ)
5.เลี้ยงน้องหมาแล้วทำให้ ... เด็กๆ ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
เวลาว่างของเด็กๆ สมัยนี้คงหนีไม่พ้นหน้าจอสี่เหลี่ยมทั้งหลายไม่ว่าจะจอโทรทัศน์ จอคอมพิวเตอร์ จอแท็ปเล็ต เสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยได้ขยับเขยื้อนร่างกาย เดินไปโน่นมานี่ การเลี้ยงน้องหมาจะช่วยให้เด็กๆ มีโอกาสทำกิจกรรมต่างๆมากขึ้น เช่น พาน้องหมาไปเดินเล่น วิ่งออกกำลังกาย เล่นซ่อนแอบ เล่นจานร่อน ช่วยคุณแม่ทำอาหาร ทำขนม และของเล่นง่ายๆ ทำเองได้ให้กันน้องหมา สร้างความสนุกสนาน และเพิ่มพื้นที่สร้างสรรค์ให้แก่เด็กๆ ได้เรียนรู้ร่วมกับครอบครัวค่ะ (อ่านเพิ่มเติมการทำของเล่น ข้าวของ อาหาร และ เสื้อผ้า น้องหมา ได้ที่คอลัมน์ ไอเดียน้องหมานะคะ)
6. เลี้ยงน้องหมาแล้วทำให้ ... เด็กๆ มีเมตตาต่อสัตว์
ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่เมื่อได้ลองเปิดใจรับน้องหมาเข้ามาอยู่ในครอบครัว ก็จะได้พบกับความซื่อสัตย์ น่ารัก ช่างประจบเอาใจของน้องหมา ช่วยยกระดับจิตใจให้ดีขึ้น มีเมตตา ปรารถณาสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นกับน้องหมา รู้จักเสียสละ การให้โดยไม่หวังผลตอบแทน ยิ่งถ้าได้เลี้ยงน้องหมาตั้งแต่ยังเด็กก็จะช่วยหล่อหลอมจิตใจให้มีความอ่อนโยนมากขึ้น รู้ว่าอะไรทำแล้วน้องหมาเจ็บปวด มีความรู้สึกเจ็บไม่ต่างจากเรา เศร้าเป็น เหงาเป็นดีใจเป็น แล้วเมื่อน้องหมาทำผิดกัดของรักของหวง เด็กๆ ก็จะเรียนรู้ที่จะให้อภัย และเรียนรู้ที่จะอดทนในการอยู่ร่วมกับน้องหมาที่ต้องมีทั้งวินัย และความรับผิดชอบต่างๆ นอกจากนี้ความรักแบบไร้เงื่อนไขที่น้องหมามีให้แก่เด็กๆ ก็จะเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาได้เรียนรู้ว่า ไม่ว่าน้องหมาจะถูกว่า ถูกตี ถูกดุ พวกเขาก็ยังคงมีความรักมอบให้เจ้าของคนในครอบครัวไม่มีวันสิ้นสุด ... เป็นความรักที่พวกเขาควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างค่ะ
7.เลี้ยงน้องหมาแล้วทำให้ ... เด็กๆ มีเพื่อนคลายเหงา
ข้อดีที่ปฏิเสธไม่ได้อีกข้อหนึ่งของการให้เด็กๆ ได้มีโอกาสเลี้ยงน้องหมาก็คือ....เด็กๆ จะได้พบกับมิตรภาพที่เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนแท้ อยู่ข้างกายไม่มีทิ้งกัน ไม่ว่าจะยามทุกข์ สุข หรือเศร้า น้องหมาก็พร้อมจะมีส่วนร่วมรับรู้ แบ่งปันความรู้สึกนั้นๆ กับเด็กๆ อย่างเช่น เมื่อต้องอยู่บ้านคนเดียว ก็ช่วยให้เด็กๆ ไม่รู้สึกว่าถูกทอดทิ้งไว้เพียงลำพัง หรือถ้าเด็กคนไหนไม่มีเพื่อนเล่นบาส เล่นบอล น้องหมาก็พร้อมจะเป็นคู่แข่ง คู่ซ้อมให้ หรือถ้าเด็กผู้หญิงคนไหนอยากสวมบทเป็นสไตลิสต์ น้องหมาก็ยอมให้ใส่เสื้อ หรือเอาผ้ามาพันธุ์ เป็นนางแบบ นายแบบให้ ขอเพียงเด็กๆ รู้สึกดี มีความสุข มีรอยยิ้มก็พอ
อย่างไรก็ตาม การเล่นกับน้องหมาของเด็กๆ บางครั้งอาจรุนแรงไปบ้าง ผู้ใหญ่ควรสังเกต สอดส่องดูแล ตักเตือนให้ความรู้ และให้เด็กทำความเข้าใจว่าการกระทำใดจะสร้างอันตรายต่อน้องหมาและต่อตัวเด็กเองค่ะ แต่ถ้าน้องหมาที่เลี้ยงส่อพฤติกรรมก้าวร้าว ควรสอนวิธีการเข้าหาให้แก่เด็กๆ พร้อมทั้งรีบการจัดการกับพฤติกรรมไม่ชอบเด็กของน้องหมาอย่างเร่งด่วนก่อนที่จะเกิดเป็นปัญหาของครอบครัว (อ่านเพิ่มเติมบทความ แก้ปัญหาสุนัขทำร้ายเด็กให้ถูกวิธี ค่ะ)
8. เลี้ยงน้องหมาแล้วทำให้ ... มีประสบการณ์แปลกใหม่ และพบเพื่อนใหม่
เมื่อเด็กๆ ได้เลี้ยงน้องหมาก็จะได้พบเจอกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็นน้องหมากัดรองเท้าสุดโปรด น้องหมาหนีออกจากบ้าน น้องหมากระโดดเล่นแล้วเท้าตะปบหน้าถลอกเลือดออก น้องหมากลัวพลุ ซึ่งประสบการณ์หลากหลายช่วยให้เด็กๆ มีภูมิคุ้มกันในชีวิตมากขึ้น อีกทั้งยังมีเรื่องราวบอกเล่าให้เพื่อนๆ หรือคนอื่นๆ ได้ฟังผูกมิตรใหม่ได้ง่าย นอกจากนี้เวลาเด็กๆ พาน้องหมาออกไปเดินเล่น เข้าสังคม พาไปงานแฟร์ ก็จะพบเจอคนแปลกหน้าเข้ามาพูดคุย ทักทาย ก็เป็นการละลายพฤติกรรมรูปแบบหนึ่ง เด็กๆ จะกล้าเปิดเผยมากขึ้น กล้าพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราว มีโอกาสได้พบเพื่อนใหม่ๆ ยิ่งถ้าเด็กๆ คนไหนขี้อาย กลัวการเข้าสังคม การมีน้องหมาก็จะช่วยให้พวกเขามีความกล้า มีความมั่นใจและมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีขึ้นอีกด้วยค่ะ
อย่างไรก็ตาม แม้การให้เด็กๆ เลี้ยงน้องหมาจะมีข้อดีมากมาย แต่ก่อนที่คิดจะซื้อน้องหมาเข้ามาเลี้ยงในครอบครัวก็ควรจะคำนึงก่อนว่า เราต้องการเลี้ยงน้องหมาจริงๆ ไหม พร้อมจะให้เขาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวใช่หรือไม่ มีเวลาดูแลพวกเขาเพียงพอหรือไม่ และไม่ควรซื้อน้องหมาเป็นของขวัญให้แก่ลูกๆ เพราะ พวกเขาอาจจะเกิดความเข้าใจว่า น้องหมาเป็นของเล่นชิ้นหนึ่ง ที่เล่นไปสักพัก เบื่อก็ทิ้ง ทางที่ดีควรเลี้ยงเมื่อลูกโตพอที่เข้าใจความสำคัญของน้องหมา มีความรับผิดชอบ ดูแลพวกเขาได้ ซึ่งจะเหมาะกับเด็กที่มีอายุประมาณ 10 ขวบขึ้นไปค่ะ แต่สำหรับครอบครัวใครที่เลี้ยงน้องหมาอยู่ก่อนแล้ว เด็กๆ ก็จะรู้ว่าน้องหมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเกิดความผูกพันแน่นแฟ้น เห็นคุณค่าของน้องหมาและพร้อมจะเป็นเพื่อนแท้ของกันและกันค่ะ
บทความโดย : Dogilike.com http://www.dogilike.com/content/train/2751/
ที่มา: